ตอนที่ 2 แต่งออกเหมือนสาดน้ำ 2
และสาเหตุที่ผู้อาวุโสเห็นดีเห็นงามให้เกี่ยวดองกับพี่สาวก็เพราะฉางเฟิงร่ำเรียนจนสามารถเข้าสอบเคอจวี่และได้ซิ่วไฉ ส่วนนางที่ไม่ใช่ลูกรักก็ถูกผลักไสเหมือนเคย
ในอดีตเพราะมารดาของนางมีนิสัยร้ายกาจเป็นที่เลื่องลือ แม้นางทำตัวแสนดีย่อมมีคดีติดตัวมิอาจลบล้าง และยามนี้บุตรสาวของนายหญิงรองผู้ล่วงลับเช่นนาง ไหนเลยจะสู้บุตรสาวของนายหญิงใหญ่ที่ยังมีชีวิตอยู่
ที่สำคัญแม่เลี้ยงยังมีบุตรชายค้ำชู ไม่บอกก็รู้ว่านางที่ตัวคนเดียวไร้มารดาไม่มีพี่หรือน้องชายร่วมอุทร ต้องเจอนรกขุมไหน ไม่ว่าจะทนกัดฟันยืนหยัดอย่างไร ก็ต้องแพ้พ่ายในทุกวัน
พี่หญิงได้แต่งงานกับฉางเฟิง ส่วนนางต้องแต่งงานตามการตัดสินใจของบิดามารดาและวาจาของแม่สื่อ
วันนั้น นางบังเอิญแอบได้ยินท่านพ่อกับแม่เลี้ยงพูดคุยกันว่าจะให้นางแต่งกับพ่อหม้ายผู้ร่ำรวย พอไปสืบถึงรู้ว่าคนผู้นั้นแก่กว่านางยี่สิบกว่าปี มีร้านค้ามากมายเป็นสินสอดสู่ขอ แต่เขามีอนุเต็มเรือน ลูกหลานครบถ้วน ในจวนที่กำแพงสูงลิบนั้นเป็นครอบครัวใหญ่ ปัญหาเยอะ มีทั้งนายท่านผู้เฒ่าบ้าอำนาจ นายหญิงผู้เฒ่าที่เคร่งจารีตแต่ลำเอียงรักบุตรหลานผู้ชายเป็นที่สุด เห็นบุตรหลานผู้หญิงเป็นขยะไร้ค่า
ทั้งยังมีท่านลุง มีท่านอา รวมกันหลายคน และมีบุรุษที่แต่งสะใภ้คนแล้วคนเล่ารับอนุไม่เว้นแต่ละวัน นับเป็นครอบครัวถ้ำเสือรังหมาป่าเฉกจวนไป๋ทุกประการ
ซึ่งนางไม่มีทางแต่งกับคนบ้านนั้น และนั่นจึงทำให้เกิดการแต่งงานระหว่างนางกับอู๋หมิงในวันนี้
คืนนั้น ที่หออวิ๋นเซียว นางเมามายอย่างจงใจ ส่วนเขาก็เมาเหล้า ‘ชนิดพิเศษ’ ที่นางรินให้
นี่คือแผนการสิ้นคิดอย่างที่สุดในชีวิตนี้ของนาง กระนั้นก็ยังกล้าตัดสินใจทำ!
นางไร้ยางอายหรือ?
ไม่หรอก! นี่คือการเอาชีวิตรอดต่างหาก
นางทำถูกแล้ว... ต่อให้ย้อนกลับไปได้ก็ยังจะทำ! มันเป็นวิธีเดียวที่จะหลุดพ้นจากว่าที่สามีเฒ่าบ้ากามและไม่ต้องพบเจอครอบครัวสามีที่เหมือนตระกูลไป๋ทุกอย่าง
ท่ามกลางกลิ่นอายมงคล
ไป๋เล่อชิงตกอยู่ในภวังค์ห้วงคำนึงแห่งตนนิ่งนาน จนผู้เป็นเจ้าบ่าวต้องกระแอมไอเพื่อเรียกสติ
“คุณหนูไป๋ ไม่นอนหรือไร?”
น้ำเสียงราบเรียบและห้าวห้วนทำไป๋เล่อชิงสะดุ้ง นางยิ้มแห้ง “นอนสิ นอนเจ้าค่ะ”
หญิงสาวรีบลุกขึ้นปลดชุดมงคลออกและถอดเครื่องหัวออกด้วยตัวเองอย่างคล่องแคล่ว แต่ไหนแต่ไรนางต้องอยู่แบบช่วยเหลือตัวเองมาโดยตลอด แค่ถอดชุดจึงไม่นับว่ายากอันใด
ใช้เวลาไม่นานก็เดินกลับมาที่เตียงนอน
“มาเถอะท่านพี่ ข้าปลดชุดให้”
“ไม่ต้อง ข้าทำเองได้” อู๋หมิงเอ่ยเสียงเนิบเช่นเดิม ปลดอาภรณ์สีแดงลงกองบนพื้นห้องอย่างไม่ใส่ใจ
ไป๋เล่อชิงนึกขึ้นได้ “จริงด้วยท่านพี่ พวกเรายังไม่ได้ดื่มเหล้ามงคลกันเลย”
อู๋หมิงปรายตามองสุรากับขนมมงคลบนโต๊ะนิ่งๆ ก่อนหันกายเดินมานั่งลงที่เก้าอี้ด้วยท่าทีราบเรียบเฉยเมยพลางว่าด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“เจ้าคงไม่ใส่ยาแปลกๆในเหล้าอีก ใช่หรือไม่?”
วาจาเขาทำไป๋เล่อชิงขนลุกซู่ ลำตัวชาวาบ
ใช่แล้ว คืนนั้น ที่นางมอมเหล้าเขา ล้วนยากปิดบัง
อู๋หมิงรู้ความจริงว่านางตั้งใจให้เกิดเรื่องราววสันต์ ไม่ใช่ล่วงเกินนางอย่างมิอาจหักห้ามใจเพราะความเมา เขารู้กระทั่งว่าเหตุที่ตัวเองเมามายจนควบคุมตัวเองมิได้ล้วนเป็นเพราะฤทธิ์ยามิใช่ฤทธิ์สุราเหมือนที่คนอื่นเข้าใจ
เขายอมรับผิดว่าดื่มเหล้าจนขาดสติจึงล่วงเกินนาง และขอรับผิดชอบทุกอย่าง ไม่พูดถึงอาการผิดปกติจากการดื่มเหล้าสักนิด
และก็ใช่อีกเช่นกันที่นางมองเขาผิดไปอย่างมหันต์ อู๋หมิงมิได้เป็นบุรุษทึมทื่อใสซื่อเฉกรูปลักษณ์ภายนอก!
หวังว่าชีวิตหลังแต่งงานจะไม่กลายร่างเป็นชิ้นเนื้อบนเขียงให้ผู้เป็นสามีสับจนเละหรอกนะ!
