บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 (2)

ดาวน้ำฟ้าเห็นแค่นั้นก่อนที่ทุกอย่างจะมืดลงเพราะเสื้อโค้ทที่เขาฝากไว้มันปิดบังการมองเห็นทั้งหมด แต่อึดใจต่อมาก็ได้ยินเสียงของความเจ็บปวดดังมาจากด้านหน้า

หญิงสาวดึงเสื้อโค้ทที่คลุมศีรษะอยู่ลงแล้วจึงได้เห็นว่าหนุ่มปริศนาเจ้าของเสื้อโค้ทกำลังซัดพวกโจรขโมยกระเป๋าสตางค์จนตอนนี้พวกมันต่างหมอบติดอยู่กับพื้น โดยที่เขากลับไม่เป็นอะไรเลย ไม่แม้แต่จะเหนื่อยหอบจากการต่อสู้สามรุมหนึ่งนั้นเลย เขาช่างเป็นผู้ชายที่มีฝีมือสุดยอดจริงๆ

หล่อนครางในใจแล้วก็ชะงักเมื่อหนุ่มปริศนาเดินกลับมาหาพร้อมกับกระเป๋าเป้ของหล่อนที่ได้มาจากคนร้าย เขายื่นกระเป๋าให้หล่อนพร้อมกับบอก

“ฉันขอเสื้อโค้ทแลกกับกระเป๋านี่ได้มั้ย”

ดาวน้ำฟ้าทำตาปริบๆ แล้วเพิ่งรู้สึกตัว หญิงสาวยื่นเสื้อโค้ทคืนเขาเพื่อแลกกับกระเป๋าเป้ของตนเอง

เขารับเสื้อและคืนกระเป๋าให้หล่อนแต่โดยดีก่อนจะส่งยิ้มบางๆ ให้และคำชมกึ่งสัพยอกที่หล่อนฟังแล้วรู้สึกทะแม่งๆ ชอบกล

“เธอใจเด็ดไม่เบา วิ่งตามคนร้ายมาแบบนี้ แล้วยังคิดจะลุยเดี่ยวอีก”

หล่อนสะอึกกับคำชมที่ทำให้รู้สึกอับอาย เพราะสิ่งที่เขาพูดเป็นได้ทั้งคำชมและคำแดกดัน ที่แปลได้ว่า...โง่หรือเปล่าที่วิ่งตามคนร้าย

“ก็...ก็ไม่มีใครช่วยนี่คะ” หล่อนแย้งแล้วนึกขึ้นได้ “เอ่อ...ขอบคุณนะคะที่ช่วยเอากระเป๋าคืนมาให้”

ดาวน้ำฟ้าบอกแล้วโค้งกายเพื่อแสดงถึงความขอบคุณตามมารยาทพลางชำเลืองมองไปทางคนร้าย ที่นอนแผ่อยู่เหมือนจะไม่มีใครลุกขึ้นมาได้สักคนเดียว ซึ่งเขาเองก็รู้เหมือนกันว่าหล่อนกังวลเรื่องพวกนั้น เพราะถึงจะขึ้นชื่อว่าคนร้ายแต่คนเราก็มีเหตุผลของการขโมยที่แตกต่างกัน ย่อมไม่สมควรที่จะทำร้ายกันจนถึงแก่ชีวิตเพื่อความสะใจหรือเพื่อการลงโทษก็ตาม

“นั่นไม่ถึงตายหรอก แต่คงลุกไม่ไหวไปอีกพักใหญ่...”

“ค่ะ”

หล่อนรับคำอย่างเข้าใจแล้วจึงหันมองเขาตรงๆ แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้สังเกตอีกฝ่ายเต็มๆ ตาเป็นครั้งแรก ผู้ชายคนนี้เทียบได้กับคำว่าหล่อเหลาจริงๆ

เขามีดวงตาสีดำเข้มลึกที่ส่งกระแสของความอ่อนโยนมาให้ แต่เพียงแค่กะพริบตาก็ให้รู้สึกถึงความน่าเกรงขามที่แผ่ซ่านออกมาจากภายใน จมูกของเขาโด่งรับกับโครงหน้าที่ชวนให้หลงใหล เรือนผมสีน้ำตาลเข้มดกดำสั้นแค่คอหวีจัดทรงเรียบร้อย

เขาช่างดูราวกับชายหนุ่มที่สามารถทำให้สาวๆ ทั้งหลายที่ได้เห็นต้องหยุดชะงักเพื่อหันมอง แต่ในอีกมุมหนึ่งกลับดูเหมือนหนุ่มน้อยอายุยี่สิบต้นๆ จนหล่อนเผลอคิดไปว่า เขาอาจจะเด็กกว่าหล่อนก็ได้

“ฉันรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่” จู่ๆ เขาก็เปรยออกมา

“คะ? อะไรนะคะ” หล่อนถามกลับตามไม่ทัน

“เธอกำลังคิดว่าฉันเป็นวัยรุ่นหรือเด็กมหาวิทยาลัยอยู่ใช่มั้ย ถ้าคิดอยู่ล่ะก็เธอกำลังคิดผิดไปไกลเลยทีเดียวคุณผู้หญิง...”

“ปะ...เปล่านะคะ”

ดาวน้ำฟ้าตอบปฏิเสธแต่ในใจเผลอคิดไปเรียบร้อย หญิงสาวรีบถอยกรูดทันทีเมื่อเห็นเขาก้าวเข้ามาใกล้ด้วยท่าทีที่ชวนให้หวาดหวั่น แต่เพราะมัวแต่ระวังตัวจากเขา หล่อนจึงไม่ทันมองว่าพื้นข้างหลังนั้นเกาะตัวเป็นน้ำแข็งลื่นๆ พอขาก้าวถอยกลับไปจึงทำให้หล่อนล้มลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าพอให้ได้เจ็บ

“โอ้ย...”

หญิงสาวร้องแล้วก็ได้แต่คลำบั้นท้ายตัวเองปอยๆ ทั้งเจ็บทั้งอายเพราะคนที่เดินผ่านไปมาเริ่มหันมามอง แต่ดูเหมือนคนที่ส่งความรู้สึกอันแสนหวั่นไหวมาให้หล่อนจะเห็นมันเป็นเรื่องขบขันเสียมากกว่า เขาพยายามกลั้นเสียงหัวเราะ ขณะยื่นมือมาหาเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงโชคร้ายจอมซุ่มซ่ามให้ลุกขึ้น

“ฉันช่วยมั้ย?”

“ขอบคุณค่ะ…”

หล่อนเผลอตอบออกไปเป็นภาษาไทยด้วยความเคยชินทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็พูดกับเขาเป็นภาษาญี่ปุ่นแท้ๆ แต่พอนึกได้ หล่อนจึงเปลี่ยนเป็นขอบคุณเขาด้วยภาษาญี่ปุ่นก่อนลุกขึ้นยืนตามแรงฉุดของเขา

“ไม่เป็นไรนะ” เขาย้ำถามครั้งหนึ่ง

“ไม่...ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”

หญิงสาวตอบแล้วชักมือออกอย่างนุ่มนวลก่อนจะถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าหิมะจะไม่รักหล่อนเอาเสียเลย เมื่อหล่อนเสียหลักลื่นลงไปนั่งจุ้มปุ๊กบนพื้นอีกรอบ คราวนี้คนที่ช่วยหล่อนไว้ถึงกับหลุดเสียงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ก่อนจะยื่นมือมาช่วยอีกครั้ง

“ขอบคุณค่ะ...”

ดาวน้ำฟ้ากล่าวเสียงอุบอิบแต่คราวนี้หล่อนไม่ยอมปล่อยมือจากมือของเขา เพราะกลัวจะต้องล้มลงไปให้ขายหน้าอีกเป็นรอบที่สาม ทำเอาชายหนุ่มผู้ช่วยเหลือต้องจับจูงหล่อนให้เดินออกไปจากจุดที่ยืนอยู่พร้อมกัน

เขาพาหล่อนออกมาตรงบริเวณทางเท้าด้านหน้าตรอกพร้อมกับหันมองผู้หญิงที่เขาได้ช่วยไว้เต็มๆ ตาอีกครั้ง แต่มันเต็มไปด้วยความชื่นชมในความสวย รวมทั้งชื่นชมความบ้าระห่ำของหล่อนที่กล้าวิ่งตามคนร้ายมาอย่างเอาเป็นเอาตาย

“เท่าทางจะไม่ชินกับการเดินบนหิมะ” เขาถามเหมือนชวนคุย

“คุณรู้ได้ยังไงคะ?” หล่อนถามกลับพลางทำตาโต

“ฉันมองเธอมาพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่เธอเดินออกมาจากทาวเวอร์”

เขาตอบเพื่อไขความกระจ่างให้หล่อนเข้าใจ แต่ดูเหมือนหล่อนจะคิดมากเกินไป แล้วก็ดันคิดไปถึงสิ่งที่เขาดูออกได้เสียด้วยว่าหล่อนกำลังเข้าใจผิดไปแล้วเต็มๆ

“ฉันไม่ใช่พวกสโตรกเกอร์โรคจิตหรอก...”

ชายหนุ่มชิงบอกก่อนหล่อนจะทันได้เอ่ยออกมา ดาวน้ำฟ้าจึงได้แต่ถอนหายใจแต่ก็ยังไม่วายมองเขาแปลกๆ จนเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอีกครั้งกับความคิดของหล่อนที่เปิดเผยตรงไปตรงมาเสียเหลือเกิน

“เธอตลกดี” เขาสัพยอกเบาๆ

“นั่นชมหรือเปล่าคะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel