ข้อแลกเปลี่ยน
[ครับพี่วิวาห์] ปลายสายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อะ...เอ่อ...” ทันทีที่ปลายสายรับก็ยิ่งพลันทำให้หัวใจของเธอ กระตุกแรงขึ้นไปยิ่งกว่าเดิม ใครจะไปคิดว่าเขาจะรับสายเธอ
“น้องรับสายแล้วใช่ปะ บอกไปเลยว่าแกปวดท้องมาก” ซิมปอร์ยุเพื่อนอยู่ข้างๆ ใบหน้าสวยเฉี่ยวเบะปากใส่พร้อมรักด้วยความหมั่นไส้
[พี่วิวาห์ครับ เกิดอะไรขึ้นครับ]
“เอ่อ...”
[แค่พี่เอ่ยปาก ป้องจะไปเดี๋ยวนี้] ดวงตากลมตาช้อนขึ้นมองพร้อมรักที่เลิกคิ้วมองเธออยู่ก่อน ท่าทีเย้ยหยันของเขามันทำให้เธอตัดสินใจไม่อยากเลยที่จะพูดออกไป
“มารับพี่ได้ไหม?”
[ครับ...อีก5นาที ป้องจะไปหา...] พูดจบเขาก็ตัดสายไปทันที
“ว่าไงแก น้องเขาว่าไง เขาจะมาใช่ปะ...” เขย่าแขนเพื่อนด้วยความอยากรู้
“อื้ม...” พยักหน้าตอบยืนยันในคำตอบ
ทันทีที่วิวาห์คอนเฟิร์ม ซิมปอร์ก็ได้ทีเอาใหญ่ เชิดหน้าชูคอด้วยความหยิ่งผยอง ก่อนที่จะตวัดสายตาไปมองพร้อมรักแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงเหยียดๆ อย่างที่รอคอยมานาน
“หน้าแหกจ้า...แหมๆๆ ...คิดว่าตัวเองดีเลิศนักหรือไง...โธ่สภาพ...อย่ามั่นหน้าไปหน่อยเลย!!”
“หึ จะมาจริงๆ หรือเปล่าเถอะ กลัวแต่ยัยนี่จะอุปโลกน์ขึ้นมาเองน่ะสิ”
“จริงไม่จริงก็ดูเอาเอง...” ตวัดสายตาไปทางปกป้องที่กำลังเดินเข้ามาในห้องเรียน เรียกสายตาของบรรดานักศึกษาสาวๆ คนอื่นๆ ให้หันไปมองเป็นตาเดียวกัน
หลายคนก็งงว่าเขามาทำอะไรที่คณะอักษรศาสตร์ แถมยังเดินดุ่มๆ เข้ามาหาวิวาห์โดยที่ไม่ได้สนใจสายตาของใครที่มองมาเลยด้วยซ้ำ
พร้อมรักเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ถึงกับหน้าเสีย ไม่คิดว่าเด็กนั่นจะบ้าจี้มา เป็นไปได้อย่างไรกัน ยัยนี่มีดีอะไร ทำไมไอ้เด็กนั่นถึงได้กล้าหักหน้าเขาแบบนี้
“อุ๊ย น้องป้อง...พี่คิดแล้วว่าน้องต้องมา...น่ารักจริงๆ เลย...” ซิมปอร์จีบปากจีบคอ ไม่วายเยาะเย้ยพร้อมรักที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างผู้ชนะ
“สวัสดีครับพี่ซิมปอร์” เอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พลางเอื้อมมือไปดึงวิวาห์ขึ้นมาจากเก้าอี้ เรียกเสียฮือฮาขึ้นรอบๆ กายอย่างหนาหู ที่หญิงสาวธรรมดาแบบวิวาห์ถูกปกป้องที่เป็นถึงเดือนคณะแพทย์จับมือถือแขนแบบนั้น ซึ่งแน่นอนว่าสาวๆ ต่างก็อยากได้สิทธิ์นี้กันทั้งนั้น
“ไปกันเถอะครับ...” ปกป้องกล่าวแล้วดึงเธอให้เดินตามเขาออกจากห้องไป ท่ามกลางสายตาและเสียงซุบซิบนินทาของสาวคนอื่นๆ ที่หมายตาปกป้องอยู่ตั้งนาน
ให้หลังจากเดินพ้นหน้าห้องเรียน วิวาห์ก็หยุดเดิน ซึ่งนั่นทำให้ปกป้องหยุดและหันกลับมามองหน้าเธอด้วยความสงสัย
“ขอบคุณนะที่มา”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ที่มาช่วยเพราะมีข้อแลกเปลี่ยน” หัวคิ้วของเธอขมวดมุ่นจนแทบจะติดกัน อย่าบอกนะว่าหวังเรื่องอย่างว่าแบบที่พร้อมรักบอก
“ไม่นะ ไม่ให้...”
“หืม?” ปกป้องเลิกคิ้วขึ้น เมื่อเห็นท่าทีของเธอที่ดูตื่นกลัวเขาอยู่ไม่น้อย
“ก็...ป้อง...”
“อย่าไปฟังจากปากคนอื่น ถ้าไม่รู้จักป้องจริงๆ ...ป้องไม่ได้คิดอะไรไม่ดีกับพี่หรอก...สบายใจได้ครับ” รอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อของเขา เรียกได้ว่าทำให้เธอโล่งใจขึ้นมาอยู่ไม่น้อย
“แล้ว...ข้อแลกเปลี่ยนอะไร”
“2เดือน...ป้องจะเปลี่ยนพี่เอง...พี่ไม่อยากเห็นไอ้บ้านั่นเสียดายพี่เหรอ” คำถามของเขานั้นทำหัวใจเธอวูบไหว เขากำลังจะพาเธอตัดใจจากพร้อมรักใช่ไหม
“แล้วป้องจะได้อะไรจากพี่” แน่นอนว่าเขาไม่มีทางช่วยเธอฟรีๆ แน่นอน
“ตลอดเวลา2เดือน เราก็คบกัน”
“บ้าเหรอ...ไม่เอาหรอก...ป้องไม่ต้องเอาตัวเองเข้ามาช่วยพี่ขนาดนั้นก็ได้...”
“คิดดูสิ พี่ได้เปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเอง แถมยังทำให้เขารู้ด้วยว่าคนแบบพี่มีทางไปได้เสมอ ไม่ใช่คอยเป็นทาสของเขาให้คนอื่นหัวเราะเยาะแบบนี้”
“แล้วป้องจะได้อะไรจากการช่วยเหลือครั้งนี้”
“ไม้กันหมา พี่คบกับผมเพื่อกันผู้หญิงคนอื่นให้ผม แค่นี้เองพี่ได้ผมได้ ไม่มีใครต้องเสียผลประโยชน์” แค่ไม้กันหมาเอง คงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง
“อื้ม...ก็ได้...”
“งั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พี่คือแฟนป้องแล้วนะครับ” เขายังคงสุภาพกับเธออีกแล้ว แต่รู้สึกถึงความวุ่นวายที่จะตามมาชอบกล แล้วไอ้คำว่าเป็นแฟนของป้องแล้วนะครับเนี้ย มันดูน่ากลัวจนชวนขนลุกยังไงอย่างงั้น
“แล้ว...พี่ต้องทำยังไงบ้าง”
“ก็ทำแบบคนเป็นแฟนไงครับ” ตอนนี้ เธอเหมือนกวางตัวน้อยๆ ที่ดันเดินหลงเข้ามาให้กับดักของพรานอย่างเขาอย่างไงอย่างงั้น นี่คิดถูกหรือคิดผิดกันล่ะเนี้ย ที่ตกลงรับข้อเสนอครั้งนี้
“แล้ว...คนเป็นแฟนกัน...ต้องทำ...เรื่องแบบนั้นไหม” ไว้ก่อน ถามไปก็ไม่เสียหาย
“พี่คิดว่าไงครับ คนเป็นแฟนเขาต้องทำไม?” ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับเสียวสันหลังวาบ “ป้องล้อเล่นน่ะครับ แหม...ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นก็ได้” เมื่อเห็นว่าเธอหน้าซีดเป็นไก่ต้ม ก็รีบแก้ตัวทันที ตลกชะมัด ไม่คิดว่าแกล้งแค่นี้จะจริงจัง
“ฟู่ว...”
“พี่ดูโล่งอกโล่งใจนะครับ”
“ก็...เราแค่แกล้งเป็นแฟนกัน”
“แกล้งที่ไหนครับ เป็นจริงๆ” อีกแล้ว เขาทำเธอตกใจอีกแล้ว ทำไมเขาดูเจ้าเล่ห์แบบนี้นะ
“เป็นเด็กเป็นเล็ก ทำไมชอบอำผู้ใหญ่”
“ห่างกันปีเดียวเรียกผู้ใหญ่?” แน่ะ เด็กนี่มาเล่นลิ้นกับเธอเสียได้ สุภาพบุรุษก่อนหน้านี้หายไปไหนแล้ว
“ก็เป็นพี่อยู่ดี”
“แต่ป้องมีพี่สาวห่างกันปีเดียวไม่เคยเรียกพี่เลยนะ เรียกแต่ชื่อ...งั้นถ้าป้องจะเรียกว่าวิวาห์ ก็ได้ใช่ปะ” วันนี้หลายรอบแล้วนะ ที่นายนี่ทำเธอเหวอ สรุปเป็นสุภาพบุรุษจริงหรือปลอมกันล่ะเนี้ยตอนนี้เดาแทบไม่ออกเลย ชักหวั่นๆ แล้วสิ
“...”
“ทำไมเงียบไปล่ะครับ เงียบแปลว่าได้ใช่ปะ โอเคงั้นเรียกวิวาห์เฉยๆ”
“โมเมแบบนี้ได้ไงเนี้ย” แม้ว่าเขาจะพยายามพูดแหย่เธอ แต่เธอไม่มีหลุดยิ้มหรือหัวเราะออกมาเลย ชีวิตเธอต้องจริงจังขนาดนั้นเลยเหรอ
“ไปผ่อนคลายกันไหมครับ...” เอ่ยชักชวน ไหนๆ ก็โดดเรียนออกมาแล้ว ก็ควรที่จะหาอะไรทำสักหน่อย
“ผ่อนคลายอะไร”
“พี่ดื่มเป็นไหม”
“จะมอมเหรอ” ความใสซื่อจึงถามออกไปแบบนั้น
“คนอย่างผม ถ้าคิดจะเอา ไม่ต้องเสียเวลามอมเหล้าให้ยากหรอกนะ...อีกอย่างผมไม่ชอบบังคับขืนใจใคร พี่สบายใจได้”
“มัน...ช่วยคลายเครียดจริงๆเหรอ”
“ก็ประมาณหนึ่งครับ อยากลองไหม” ให้ตายเถอะ อยู่ในจุดที่ถูกผู้ชายชักจูงไปดื่มเสียแล้ว แต่ก็ว่าไม่ได้ ช่วงนี้ชีวิตเธอดูอมทุกข์จนอยากจะหาที่ปลดปล่อย อย่างน้อยได้คลายลงไปบ้างก็ยังดี
