บท
ตั้งค่า

ระบายความในใจ

“พรุ่งนี้มีเรียนไหมครับ” เอ่ยถามพร้อมกับยื่นกระป๋องเบียร์ให้เธอ ตามด้วยนั่งลงที่ว่างข้างๆเธอ

เบื้องหน้าของเขาและเธอเป็นแม่น้ำ มีสะพานข้ามแม่น้ำขนาดใหญ่ วิวตรงนี้ทำให้เธอรู้สึกโล่งสบายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“ไม่มี...”

“พี่เคยดื่มไหมครับ”

“ไม่เคย”

“อาจจะขมๆหน่อยนะ แต่รับรองหลังจากที่ดื่มลงไปแล้ว มันจะทำให้พี่ดีขึ้น” จากตอนแรกที่เธอหวั่นๆ กลัวว่าเขาจะพาเธอไปดื่มที่ห้อง จากนั้นก็จบลงที่เตียง กลับไม่ใช่อย่างที่คิดเพราะเขาพาเธอมานั่งดื่มชิวๆที่ริมแม่น้ำ ปลดปล่อยจิตใจให้รู้สึกเบาสบาย อย่างที่เขาพูดจริงๆ

สงสัยคงคิดมากไปเอง จะว่าไปแล้วเด็กนี่ก็ไม่ได้แย่เลยนะ แอบประทับใจอยู่หน่อยๆ

“อึก...อื้อ...แหวะ...” ทันทีที่กระป๋องเบียร์ถูกยกกระดกเข้าปาก เธอก็สำลักกับรสชาติที่ไม่คุ้นชินหลักเท่าไหร่

“ถ้าเบียร์ขมไป งั้นดื่มสปายแทนไหม...น่าจะดื่มง่ายกว่า” ว่าแล้วก็ดึงกระป๋องเบียร์มาจากมือเธอแล้วหันไปหยิบขวดสปายที่ซื้อมาเมื่อครู่ส่งให้ ส่วนเบียร์ของเธอเขาก็เอามายกดื่มแทน แอบขำกับความหัวอ่อนของเธอ ทั้งหลอกง่าย ทั้งซื่อ ไม่แปลกใจทำไมถึงได้โดนรังแกแบบนี้

“อื้อ...อันนี้ดี แต่ก็ยังขมอยู่”

“แต่คงไม่ขมเท่าชีวิตพี่ตอนนี้หรอกใช่ไหมครับ” ทั้งขมทั้งขื่นเลยล่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แค่เพียงเพราะเขาไปช่วยชีวิตเธอจากกองไฟวันนั้น ก็ฝังใจและหลงรักเขาทันที

“...”

“ตัวเล็กนิดเดียว จะแบกโลกทั้งใบเอาไว้คนเดียว มันหนักนะครับ...”

“พี่มีความสุขดี ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย” ยังคงปากหนัก แม้ว่าสีหน้าและแววตาของเธอมันจะฟ้องก็ตาม

“โกหกป้องได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้หรอกนะ” เธอเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง แล้วยกขวดแอลกอฮอล์ขึ้นกระดกทีเดียวอึกใหญ่

อึกแล้วอึกเล่า จากที่จิบๆ ก็เปลี่ยนเป็นกระดกเอากระดกเอา รู้ตัวอีกทีตอนนี้เธอก็เมาจนพูดความรู้สึกทุกอย่างออกมาโดยที่ปกป้องแทบไม่ได้ถามเธอเลยด้วยซ้ำ นี่ใช่ไหมที่เรียกว่าน้ำเปลี่ยนคน

“มันลำบากใจตรงไหนรู้ไหม ตรงที่เขาจะล่อเพื่อนพี่ แล้วพี่ต้องทำยังไง ถ้าไม่ยอมทำตาม เขาก็จะลากเพื่อนพี่ไปทำไม่ดี ทั้งชีวิตพี่มีเพื่อนดีๆ แค่คนเดียว หากปล่อยให้พร้อมมาทำแบบนั้นกับเพื่อน พี่ก็คงไม่เหลือใครแล้ว”

“แล้วพี่ซิมรู้ไหมว่าพี่ยอมไอ้นั่นเพราะปกป้องเพื่อน”

“ไม่รู้ พี่ไม่ได้บอก”

“ทำไมไม่บอก”

“ซิมเกลียดพร้อมอย่างกับอะไร ถ้ารู้เรื่องนี้คงยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่ พี่ไม่อยากให้เขาโดนเกลียดไปมากกว่านี้แล้ว”

“คนเลวๆ โดนเกลียดก็สมควรแล้วไม่ใช่หรอ”

“พร้อมไม่ใช่คนไม่ดีหรอก เขาแค่ขาดความรักความใส่ใจ”

“ก็เลยรักมัน ใส่ใจมันเพื่อให้มันเป็นคนดี?” โคตรไม่สมเหตุสมผลเลย

“แม่พร้อมดีกับพี่มาก ถ้าไม่มีเขาและแม่ ป่านนี้พี่คงตายไปแล้ว”

“บอกพี่ซิมเถอะครับ ป้องเชื่อว่าพี่เขาจะต้องหาทางเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว”

“...”

“อีกอย่าง ความดีกับความเลว มันหักล้างกันไม่ได้ แม่เขาดี ไม่ได้แปลว่าจะกลบความเลวของลูกที่ทำกับพี่ได้”

ไม่มีเสียงตอบกลับใดๆ ออกมา คำพูดของเขาซึ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันไปสะกิดความรู้สึกส่วนลึกของเธอหรือเปล่า หรือจะมีแค่ความเมาเท่านั้นที่เธอรับรู้ได้ แต่อย่างน้อยๆ มันก็ทำให้ความลับบางอย่างมันหลุดออกมาจากปากเธอไม่มากก็น้อย แค่นี้ก็พอจะเข้าใจแล้ว ว่าเธอต้องอยู่กับแรงกดดันแค่ไหน เข้าใจว่าการที่เขายื่นมือมาช่วยเธอมันทำให้เป็นภาพที่เธอจำฝังใจ รู้สึกปลอดภัยในวันที่เธอนั้นโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่งพา ก็ไม่แปลกที่เธอจะหลงรักคนที่ช่วยชีวิตเธอ

แต่ในเมื่อเขาไม่ได้มารำลึกบุญคุณอะไรกับเธอ ก็ควรที่จะใช้ชีวิตของตัวเองให้มีความสุขสิ ในเมื่อเขาไม่ได้ต้องการความรักจากเธอ ก็ไม่จำเป็นต้องมอบให้ พอเห็นเธอเป็นแบบนี้ก็อดที่จะเห็นใจไม่ได้ มันเหมือนกับน้องชายเขา ที่คอยเอาแต่วิ่งตามความรัก ทั้งที่อีกคนก็รักคนอื่น ความรักนี่มันน่ากลัวจริงๆ แต่รับประกันได้เลยว่าคนอย่างเขา จะไม่ปล่อยให้พลังความรักมาด้อยค่าเขาแน่ๆ แค่เขาไม่รัก ก็แค่เอาตัวเองออกมา เรื่องแค่นี้จะไปยากอะไร?

“พี่วิวาห์ครับ...เริ่มมืดแล้ว...กลับกันเถอะครับ”

พลั่ก!!

หันไปเรียกเธอกลับ แต่เธอกลับเอนศีรษะลงไปซบไหล่เขาแล้วค่อยๆ หลับตาลง พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาที่หางตา

“หนูคิดถึงแม่กับพ่อจังค่ะ” เสียงแผ่วเบาพึมพำขึ้น หากแต่เขากลับได้ยินมันชัดเจน จนอดไม่ได้ที่จะเห็นใจเธอ ที่ต้องอยู่บ้านคนอื่น แม้จะถูกรัก ถูกเอ็นดู แต่นั่นก็ไม่ใช่ครอบครัวที่แท้จริงของเธอ จะทำอะไรก็เกร็งใจแม่ของพร้อมรักอีก

มือของเขาเอื้อมไปจับมือเธอแล้วบีบมันเบาๆ หวังให้เธอได้คลายความเหงา ความโดดเดี่ยวได้บ้าง

เขาปล่อยให้เธอพิงไหล่อยู่แบบนั้น นานนับชั่วโมง รู้ตัวอีกทีก็ปาไปเกือบสามทุ่มเข้าไปแล้ว

“พี่วิวาห์ครับ...ดึกแล้วกลับบ้านไหมครับ” เอ่ยถามด้วยความอ่อนโยนพร้อมกับเขย่าตัวเธอเบาๆ

“อื้อ...” คนถูกปลุกค่อยๆ ลืมตาที่หนักอึ้งขึ้น แสงไฟสลัวๆ ที่ห้อยประดับตามต้นไม้ สะท้อนลงไปในน้ำ ทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าเวลานี้มันมืดแล้ว จึงรับดึงตัวเองขึ้นนั่งตรงๆ

และด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่มันยังคงอยู่ในกระแสเลือดนั้น ทำให้เธอรู้สึกอยากที่จะอาเจียนเพราะดันลุกขึ้นกะทันหันเกินไป

“เอ่อ...ขอโทษๆ ...พี่ไม่รู้เลยว่าหลับไปตอนไหน...” พอตั้งสติได้ก็เอาแต่รู้สึกผิด ขอโทษขอโพยเขายกใหญ่

“ไม่เป็นไรครับ...”

“กลับกันไหม...”

“เอ่อ...ดึกขนาดนี้แล้ว...ถ้ากลับไปพร้อมกับกลิ่นแอลกอฮอล์ คุณอาต้องเป็นห่วงแน่ๆเลย...เอางี้...ไปส่งพี่ที่โรงแรมใกล้ๆ นี่ก็ได้”

“ไปคอนโดป้องไหม...” ยังพูดไม่ทันได้จบวิวาห์ก็ตาโตด้วยความตกใจ นี่เขา...จะล่อเธอขึ้นห้องหรือเนี้ย

“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น...ถ้าป้องจะทำ...ป้องทำตั้งนานแล้ว...คิดว่าถ้าป้องจะเอาตัวแค่นี้ป้องเอาไม่ได้หรอ...ไปเถอะ...ไม่ทำอะไรหรอก”

สุดท้ายเธอก็จำยอมไปกับเขา แม้จะหวาดหวั่นอยู่หน่อยๆก็เถอะ แต่เด็กนี่ก็ดูน่าไว้ใจอยู่นะ แถมยังอ่อนโยนกับเธออีกด้วย ถ้าเขาไม่ใช่คนดี เขาก็คงไม่ยื่นมือมาช่วยเธอบ่อยๆหรอกจริงไหม

ครืด ครืด ครืด!!

‘ซิมปอร์’

“ว่าไงแก”

[แกฉันโทรหาตั้งเป็นร้อยสาย ทำไมไม่รับ แล้วนี่แกอยู่ไหน แม่ไอ้บ้านั่นโทรหาฉันใหญ่เลย]

“ขอโทษแก ฉัน...หลับ”

[หลับ? หมายความว่าไงที่ว่าหลับ...หรือแกกับน้องคนนั้น...]

“บ้าไม่ใช่นะ คือ...ฉันมาดื่มกับน้องที่ริมน้ำ...แล้วเมาเผลอหลับไป” รีบพูดแทรกขึ้น เพราะกลัวว่าเพื่อนจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่

[แน่ใจนะ...ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นใช่ปะ] ปลายสายถามย้ำเพื่อความมั่นใจ

“อื้ม...แล้วแกได้รับสายแม่พร้อมไหม?”

[ไม่อ่ะ รอติดต่อแกได้ก่อนค่อยโทรกลับ]

“งั้นแกช่วยฉันหน่อยนะ บอกว่าฉันไปนอนหอแกก็ได้”

[โอเคเดี๋ยวฉันแถไปว่าแกอ่านหนังสือเหนื่อยจนหลับแล้วกัน แล้วถ้าแกไม่กลับบ้านแกจะไปนอนที่ไหน อย่าบอกนะว่า...]

“นี่ เลิกคิดไม่ดีเดี๋ยวนี้เลย...ไม่ใช่อย่างที่แกคิดหรอก”

[อื้มๆ ...ดูแลตัวเองล่ะ...อย่างน้อยไปกับน้อง...ก็ดีกว่าไปกับไอ้เวรนั่น]

“แกนี่นะ”

[ก็ฉันเกลียดมัน...เอองั้นแค่นี้แหละ สบายใจแล้ว...ถ้าจะนอนนั่นก็ส่งโลเคชั่นมาด้วยนะ เป็นห่วง!] รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยหวานทันทีที่เพื่อนเอ่ยปากบอกว่าเป็นห่วง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel