สุภาพบุรุษ
“เอ่อ...ขอบคุณนะคะ...” วิวาห์โค้งตัวขอบคุณด้วยความซึ้งใจ รอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ แต่ก็แอบหวั่นๆ เหมือนกัน ไม่คิดว่าเขาจะพาเธอออกมาด้วยแบบนี้
หมับ!
เขาไม่ได้ตอบอะไร มองหน้าเธอนิ่ง แล้วเอื้อมมือไปดึงโทรศัพท์มือถือของเธอมากดๆ
หมับ!
“ผมชื่อปกป้องนะ...เรียกว่าป้องก็ได้...” กล่าวแนะนำตัวพร้อมกับยื่นโทรศัพท์คืนเธอไป
“อ้อ...เอ่อ...เรา...ชื่อวิวาห์...”
“มีอะไรโทรหาป้องได้เลยนะ...2เดือนใช่ไหม...”
“นาย...ได้ยินด้วยเหรอ” จะไม่ให้ได้ยินได้ไง พูดซะลั่นร้านขนาดนั้น
“อื้ม...แล้วนี่กลับยังไง...ให้ไปส่งไหม” อาสาจะไปส่ง
“มะ...ไม่เป็นไร...เดี๋ยวเรากลับกับเพื่อน”
“หูยแก...วันนี้ฉันต้องไปทำธุระกับป๊า...พี่ฝากวิวาห์ด้วยนะจ๊ะ” ซิมปอร์เมื่อเห็นช่องทางที่จะทำให้เพื่อนหลุดออกจากบ่วงเวรบ่วงกรรมก็รีบยัดเยียดเพื่อนให้ปกป้องในทันที
“เอ้า...ไหนตอนแรกบอกจะไปส่งฉันไง...”
“ก็ป๊าโทรมาพอดี...เอาน่า...พี่ฝากเพื่อนด้วย...” ตบไหล่ปกป้องแล้วรีบชิ้งออกไปทันที
“เอ้า...” จะดุเพื่อนที่ทิ้งเธอเอาไว้กับชายแปลกหน้าก็ไม่ทันเสียแล้ว จึงได้แต่หันมายิ้มแห้งๆ ให้ปกป้อง “เอ่อ...เดี๋ยวพี่...กลับแท็กซี่ก็ได้”
“ไม่เป็นไร...มาเถอะ...เดี๋ยวป้องไปส่ง” ความเป็นสุภาพบุรุษของเขามันทำให้เธอรู้สึกเกร็งๆ ทุกสัดส่วนบนใบหน้าของเขามันดูดีเกินไป ไม่คิดเลยว่าพอมาอยู่ใกล้ๆ แล้วจะยิ่งดูดีขนาดนี้ ที่น่าแปลกใจคือ ทำไมเขาถึงมาช่วยเธอ
“เอ่อ...ทำไมถึงมาช่วยเหรอ...”
“ไม่ชอบเห็นใครโดนรังแก ยิ่งผู้ชายรังแกผู้หญิง...ยิ่งไม่ชอบ” ตอบกลับเสียงเย็น
“ขอบใจนะ แต่เรื่องนั้น...จริงๆ ไม่เป็นไรก็ได้ ตั้งสองเดือน อีกอย่างเราไม่ได้รู้จักกัน เดี๋ยวปกป้องจะพานซวยไปด้วยเปล่าๆ”
“เรียกป้องเฉยๆ เถอะครับ”
“จะดีเหรอ?”
“แล้วบ้านพี่อยู่ไหน...เดี๋ยวป้องไปส่ง” ไม่สนใจคำถามของเธอ หากแต่ถามกลับ พร้อมกับเดินไปเปิดประตูรถยนต์คันหรูสีดำให้เธอเข้าไปนั่ง
“เอ่อ...หมู่บ้านเทพอรุณวิลล่า รู้จักไหม?”
“อ้อ...บังเอิญจัง...ป้องก็อยู่หมู่บ้านนั้น...”
“จริงเหรอ? ฮ่าๆ บังเอิญจริงด้วย...”
“แต่ป้องอยู่โครงการ4 แถวๆ ท้ายหมู่บ้าน”
“โครงการใหญ่สุดเลยนิ”
“งั้นมั้ง” กล่าวด้วยความถ่อมตัว “แล้วพี่วิวาห์อยู่โครงการไหน?”
“โครงการที่2”
“อ้อ...” จากนั้นไม่นานปกป้องก็ขับรถเข้ามาในโครงการที่วิวาห์อยู่
“ขอบคุณนะ...” รอยยิ้มจางๆ จากสาวรุ่นพี่ปรากฏขึ้น รอยยิ้มที่ดูไม่สดใส ทั้งที่เธอก็ไม่ได้หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ อยากจะรู้นัก หากเธอสดใสแล้วยิ้มอย่างมีความสุข เธอจะสวยแค่ไหนกัน
“ใครมาส่งหรอจ๊ะหนูวิวาห์” เสียงอ่อนโยนของแพรนวลเอ่ยถามทันทีที่วิวาห์เดินเข้ามาในบ้าน
“เอ่อ...เพื่อนค่ะคุณอา”
“ทำไมไม่กลับพร้อมกันกับพร้อมล่ะจ๊ะ”
“เอ่อ...คือวันนี้วิวาห์ไม่ค่อยสบายค่ะคุณอาเลยกลับก่อน”
“อ้อ...งั้นขึ้นไปพักเถอะจ้ะ เดี๋ยวอาทำอาหารเย็นให้”
“แต่...”
“ไปพักเถอะ เดี๋ยวอาทำให้” กำลังจะเอ่ยบอกขัด ก็ถูกแพรนวลดันหลังเธอขึ้นไปพักเสียก่อน “หยุด!! หยุดอยู่ตรงนั้นเดี๋ยวนี้เลยพร้อม...ทำไมลูกถึงไม่กลับมาพร้อมหนูวิวาห์” ระหว่างที่วิวาห์กำลังเดินขึ้นไปบนบ้าน พร้อมรักก็เดินเข้ามาในบ้านพอดี ด้วยใบหน้าที่หัวเสียอยู่ไม่น้อย
แล้วยิ่งถูกผู้เป็นแม่ที่ดู จะเอ็นดูลูกสาวของเพื่อนรักเสียจนออกนอกหน้าขนาดนั้น ก็ยิ่งพานทำให้หงุดหงิดเข้าไปใหญ่
“อะไรอีกเนี้ยแม่”
หมับ!!
“โอ๊ย!! แม่ดึงหูพร้อมทำไมเนี้ย พร้อมเจ็บนะ!!” โวยวายเสียงดังลั่นเมื่อผู้เป็นแม่ดึงหูจนเอียงไปตามแรงดึง
“เมื่อกี้ผู้ชายมาส่งวิวาห์ แกให้คนอื่นมาส่งวิวาห์ได้ไงกัน!!”
“ก็ดี จะได้มีผัวสักทีเบื่อหน้าจะแย่ อยู่บ้านนี้ไปแม่ก็รักแต่ยัยนั่น”
“นี่ไอ้พร้อม ตบปากเดี๋ยวนี้เลย หนูวิวาห์ดีที่สุดแล้ว แกรู้ใช่ไหมว่าฉันอยากได้หนูวิวาห์มาเป็นสะใภ้ฉันมาก”
“แต่พร้อมไม่อยากได้ จืดๆแบบนั้นไม่เอาหรอกนะ”
“แกเอาตาไหนมองว่าจืด สวยออกขนาดนั้น ถ้าแต่งองค์ทรงเครื่องเข้าหน่อยฉันพูดเลยว่าแกต้องตะลึง!!”
“เมื่อไหร่แม่จะเลิกยัดเยียดยัยนั่นให้พร้อมสักที น่ารำคาญ!”
“แล้วนั่นแกจะออกไปไหน!!” เพิ่งเข้าบ้านมาหยกๆ ก็จะหาเรื่องออกไปอีกแล้ว แบบนี้คนเป็นแม่ก็อดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้
“ไปเที่ยวกับเพื่อน เบื่อ!! อยู่บ้านกับไม่อยู่ก็มีค่าเท่าเดิม เพราะแม่เอาแต่รักเด็กนั่น ไม่รู้จะเก็บมาเลี้ยงทำไม”
“เดี๋ยวฉันจะตบปากแกเดี๋ยวนี้เลยนะ ลูกเวร นี่ลูกเพื่อนฉันนะ...แล้วไม่ใช่เพราะแม่เขาที่คอยช่วยเหลือเราหรือไง ถึงได้มีธุรกิจใหญ่โตแบบนี้ ไม่งั้นฉันกับแกคงได้ไปนั่งขอทานอยู่ใต้สะพานลอยแล้ว หัดสำนึกเสียบ้าง”
“แต่ถ้าไม่ใช่เพราะเรา ยัยนั่นตายไปนานแล้ว”
“ยังจะเถียงฉันอีก ขึ้นไปอาบน้ำแล้วไปเรียกหนูวิวาห์มากินข้าว อย่าให้ฉันเห็นว่าแกปล่อยให้คนอื่นมาส่งวิวาห์แบบวันนี้อีก ไม่งั้นฉันตัดเงินเดือนแกแน่” ประกาศกร้าวด้วยน้ำเสียงแข็งๆ ก่อนที่จะเดินไปที่ครัว
“วุ๊ว!! สรุปเก็บใครมาเลี้ยงกันแน่” สบถออกมาด้วยความหัวเสีย แต่ก็จำยอมทำตามคำสั่งของแม่อยู่ดี
ติ้ง!!
ซิมปอร์ : แก เป็นไงบ้าง
วิวาห์ : อะไรเป็นไง
ซิมปอร์ : ก็รุ่นน้องคนนั้นไง เป็นไงบ้าง เขาดีปะ
วิวาห์ : อะไรของแกเนี้ย
ซิมปอร์ : ฉันว่าน้องเขาดูเป็นสุภาพบุรุษมากเลย เหมาะกับแก
วิวาห์ : เหมาะอะไร เขาก็แค่เป็นคนดี ไม่ได้แปลว่าจะมาชอบฉันสักหน่อย
ซิมปอร์ : ไม่คุยด้วยแล้ว เชิญแกจมปรักกับไอ้เวรนั่นไปคนเดียวเถอะ ไม่รู้ว่ามันมีอะไรดี ทำไมถึงชอบมัน
วิวาห์ : แกไม่เข้าใจหรอก ถ้าวันนั้นพร้อมไม่อุ้มฉันออกมาจากกองไฟ ฉันตายไปนานแล้ว
ซิมปอร์ : สติค่ะเพื่อน!! แม่มันสั่งเนาะ หน้าอย่างมันเนี้ยหรอ จะเอาตัวเข้าไปในกองไฟเพื่อช่วยแก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!
“วิวาห์ แม่เรียกไปกินข้าว...” เสียงพร้อมรักเคาะประตูห้องของเธอ ทำให้เธอรีบเดินไปเปิดประตูด้วยความดีใจทันที
“กลับมาแล้วหรอ...”
“แล้วเห็นว่ามาหรือยังล่ะ ถ้าเห็นก็แปลว่ามาแล้ว...ไม่น่าถามอะไรโง่ๆ เลย...แล้วไปประจบประแจงอะไรแม่ฉันอีก รู้ไหมว่าฉันโดนด่ายับเนี้ย...”
“ขอโทษ...แต่ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ...”
“ทีหลังยืนรออยู่หน้าหมู่บ้าน...เธอต้องกลับกับฉัน” ออกเสียงสั่งแล้วเดินลงบันไดไปทันที จริงๆ ก็ไม่ได้อยากจะให้กลับด้วยนักหรอก แต่เบื่อแม่บ่น แล้วก็ไม่ได้ใจดีให้นั่งมาตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัยหรอกนะ แค่นั่งมาจากหน้าหมู่บ้านเข้ามาในบ้านก็อึดอัดจะแย่แล้ว
“ตักข้าวสิพร้อม นั่งบื้ออะไรอยู่” ออกเสียงสั่งลูกชายที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณอา เดี๋ยววิวาห์ตักให้ค่ะ” อาสาตักเองเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีปากเสียงตามหลังมา
“พร้อมรัก!!” เรียกชื่อเต็มลูกชายเสียงดุดัน จนเขาต้องยอมวางโทรศัพท์ แล้วแย่งโถข้าวไปถือเอาไว้เอง ตามด้วยตักใส่จานเธอและจานแม่ตามคำสั่ง
“ทานนี่สิจ๊ะ...วันนี้อาทำของโปรดวิวาห์เลยนะ...” เสียงหวานเสียจนคนเป็นลูกถึงกับอึ้ง โคตรไม่ยุติธรรมเลย พูดกับลูกแท้ๆ เสียงแข็ง พอพูดกับยัยนี่ดันพูดเพราะเสียงสองเสียงสาม นี่เขายังเป็นลูกของเธออยู่ไหมถามจริงๆ
“เอาอกเอาใจกันเข้าไป เดี๋ยวก็ได้ใจ...”
แม้ว่าบรรยากาศจะอึดอัดไปสักหน่อย แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี หลังจากกินข้าวเสร็จเธอก็ขอตัวขึ้นไปบนห้อง แต่พอนั่งอ่านหนังสืออยู่สักพัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง จนเธอต้องลุกไปเปิด
“ทำให้หน่อย...” ยื่นเอกสารให้เธอ
“อื้ม...ได้สิ...” ยอมรับมาทำให้แต่โดยดี ก่อนที่จะหันหลังเดินกลับเข้าห้องไป
“เดี๋ยว! ทำยังไงก็ได้ ให้ไอ้บ้านั่นชอบเธอ...แล้วฉันจะคุยกับแม่ให้...จะได้ไม่ต้องมายัดเยียดเธอให้ฉันอีก” วิวาห์กำลังจะปิดประตูห้อง พร้อมรักก็ดันประตูเอาไว้ก่อน พร้อมกับออกคำสั่ง
“ฉันไม่ดีตรงไหน ทำไมถึงได้รังเกียจฉันนัก” น้ำเสียงตัดพ้อระคนน้อยใจเอ่ยถาม
“ก็ทุกตรงนั่นแหละ ฉันไม่ชอบผู้หญิงแบบเธอ ถ้าเป็นเพื่อนรักเธอก็ว่าไปอย่าง”
“ซิมมันไม่ชอบนายหรอก นายก็รู้...”
“ก็เพราะรู้ไง เลยอยากได้...ล่อเพื่อนเธอมาให้ฉันสิ แล้วฉันจะทำดีกับเธอ”
“ฉันทำไม่ได้!!”
“งั้นก็คอยเป็นเบ๊ฉันแบบนี้ตลอดไปนั่นแหละ” ใช่!! นอกจากครอบครัวของเขาจะเป็นผู้มีพระคุณต่อเธอแล้ว เรื่องนี้ก็ด้วยที่ทำให้เธอยอมทำตามคำสั่งเขา เพราะถ้าไม่ทำ เพื่อนของเธอก็จะเป็นอันตราย และเธอก็รักเพื่อนคนนี้มากๆ มากเสียจนไม่อยากให้มาเสียใจหากต้องตกเป็นของเขา
วันต่อมา...
“รีบกินสิพร้อม หนูวิวาห์รอนานแล้วเนี้ย”
“เดี๋ยววิวาห์ไปเองก็ได้ค่ะคุณอา...” รีบหยิบกระเป๋าแล้วทำท่าจะลุกออกจากเก้าอี้ เมื่อเห็นว่ามันเริ่มสายแล้ว แต่พร้อมรักก็เหมือนจงใจอยากจะให้เธอสายไปด้วย
“ไม่ได้หรอก จะให้ไปเสี่ยงนั่งแท็กซี่ได้ยังไงเป็นสาวเป็นนาง”
“โหยแม่ หน้าแบบนี้หรอแท็กซี่จะเอาทำเมีย...” ไม่วายพูดแขวะ ทำให้วิวาห์ถึงกับขาดความมั่นใจไปเลย
จึ่ก!!
“โอ๊ยแม่!! พร้อมเจ็บนะ” แพรนวลหยิกไปที่เอวของลูกชายสุดที่รักอย่างแรง ที่ดันพูดจาไม่เข้าหู
“สักวันแกจะต้องเสียใจกับคำพูดของแกวันนี้ ลุก!! ไปได้แล้ว” ปลายประโยคกระแทกเสียงสั่ง จนพร้อมรักต้องจำใจลุกออกไปทั้งที่ยังทานอาหารเช้าไม่อิ่มเลยด้วยซ้ำ
