chapter 3 สายตาคู่นั้นที่คอยมองฉัน (จบตอน)
“คุณก็สวย”
ฟรังก์ไม่สนใจคำชมแต่หยิบเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงินเข้มที่ถูกเล็บให้เห็นรอยตะเข็บสีขาวและตีตราแบรนด์ตรงชายเสื้อที่เขากำลังจะเก็บเข้าราวขึ้นมาทาบลงบนตัวคนตัวโต สายตาคู่นั้นกำลังจดจ่อก่อนรอยยิ้มสดใสจะปรากฎขึ้นบนใบหน้า วินซ์มองภาพนั้นพลางขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ทีเป็นเรื่องตัวเองล่ะหน้าบู้ดหน้าบึ้งแต่ทีเลือกเสื้อผ้าให้เขาล่ะหน้าบานเชียว
“หล่อจัง” ฟรังก์ชมเปาะพลางก้มลงดูป้ายราคาแล้วกลืนน้ำลายลงคอ แล้วก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรก็ยื่นเสื้อตัวนั้นให้พนักงานสาว
“เลือกให้อีกสักสองสามตัวสิ” ฟรังก์เงยหน้ามองวินซ์ทำหน้าเหมือนไม่เชื่ออีกว่าเขามีปัญญาจ่าย “เร็วๆ”
พอโดนเร่งหญิงสาวจึงรีบพยักหน้าแล้วเดินดูตามราวเสื้อผ้าบุรุษ วินซ์มองสีหน้าครุ่นคิดและตื่นตาตื่นใจของเธอ ไม่รู้ทำไมแต่มันละสายตาไปมองอย่างอื่นไม่ได้เลย หลังจากจูงมือเขามาที่ราวข้างๆ เธอก็หยิบสเว็ตเชิ้ตแขนยาวสีน้ำเงินกระเป๋าซิปลายซิกเนอร์เจอร์แบรนด์ขึ้นมาทาบตัวเขาอีกครั้ง แล้วก็ยิ้มสดใสอย่างเคย
“ดูดีไปหมดเลย” พูดเสร็จก็พาดเสื้อตัวนั้นไว้บนแขน แล้วก็เดินตรงมาหยุด แหวกเสื้อผ้าหยิบสเว็ตเตอร์สีดำลายเฉพาะของแบรนด์ขึ้นมาทาบอีกครั้ง “เดินไปไหนสาวกรี๊ดตรึม”
ฟรังก์เงยหน้าขึ้นมองวินซ์ที่มองเธอตาไม่กะพริบ ก่อนจะบีบแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามไปมาอย่างภาคภูมิใจราวกับเลี้ยงดูฟูกฟักเขามาเป็นอย่างดี ขนาดแม่เขายังไม่เคยมองเขาด้วยสายตาแบบนี้เลย
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
เอาอีกแล้ว ความรู้สึกวูบวาบไม่คุ้นเคยแบบนี้อีกแล้ว
“ชอบมั้ย”
“ชอบ…” ถึงจะไม่คุ้นเคย แต่ชอบจัง ความอุ่นวาบในอกตอนนี้
ก่อนจะเหลือบตาไปมองพนักงานสาว
“เอาสองตัวนี้ด้วยครับ”
“ไม่ลองก่อนเหรอ” ฟรังก์เลิกคิ้ว เมื่อได้ยินดังนั้นพนักงานจึงพลอยชะงักไปด้วย
“ไม่ล่ะ ผมเชื่อใจคุณ”
ดูก็รู้ว่าเธอกำลังตีเนียนปฎิเสธชุดที่ผมเลือกให้ แต่วินซ์ไวกว่าบอกให้พนักงานเอาทุกชุดที่เลือกไปที่เคาน์เตอร์คิดเงินเลย รวมถึงตัวที่เธอใส่อยู่ด้วย หลังจากได้จำนวนเงินที่ต้องจ่ายแล้ววินซ์ก็ยื่นแบล็กค์การ์ดให้พนักงานทันที
“ไปรวยมาจากไหนเนี่ย” ฟรังก์กระซิบกระซาบให้พอได้ยินกันสองคน วินซ์เพียงแต่ไหวไหล่แล้วคลี่ยิ้มมุมปากเท่านั้น ฟรังก์กำลังจะยื่นมือไปรับถุงเสื้อผ้ามาถือไว้แต่คนตัวโตไวกว่าฉวบมือเข้าไปคว้ามันมาไว้ก่อนแฟนสาวที่คิดว่าตัวเองเป็นอีแจ๋ว คนใช้ที่แค่ตามติดคุณผู้ชายมา แล้วก็จับมือข้างหนึ่งมากุมแล้วฉุดให้เดินตามมา
“อยากได้อะไรอีกมั้ย” หวังจริงๆ ว่าเธอจะบอกว่าอยากได้กระเป๋าหรือรองเท้าจากช็อปข้างๆ
“ไม่ หิว” วินซ์มองหน้าฟรังก์อย่างกับต้องการรู้ว่าที่พูดนั้นจริงหรือโกหก แต่ก็ต้องถอนหายใจพลางเอื้อมมือมาดึงป้ายราคาที่แล็บออกมาจากคอเสื้อออกให้ เรื่องคนอื่นล่ะใส่ใจจังทีเรื่องตัวเองเนี่ย ไม่สนใจเลย
“อยากกินอะไรล่ะ”
“ไม่รู้ เธอล่ะ อยากกินอะไร อาหารญี่ปุ่นมั้ย” วินซ์เผลอมองฟรังก์อีกแล้วก่อนจะพยักหน้า
ให้มันได้อย่างนี้สิ… ไปๆ มาๆ จากการจะเอาใจแฟนสาวก็กลายมาเป็นโดนเอาใจแทนซะได้
เป็นอีกวันที่ฟรังก์ลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองกำลังถูกคนตัวโตกอดอยู่ เวลานี้เธอทำเพียงนอนมองหน้าวินซ์ที่กำลังหลับตาพริ้ม เธอเริ่มคุ้นชินกับสัมผัสอบอุ่นนี้แล้ว คุ้นชินกับวินซ์ในเวอร์ชั่นใหม่ก่อนจะรู้ตัวมือเธอก็สัมผัสกับแก้มเนียนๆ และหนวดที่เริ่มขึ้นตรงปลายคาง ใช้นิ้วโป้งลูบไล้มันสักพักด้วยหัวใจที่เต็มตื้น
“เธอเป็นใครกันแน่เนี่ย”
หลายวันที่ผ่านมานี้เหมือนอะไรที่เธอเคยคิดว่าเป็นเขา แต่สุดท้ายก็กลับตาลปัตรไปหมดเหมือนเพิ่งเริ่มต้นรู้จักเขาใหม่อีกครั้ง
“แฟนคุณไง…” เสียงทุ้มนุ่มนั้นตอบทั้งที่ยังไม่ลืมตาแต่กลับกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น “กอดหน่อย กอดผมหน่อย”
วินซ์ร้องขอเหมือนเด็กๆ แต่มันกลับทำให้เธอระบายยิ้มออกมาแล้วยกมือขึ้นโอบรอบคอเขา วินซ์คลี่ยิ้มก่อนจะซุกหน้าลงกับซอกคอของเธอ สัมผัสจากริมฝีปากที่กดทับลงมาทำให้เธอเผลอสะดุ้งเล็กน้อย
“มีความสุขจัง…” เขางึมงำเหมือนคนละเมอก่อนจะนิ่งไปอีกหนสงสัยจะหลับต่อแล้ว เธอลูบหัวเขาเบาๆ ผู้ชายนิสัยเสียกลายเป็นเด็กขี้อ้อนตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก เธอปล่อยให้หัวใจเต้นแรงไปทั้งแบบนั้นอย่างไม่คิดจะหยุดยั้ง ไม่ได้รู้สึกดีอย่างนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ
แต่เธอควรได้รับมันจริงๆ เหรอ…
“ไปเจอเพื่อนฉันกันมั้ย”
อยู่ๆ วินซ์ก็พูดขึ้นระหว่างนอนบนตักแฟนสาวอยู่บนโซฟา แต่เหมือนฟรังก์จะไม่ได้ยินเพราะตาจดจ่ออยู่กับหนังฆาตกรรมบนจอทีวีขนาดป็อปคอร์นยังคาปากคามืออยู่เลย
“ฟรังก์… ฟรังก์ครับ” เมื่อไม่ได้รับความสนใจคนตัวโตที่นิสัยเหมือนเด็กก็เริ่มออดอ้อน “สนใจผมหน่อย”
“คะ?” ฟรังก์ขานแต่ตายังจดจ่ออยู่กับหน้าจอทีวี วินาทีที่ฆาตกรกำลังค่อยๆ เฉือนมีดลงคอตัวเอก เธอกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง แต่คนที่เรียกร้องความสนใจแล้วไม่ได้รับความสนใจก็เริ่มงอแง
“จะไม่สนใจกันจริงๆ เหรอ”
“คุณก็สวย”
ฟรังก์ไม่สนใจคำชมแต่หยิบเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงินเข้มที่ถูกเล็บให้เห็นรอยตะเข็บสีขาวและตีตราแบรนด์ตรงชายเสื้อที่เขากำลังจะเก็บเข้าราวขึ้นมาทาบลงบนตัวคนตัวโต สายตาคู่นั้นกำลังจดจ่อก่อนรอยยิ้มสดใสจะปรากฎขึ้นบนใบหน้า วินซ์มองภาพนั้นพลางขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ทีเป็นเรื่องตัวเองล่ะหน้าบู้ดหน้าบึ้งแต่ทีเลือกเสื้อผ้าให้เขาล่ะหน้าบานเชียว
“หล่อจัง” ฟรังก์ชมเปาะพลางก้มลงดูป้ายราคาแล้วกลืนน้ำลายลงคอ แล้วก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรก็ยื่นเสื้อตัวนั้นให้พนักงานสาว
“เลือกให้อีกสักสองสามตัวสิ” ฟรังก์เงยหน้ามองวินซ์ทำหน้าเหมือนไม่เชื่ออีกว่าเขามีปัญญาจ่าย “เร็วๆ”
พอโดนเร่งหญิงสาวจึงรีบพยักหน้าแล้วเดินดูตามราวเสื้อผ้าบุรุษ วินซ์มองสีหน้าครุ่นคิดและตื่นตาตื่นใจของเธอ ไม่รู้ทำไมแต่มันละสายตาไปมองอย่างอื่นไม่ได้เลย หลังจากจูงมือเขามาที่ราวข้างๆ เธอก็หยิบสเว็ตเชิ้ตแขนยาวสีน้ำเงินกระเป๋าซิปลายซิกเนอร์เจอร์แบรนด์ขึ้นมาทาบตัวเขาอีกครั้ง แล้วก็ยิ้มสดใสอย่างเคย
“ดูดีไปหมดเลย” พูดเสร็จก็พาดเสื้อตัวนั้นไว้บนแขน แล้วก็เดินตรงมาหยุด แหวกเสื้อผ้าหยิบสเว็ตเตอร์สีดำลายเฉพาะของแบรนด์ขึ้นมาทาบอีกครั้ง “เดินไปไหนสาวกรี๊ดตรึม”
ฟรังก์เงยหน้าขึ้นมองวินซ์ที่มองเธอตาไม่กะพริบ ก่อนจะบีบแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามไปมาอย่างภาคภูมิใจราวกับเลี้ยงดูฟูกฟักเขามาเป็นอย่างดี ขนาดแม่เขายังไม่เคยมองเขาด้วยสายตาแบบนี้เลย
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
เอาอีกแล้ว ความรู้สึกวูบวาบไม่คุ้นเคยแบบนี้อีกแล้ว
“ชอบมั้ย”
“ชอบ…” ถึงจะไม่คุ้นเคย แต่ชอบจัง ความอุ่นวาบในอกตอนนี้
ก่อนจะเหลือบตาไปมองพนักงานสาว
“เอาสองตัวนี้ด้วยครับ”
“ไม่ลองก่อนเหรอ” ฟรังก์เลิกคิ้ว เมื่อได้ยินดังนั้นพนักงานจึงพลอยชะงักไปด้วย
“ไม่ล่ะ ผมเชื่อใจคุณ”
ดูก็รู้ว่าเธอกำลังตีเนียนปฎิเสธชุดที่ผมเลือกให้ แต่วินซ์ไวกว่าบอกให้พนักงานเอาทุกชุดที่เลือกไปที่เคาน์เตอร์คิดเงินเลย รวมถึงตัวที่เธอใส่อยู่ด้วย หลังจากได้จำนวนเงินที่ต้องจ่ายแล้ววินซ์ก็ยื่นแบล็กค์การ์ดให้พนักงานทันที
“ไปรวยมาจากไหนเนี่ย” ฟรังก์กระซิบกระซาบให้พอได้ยินกันสองคน วินซ์เพียงแต่ไหวไหล่แล้วคลี่ยิ้มมุมปากเท่านั้น ฟรังก์กำลังจะยื่นมือไปรับถุงเสื้อผ้ามาถือไว้แต่คนตัวโตไวกว่าฉวบมือเข้าไปคว้ามันมาไว้ก่อนแฟนสาวที่คิดว่าตัวเองเป็นอีแจ๋ว คนใช้ที่แค่ตามติดคุณผู้ชายมา แล้วก็จับมือข้างหนึ่งมากุมแล้วฉุดให้เดินตามมา
“อยากได้อะไรอีกมั้ย” หวังจริงๆ ว่าเธอจะบอกว่าอยากได้กระเป๋าหรือรองเท้าจากช็อปข้างๆ
“ไม่ หิว” วินซ์มองหน้าฟรังก์อย่างกับต้องการรู้ว่าที่พูดนั้นจริงหรือโกหก แต่ก็ต้องถอนหายใจพลางเอื้อมมือมาดึงป้ายราคาที่แล็บออกมาจากคอเสื้อออกให้ เรื่องคนอื่นล่ะใส่ใจจังทีเรื่องตัวเองเนี่ย ไม่สนใจเลย
“อยากกินอะไรล่ะ”
“ไม่รู้ เธอล่ะ อยากกินอะไร อาหารญี่ปุ่นมั้ย” วินซ์เผลอมองฟรังก์อีกแล้วก่อนจะพยักหน้า
ให้มันได้อย่างนี้สิ… ไปๆ มาๆ จากการจะเอาใจแฟนสาวก็กลายมาเป็นโดนเอาใจแทนซะได้
เป็นอีกวันที่ฟรังก์ลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองกำลังถูกคนตัวโตกอดอยู่ เวลานี้เธอทำเพียงนอนมองหน้าวินซ์ที่กำลังหลับตาพริ้ม เธอเริ่มคุ้นชินกับสัมผัสอบอุ่นนี้แล้ว คุ้นชินกับวินซ์ในเวอร์ชั่นใหม่ก่อนจะรู้ตัวมือเธอก็สัมผัสกับแก้มเนียนๆ และหนวดที่เริ่มขึ้นตรงปลายคาง ใช้นิ้วโป้งลูบไล้มันสักพักด้วยหัวใจที่เต็มตื้น
“เธอเป็นใครกันแน่เนี่ย”
หลายวันที่ผ่านมานี้เหมือนอะไรที่เธอเคยคิดว่าเป็นเขา แต่สุดท้ายก็กลับตาลปัตรไปหมดเหมือนเพิ่งเริ่มต้นรู้จักเขาใหม่อีกครั้ง
“แฟนคุณไง…” เสียงทุ้มนุ่มนั้นตอบทั้งที่ยังไม่ลืมตาแต่กลับกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น “กอดหน่อย กอดผมหน่อย”
วินซ์ร้องขอเหมือนเด็กๆ แต่มันกลับทำให้เธอระบายยิ้มออกมาแล้วยกมือขึ้นโอบรอบคอเขา วินซ์คลี่ยิ้มก่อนจะซุกหน้าลงกับซอกคอของเธอ สัมผัสจากริมฝีปากที่กดทับลงมาทำให้เธอเผลอสะดุ้งเล็กน้อย
“มีความสุขจัง…” เขางึมงำเหมือนคนละเมอก่อนจะนิ่งไปอีกหนสงสัยจะหลับต่อแล้ว เธอลูบหัวเขาเบาๆ ผู้ชายนิสัยเสียกลายเป็นเด็กขี้อ้อนตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก เธอปล่อยให้หัวใจเต้นแรงไปทั้งแบบนั้นอย่างไม่คิดจะหยุดยั้ง ไม่ได้รู้สึกดีอย่างนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ
แต่เธอควรได้รับมันจริงๆ เหรอ…
“ไปเจอเพื่อนฉันกันมั้ย”
อยู่ๆ วินซ์ก็พูดขึ้นระหว่างนอนบนตักแฟนสาวอยู่บนโซฟา แต่เหมือนฟรังก์จะไม่ได้ยินเพราะตาจดจ่ออยู่กับหนังฆาตกรรมบนจอทีวีขนาดป็อปคอร์นยังคาปากคามืออยู่เลย
“ฟรังก์… ฟรังก์ครับ” เมื่อไม่ได้รับความสนใจคนตัวโตที่นิสัยเหมือนเด็กก็เริ่มออดอ้อน “สนใจผมหน่อย”
“คะ?” ฟรังก์ขานแต่ตายังจดจ่ออยู่กับหน้าจอทีวี วินาทีที่ฆาตกรกำลังค่อยๆ เฉือนมีดลงคอตัวเอก เธอกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง แต่คนที่เรียกร้องความสนใจแล้วไม่ได้รับความสนใจก็เริ่มงอแง
“จะไม่สนใจกันจริงๆ เหรอ”
