บท
ตั้งค่า

chapter 1 เธอไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น

chapter 1

“วะ…” เธอเม้มปากแน่นพลางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ก่อนจะตัดสินใจตะโกนเรียกวินซ์ แต่อยู่ๆ เสียงกดชักโครกก็ดังขึ้นเรียกความสนใจของชายร่างบึกไป “วินซ์”

คนตัวโตเปิดประตูเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้ามึนงง เขามองเราสองคนสลับกันก่อนจะขมวดคิ้วสายตาอาฆาตมาดร้ายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ฟรังก์เห็นดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นวิ่งไปหลบหลังแฟนหนุ่มทันที

“ใครเนี่ย ไม่เคยเห็นหน้าเลย” เขาพูดด้วยใบหน้าแย้มยิ้มแต่น้ำเสียงกลับเย็นยะเยือก

“ไหนแฟนบอกว่ามึงไม่อยู่…” สีหน้ามันดูเสียดายมาก วินซ์เหล่มองฟรังก์เล็กน้อย ก่อนจะหันมองหน้าคนร่างบึกแล้วฉีกยิ้มกว้าง

“ทำไมเหรอ… อยากใช้เมียร่วมกับกูเหรอ” คำพูดที่ไม่อ้อมค้อมนั้นทำให้บรรยากาศกระอักกระอ่วมขึ้นมา “แต่โทษที พอดียังไม่เบื่อน่ะ ไว้เบื่อแล้วค่อยเอาไปได้ป่ะ”

“กูมาทวงเงิน มึงเบี้ยวหนี้กูมาสองเดือนแล้วนะ”

มันเปลี่ยนเรื่องทันที วินซ์พยักหน้าหงึกหงักอย่างขอไปที

“แหม สันดานแบบนี้ไม่น่าให้เลย”

“ว่าไงนะ! นี่มึงคิดจะเบี้ยวเหรอ!”

“เออ พอดีหมั่นไส้” วินซ์ลอยหน้าลอยตาแต่น้ำเสียงยังคงเย็นเยียบ เจ้าของร่างบึกที่เมื่อกี้โดนขัดจังหวะอารมณ์เสียอยู่แล้ว พอได้ยินแบบนั้นกลับทวีคูณความรุนแรงเข้ามากระชากคอเสื้อวินซ์แล้วง้างหมัดขึ้นทันที

พลั่ก!

“วินซ์!” ฟรังก์ร้องเสียงดัง แต่คนโดนต่อยกลับไม่สะทกสะท้านเขาหันหน้ากลับมาพลางใช้ลิ้นดุนกระพุงแก้มเท่านั้นก่อนคลี่ยิ้มมุมปากราวกับคนบ้า ไม่แค่นั้นเขายังพ่นน้ำลายที่มีเลือดปนอยู่ใส่หน้ามันด้วย คนตรงหน้ายิ่งรู้สึกเหมือนโดนเหยียดหยามจึงตั้งใจจะซัดเขาอีกหมัด แต่ฟรังก์วิ่งเข้ามาจับมือมันเอาไว้ก่อน

“อย่าทำเขา! เดี๋ยวฉันโอนเงินไปให้ ฉันสัญญา” ฟรังก์พูดปากคอสั่น

“ไม่!” ผู้ชายคนนั้นสะบัดมือออกก่อนจะผลักฟรังก์จนล้มลงกระแทกพื้น หันมาตั้งใจจะซัดวินซ์อีกหมัด แต่แววตาที่ถูกจ้องทำให้เจ้าของหมัดชะงัก

“ก็ลองต่อยอีกสิ” วินซ์มองหน้ามองด้วยแววตาวาวโรจน์ “มึงรู้จักกูน้อยเกินไป…”

“เหอะ ผีพนันอย่างมึงมีอะไรให้กูรู้จักด้วยเหรอ” สิ้นคำนั้นมันก็ซัดหน้าวินซ์อีกรอบ แต่คราวนี้วินซ์ไม่ยอมเหวี่ยงหมัดใส่หน้ามันด้วยความเร็วยิ่งกว่าและมันคงแรงมากจนฝ่ายตรงข้ามถึงกับปากเบี้ยว

“ได้เงินมายะ…ยัง” ผู้มาเยือนใหม่เดินพ้นประตูเข้ามาเห็นสภาพเราสามคนก็ถึงกับอ้าปากค้าง บุหรี่ที่คาบอยู่หลุดออกจากปากทันที “นี่มันเหี้ยอะไรเนี่ย!”

มันรีบวิ่งเข้าไปหาร่างบึกที่ลงไปนอนอยู่กับพื้นด้วยแรงกระแทกที่ไม่ทันตั้งตัว วินซ์ดึงเสี้อยืดตัวเองที่ยับลงก่อนจะเดินไปกระชากคอเสื้อคนที่ตัวโตกว่าขึ้นมาโดยที่ผู้มาใหม่ซึ่งคุ้นหน้าคุ้นตากว่าไม่ได้ออกปากห้ามอะไร

“จำหน้ากูไว้ให้ดีนะ แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก”

“มึง…!!” ไม่รู้ว่าเวลานี้วินซ์ดูน่ากลัวและดูตัวโตขึ้น รอยยิ้มมุมปากนั้นราวกับมัจจุราชที่ใกล้เสียสติแล้วหรือเปล่า คนข้างๆ ที่ไม่อยากยุ่งกับคนบ้าเพราะควบคุมยาก มันถึงได้รีบยกมือขึ้นปิดปากเพื่อนร่วมงานก่อนจะรีบลากร่างบึกออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรเลย

ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนฟรังก์ทำอะไรไม่ถูกกระทั่งแฟนหนุ่มเหลือบตามามองเธอเนี่ยแหละ เธอสบตากับนัยน์ตาดำขลับที่เหมือนหลุมดำนิ่งค้าง

“จ้องอะไรอยู่ได้ เจ็บจะตายแล้วเนี่ย!”

ตอนนั้นแหละเธอได้รู้ตัวว่าควรทำอะไร รีบลุกขึ้นวิ่งไปหากล่องพยาบาลแล้ววิ่งกลับมาที่โซฟาห้องนั่งเล่นซึ่งวินซ์กำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ เธอจึงเดินเข้าไปนั่งข้างๆ พลางวางกล่องยาลงบนโต๊ะกระจกใส เขาเหลือบมามองกันเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือข้างที่ใช้ต่อยคนทวงหนี้มาวางบนตักเธอเป็นการบอกว่าให้ทำตรงนี้ก่อน เธอมองข้อนิ้วทั้งห้าที่ตอนนี้มีเลือดออกซิบๆ บ่งบอกได้ดีว่าเจ้าของมือใช้แรงซัดไปเยอะเดียว ก็นะ… ตั้งแต่คบกันมาเกือบสามปีนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอเห็นเขาต่อยตีกับคนอื่น แล้วดูมือเขาสิ เหมือนไม่เคยผ่านการทำอะไรมาเลย

“อืม…อืม…” แต่ทันทีที่เธอลงมือทำแผล เช็ดแอลกอฮอลล์ลงบนข้อนิ้วนั้นเขาก็ร้องโวยวาย “โอ๊ย เจ็บ! ทำเบาๆ หน่อยสิ” วินซ์ส่งสายตาอาฆาตมาให้จนเธอต้องเอ่ยเสียงเบา

“ขอโทษ…”

“คนเชี่ยไรเนี่ย หมัดก็หนักเล่นเอากามเคลื่อนเลยมั้งเนี่ย แถมต่อยไปทีเดียวมือยังแหกอีก!” ไม่รู้ว่าเขาบ่นให้เธอฟังหรือให้คนในสายฟังกันแน่ แต่สายตาที่จับจ้องมาที่เธออย่างคาดโทษ ก็คงเป็นเธอสินะ…

“เออ! แค่นี้แหละ เจ็บปาก ขี้เกียจพูด!”

เขากดวางสายก่อนจะโยนโทรศัพท์มือถือไปที่โต๊ะกระจกอย่างหัวเสียซึ่งเป็นตอนที่เธอกำลังพันปากกอซบนมือเขาแล้วเลื่อนมาจัดการกับแผลที่มุมปากของเขาต่อ ดูจากรูปหน้าที่ยังปกติดีแล้ว คงไม่ถึงกับกามเคลื่อนหรอก เขาก็พูดเว่อร์ แต่มันคงเจ็บมากๆ แน่ๆ

“ทำไมเมื่อกี้ไม่เรียกฉัน…”

“ตั้งใจจะเรียกแล้ว เธอออกมาซะก่อน” ฟรังก์ตอบตามความจริงทุกอย่างโดยที่สายตายังจดจ่อกับการใส่ยาตรงมุมปากของเขา

“แล้วทำไมถึงบอกว่าฉันไม่อยู่…” ฟรังก์เหลือบตาขึ้นสบกับสายตาที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะหลุบลงมองมุมปากเหมือนไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ในใจเต้นโครมครามคงเพราะไม่เคยอยู่ใกล้กันถึงขนาดนี้

“ก็…รู้ไงว่าจะออกมาเป็นแบบนี้”

“แล้วถ้าฉันไม่อยู่จริงๆ เธอจะยอมมันหรือไง”

“มันคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากกว่านี้หรอก เสร็จล่ะ”

ฟรังก์ผละมือออกมาเก็บอุปกรณ์เข้ากล่องตั้งใจจะลุกขึ้นไปเก็บแล้วเข้าห้องไปทำงานของตัวเอง แต่กลับโดนคนตรงหน้าฉุดแขนให้นั่งลงมาประจันหน้ากัน แววตาลึกล้ำคู่นั้นเหมือนกำลังเค้นหาบางอย่าง อยู่ๆ แรงบีบที่แขนก็แรงขึ้นก่อนจะเป็นฝ่ายผละสายตาออกแล้วปล่อยมือ

“จะไปทำอะไร ก็ไปๆ” วินซ์มีท่าทางหงุดหงิด เขาลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เย็นแล้วหยิบนมขึ้นมาดื่มอีกครั้งเพื่อดับกระหาย ฟรังก์มองแผ่นหลังนั้นอย่างงุนงง

“อื้อ” ฟรังก์ลุกเดินไปเก็บกล่องยาเข้าที่แล้วเดินเข้าห้องนอนไป

chapter 1

“วะ…” เธอเม้มปากแน่นพลางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ก่อนจะตัดสินใจตะโกนเรียกวินซ์ แต่อยู่ๆ เสียงกดชักโครกก็ดังขึ้นเรียกความสนใจของชายร่างบึกไป “วินซ์”

คนตัวโตเปิดประตูเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้ามึนงง เขามองเราสองคนสลับกันก่อนจะขมวดคิ้วสายตาอาฆาตมาดร้ายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ฟรังก์เห็นดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นวิ่งไปหลบหลังแฟนหนุ่มทันที

“ใครเนี่ย ไม่เคยเห็นหน้าเลย” เขาพูดด้วยใบหน้าแย้มยิ้มแต่น้ำเสียงกลับเย็นยะเยือก

“ไหนแฟนบอกว่ามึงไม่อยู่…” สีหน้ามันดูเสียดายมาก วินซ์เหล่มองฟรังก์เล็กน้อย ก่อนจะหันมองหน้าคนร่างบึกแล้วฉีกยิ้มกว้าง

“ทำไมเหรอ… อยากใช้เมียร่วมกับกูเหรอ” คำพูดที่ไม่อ้อมค้อมนั้นทำให้บรรยากาศกระอักกระอ่วมขึ้นมา “แต่โทษที พอดียังไม่เบื่อน่ะ ไว้เบื่อแล้วค่อยเอาไปได้ป่ะ”

“กูมาทวงเงิน มึงเบี้ยวหนี้กูมาสองเดือนแล้วนะ”

มันเปลี่ยนเรื่องทันที วินซ์พยักหน้าหงึกหงักอย่างขอไปที

“แหม สันดานแบบนี้ไม่น่าให้เลย”

“ว่าไงนะ! นี่มึงคิดจะเบี้ยวเหรอ!”

“เออ พอดีหมั่นไส้” วินซ์ลอยหน้าลอยตาแต่น้ำเสียงยังคงเย็นเยียบ เจ้าของร่างบึกที่เมื่อกี้โดนขัดจังหวะอารมณ์เสียอยู่แล้ว พอได้ยินแบบนั้นกลับทวีคูณความรุนแรงเข้ามากระชากคอเสื้อวินซ์แล้วง้างหมัดขึ้นทันที

พลั่ก!

“วินซ์!” ฟรังก์ร้องเสียงดัง แต่คนโดนต่อยกลับไม่สะทกสะท้านเขาหันหน้ากลับมาพลางใช้ลิ้นดุนกระพุงแก้มเท่านั้นก่อนคลี่ยิ้มมุมปากราวกับคนบ้า ไม่แค่นั้นเขายังพ่นน้ำลายที่มีเลือดปนอยู่ใส่หน้ามันด้วย คนตรงหน้ายิ่งรู้สึกเหมือนโดนเหยียดหยามจึงตั้งใจจะซัดเขาอีกหมัด แต่ฟรังก์วิ่งเข้ามาจับมือมันเอาไว้ก่อน

“อย่าทำเขา! เดี๋ยวฉันโอนเงินไปให้ ฉันสัญญา” ฟรังก์พูดปากคอสั่น

“ไม่!” ผู้ชายคนนั้นสะบัดมือออกก่อนจะผลักฟรังก์จนล้มลงกระแทกพื้น หันมาตั้งใจจะซัดวินซ์อีกหมัด แต่แววตาที่ถูกจ้องทำให้เจ้าของหมัดชะงัก

“ก็ลองต่อยอีกสิ” วินซ์มองหน้ามองด้วยแววตาวาวโรจน์ “มึงรู้จักกูน้อยเกินไป…”

“เหอะ ผีพนันอย่างมึงมีอะไรให้กูรู้จักด้วยเหรอ” สิ้นคำนั้นมันก็ซัดหน้าวินซ์อีกรอบ แต่คราวนี้วินซ์ไม่ยอมเหวี่ยงหมัดใส่หน้ามันด้วยความเร็วยิ่งกว่าและมันคงแรงมากจนฝ่ายตรงข้ามถึงกับปากเบี้ยว

“ได้เงินมายะ…ยัง” ผู้มาเยือนใหม่เดินพ้นประตูเข้ามาเห็นสภาพเราสามคนก็ถึงกับอ้าปากค้าง บุหรี่ที่คาบอยู่หลุดออกจากปากทันที “นี่มันเหี้ยอะไรเนี่ย!”

มันรีบวิ่งเข้าไปหาร่างบึกที่ลงไปนอนอยู่กับพื้นด้วยแรงกระแทกที่ไม่ทันตั้งตัว วินซ์ดึงเสี้อยืดตัวเองที่ยับลงก่อนจะเดินไปกระชากคอเสื้อคนที่ตัวโตกว่าขึ้นมาโดยที่ผู้มาใหม่ซึ่งคุ้นหน้าคุ้นตากว่าไม่ได้ออกปากห้ามอะไร

“จำหน้ากูไว้ให้ดีนะ แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก”

“มึง…!!” ไม่รู้ว่าเวลานี้วินซ์ดูน่ากลัวและดูตัวโตขึ้น รอยยิ้มมุมปากนั้นราวกับมัจจุราชที่ใกล้เสียสติแล้วหรือเปล่า คนข้างๆ ที่ไม่อยากยุ่งกับคนบ้าเพราะควบคุมยาก มันถึงได้รีบยกมือขึ้นปิดปากเพื่อนร่วมงานก่อนจะรีบลากร่างบึกออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรเลย

ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนฟรังก์ทำอะไรไม่ถูกกระทั่งแฟนหนุ่มเหลือบตามามองเธอเนี่ยแหละ เธอสบตากับนัยน์ตาดำขลับที่เหมือนหลุมดำนิ่งค้าง

“จ้องอะไรอยู่ได้ เจ็บจะตายแล้วเนี่ย!”

ตอนนั้นแหละเธอได้รู้ตัวว่าควรทำอะไร รีบลุกขึ้นวิ่งไปหากล่องพยาบาลแล้ววิ่งกลับมาที่โซฟาห้องนั่งเล่นซึ่งวินซ์กำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ เธอจึงเดินเข้าไปนั่งข้างๆ พลางวางกล่องยาลงบนโต๊ะกระจกใส เขาเหลือบมามองกันเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือข้างที่ใช้ต่อยคนทวงหนี้มาวางบนตักเธอเป็นการบอกว่าให้ทำตรงนี้ก่อน เธอมองข้อนิ้วทั้งห้าที่ตอนนี้มีเลือดออกซิบๆ บ่งบอกได้ดีว่าเจ้าของมือใช้แรงซัดไปเยอะเดียว ก็นะ… ตั้งแต่คบกันมาเกือบสามปีนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอเห็นเขาต่อยตีกับคนอื่น แล้วดูมือเขาสิ เหมือนไม่เคยผ่านการทำอะไรมาเลย

“อืม…อืม…” แต่ทันทีที่เธอลงมือทำแผล เช็ดแอลกอฮอลล์ลงบนข้อนิ้วนั้นเขาก็ร้องโวยวาย “โอ๊ย เจ็บ! ทำเบาๆ หน่อยสิ” วินซ์ส่งสายตาอาฆาตมาให้จนเธอต้องเอ่ยเสียงเบา

“ขอโทษ…”

“คนเชี่ยไรเนี่ย หมัดก็หนักเล่นเอากามเคลื่อนเลยมั้งเนี่ย แถมต่อยไปทีเดียวมือยังแหกอีก!” ไม่รู้ว่าเขาบ่นให้เธอฟังหรือให้คนในสายฟังกันแน่ แต่สายตาที่จับจ้องมาที่เธออย่างคาดโทษ ก็คงเป็นเธอสินะ…

“เออ! แค่นี้แหละ เจ็บปาก ขี้เกียจพูด!”

เขากดวางสายก่อนจะโยนโทรศัพท์มือถือไปที่โต๊ะกระจกอย่างหัวเสียซึ่งเป็นตอนที่เธอกำลังพันปากกอซบนมือเขาแล้วเลื่อนมาจัดการกับแผลที่มุมปากของเขาต่อ ดูจากรูปหน้าที่ยังปกติดีแล้ว คงไม่ถึงกับกามเคลื่อนหรอก เขาก็พูดเว่อร์ แต่มันคงเจ็บมากๆ แน่ๆ

“ทำไมเมื่อกี้ไม่เรียกฉัน…”

“ตั้งใจจะเรียกแล้ว เธอออกมาซะก่อน” ฟรังก์ตอบตามความจริงทุกอย่างโดยที่สายตายังจดจ่อกับการใส่ยาตรงมุมปากของเขา

“แล้วทำไมถึงบอกว่าฉันไม่อยู่…” ฟรังก์เหลือบตาขึ้นสบกับสายตาที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะหลุบลงมองมุมปากเหมือนไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ในใจเต้นโครมครามคงเพราะไม่เคยอยู่ใกล้กันถึงขนาดนี้

“ก็…รู้ไงว่าจะออกมาเป็นแบบนี้”

“แล้วถ้าฉันไม่อยู่จริงๆ เธอจะยอมมันหรือไง”

“มันคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากกว่านี้หรอก เสร็จล่ะ”

ฟรังก์ผละมือออกมาเก็บอุปกรณ์เข้ากล่องตั้งใจจะลุกขึ้นไปเก็บแล้วเข้าห้องไปทำงานของตัวเอง แต่กลับโดนคนตรงหน้าฉุดแขนให้นั่งลงมาประจันหน้ากัน แววตาลึกล้ำคู่นั้นเหมือนกำลังเค้นหาบางอย่าง อยู่ๆ แรงบีบที่แขนก็แรงขึ้นก่อนจะเป็นฝ่ายผละสายตาออกแล้วปล่อยมือ

“จะไปทำอะไร ก็ไปๆ” วินซ์มีท่าทางหงุดหงิด เขาลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เย็นแล้วหยิบนมขึ้นมาดื่มอีกครั้งเพื่อดับกระหาย ฟรังก์มองแผ่นหลังนั้นอย่างงุนงง

“อื้อ” ฟรังก์ลุกเดินไปเก็บกล่องยาเข้าที่แล้วเดินเข้าห้องนอนไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel