บทที่ 30 เทพอะนิวบิสบอกใบ้ (3/3)

สังฆราชโฮรันเดินเข้าไปในห้องเล็กอีกห้อง นัซย่ารีบเดินตามนักบวชชราผู้นี้ไป เธอก็อยากรู้เช่นกันว่าเขาจะตรวจวิถีแห่งดวงดาวและมีวิธีทำนายอย่างไร นี่เป็นศาสตร์ที่ไม่ปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์ใดเลย

ในห้องเล็กนี้ รอบห้องเรียงรายไปด้วยแท่นหินสีขาวที่วางไว้ด้วยรูปแกะสลักของทวยเทพทุกองค์ในอียิปต์โบราณ รูปสลักเหล่านี้สลักจากหินสีขาว สูงราวหนึ่งฟุตครึ่ง และงดงามประณีตด้วยฝีมือสลักอันละเอียด กระทั่งชายผ้าที่พลิ้วไหวก็ยังสลักได้เหมือนจริง ผนังและเพดานห้องเต็มไปด้วยรูปวาดของปวงเทพ

สังฆราชโฮรันเดินมาคุกเข่าลงเบื้องหน้าเทวรูปของเทพอะนิวบิสที่อยู่ในท่าประทับยืน พระหัตถ์ข้างหนึ่งถือตาชั่ง บนตาชั่งมีขนนกของเทพีมาอัต พระหัตถ์อีกข้างถืออังค์ นักบวชผู้นี้เปล่งเสียงสวดสรรเสริญด้วยทำนองทุ้มต่ำหากก้องกังวาน

***แด่เทพอะนิวบิสผู้ดูแลผู้วายชนม์ ข้าขอสรรเสริญพระองค์

องค์เทพผู้อยู่เหนือสุสาน ทรงอำนาจเหนือสุสาน ผู้พิทักษ์แห่งเทพโอไซริส ผู้พิทักษ์แห่งเทพโฮรัสและผู้เยาว์วัย

ผู้ทรงคันชั่งเพื่อชั่งน้ำหนักหัวใจ ผู้รักษาสมดุลของขนนกแห่งเทพีมาอัต

เทพผู้ทรงนําข้าสู่ดูอาต ที่ชีวิตหลังความตายของข้าจะได้อยู่อย่างสงบตลอดไป

ที่ซึ่งข้าได้เกิดใหม่ท่ามกลางผู้คนที่ข้ารัก คนที่ข้ารักที่สุดซึ่งข้าจะได้ติดตามพวกเขาและพวกเขาจะปกป้องข้า

โอ องค์เทพผู้ปกป้องและนำทางวิญญาณ โอ พระองค์ผู้ทรงศักดิ์ที่สุดของทวยเทพแห่งตะวันตก

พระองค์ผู้ทรงนำข้าสู่สุสาน ผู้ทรงนำข้าจากโลกนี้สู่โลกหน้า

พระผู้ทรงเบิกหนทางศักดิ์สิทธิ์ องค์เทพผู้ปรากฏพระนามและทรงอำนาจมายาวนาน

องค์เทพผู้ร่ายมนตร์แห่งลมหายใจ ข้าขอสรรเสริญพระองค์

พระผู้ทรงเป็นสหายร่วมทางของผู้จากไป ข้าขอบพระทัยสําหรับของขวัญมากมายที่ประทานให้

เสียงสวดสรรเสริญเทพอะนิวบิสสิ้นสุดลงแล้ว พริบตานั้นนัซย่ามองเห็นรูปสลักของเทพอะนิวบิสเปล่งรัศมีสว่างใสเรืองรองก่อนจะมีสุรเสียงทรงอำนาจที่ดังขึ้นให้ได้ยินเพียงคนในห้อง

“เจ้าคิดว่าข้าว่างพอจะไปล้อเล่นกับมนุษย์?”

เสียงนี้นัซย่าจำได้แม่นเลยเชียวล่ะ ก็เป็นเสียงเดียวกับเสียงที่ทรงหยอกล้อเธอพร้อมประทานมะเหงกที่เขกลงกลางศีรษะชนิดไม่เกรงใจกันเลย หากคำตอบนี้ทำให้สังฆราชโฮรันตะลึงลานจนตัวแข็งค้างไปแล้ว

“หากเจ้าอยากรู้ว่าข้าไปปรากฏตัวได้อย่างไร เจ้าก็มองหาผู้สวมกำไลทองที่มีลักษณะพิเศษดูสิ หึ หึ”

ประโยคสุดท้ายทรงบอกใบ้และมีเสียงสรวลอย่างพอพระทัยก่อนที่ประกายแสงขาวเรืองรองจะดับวูบ พร้อมกับสุรเสียงทรงอำนาจที่สูญหายไปพร้อมกัน นัซย่ามองเห็นสังฆราชโฮรันนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น

เจอแค่นี้ยังค้าง เจออย่างฉันนี่ ไม่ช็อกตายเลยเรอะ นัซย่านึกในใจอย่างขบขัน

เธอยังคงยืนมองนักบวชชราผู้นี้ที่อยู่ในอาการตะลึงค้างไม่เลิก เธออยากรู้ว่าเขาจะทำอย่างไรกับคำตอบที่ได้รับอย่างไม่คาดหมาย ก็ใครจะไปนึกล่ะว่าเทพเจ้าจะปรากฏแถมยังตรัสเสียงดังฟังชัดขนาดนี้ และยังเหนือความคาดหมายของเธอเช่นกัน เพราะเธอคิดว่าจะได้เห็นวิธีทำนายโชคชะตาแบบอียิปต์โบราณ แต่กลายเป็นว่าไม่ต้องทำนาย เทพเจ้ามาบอกให้เองเลย

รออีกครู่หนึ่งสังฆราชโฮรันค่อยตั้งสติได้ ร่างชรารีบหมอบลงกับพื้นเพื่อแสดงความเคารพด้วยท่าทีปลื้มปีติอย่างที่สุด

“ขอบพระทัย องค์เทพอะนิวบิสที่ทรงเมตตาประทานคำชี้แนะ ขอบพระทัย ขอบพระทัย” สังฆราชโฮรันพร่ำขอบพระทัย ไม่นึกไม่ฝันว่าเทพเจ้าจะปรากฏให้เห็นแม้เป็นเพียงพระสุรเสียงก็ตาม

สังฆราชโฮรันค่อยๆ ลุกขึ้นและยืนครุ่นคิด

“สิ่งที่องค์เทพตรัสมีนัยสำคัญสองประการ ชั้นแรกตรัสว่า ‘เจ้าคิดว่าข้าว่างพอจะไปล้อเล่นกับมนุษย์?’ ถัดมาจึงเป็น ‘หากเจ้าอยากรู้ว่าข้าไปปรากฏตัวได้อย่างไร เจ้าก็มองหาผู้สวมกำไลทองอันมีลักษณะพิเศษดูสิ’ เช่นนี้เท่ากับว่าแท้จริงแล้ว องค์เทพมิได้เสด็จไปพบเจ้าชายเฮเซ็ทแต่เป็นคนอื่น และคนอื่นที่ว่านี้สวมกำไลทองที่มีลักษณะพิเศษ ลักษณะพิเศษคือลักษณะใดกัน”

“แต่สิ่งที่องค์เทพตรัส ชัดเจนว่าคนผู้นี้ไม่ได้ทำร้ายเจ้าชายเฮเซ็ท แล้วอย่างนั้น คนผู้นี้ไปพบเจ้าชายถึงห้องบรรทมเพราะเหตุใด และเมื่อพบแล้ว เหตุใดท่าทีของเจ้าชายเหมือนไม่ทรงทราบว่าคนผู้นี้ไปพบพระองค์ คนผู้นี้เพียงเข้าไปดูพระองค์แค่นั้น?”

หูยยยยย ฉลาดอ้ะ คิดออกไวมาก แต่แบบนี้ ฉันก็ต้องระวังตัวหน่อยล่ะ นัซย่านึกชมเมื่อฟังสิ่งที่สังฆราชโฮรันเอ่ยออกมา

“ไม่ใช่ เป็นไปไม่ได้ คนผู้นี้ปลอมแปลงเป็นเทพอะนิวบิสจนมหาดเล็กบาลเชื่อถือ ชัดเจนว่าต้องปลอมได้แนบเนียนมาก ไม่มีทางที่จะปลอมแปลงเพียงเพื่อไปยืนดูพระองค์บรรทมแน่ แต่หากเป็นเช่นนี้ แล้วคนผู้นี้ไปพบเจ้าชายเฮเซ็ทเพราะเหตุใด”

“ข้าควรบอกถึงคนผู้นี้ให้องค์ราชินีและเจ้าชายทรงทราบดีหรือไม่”

“ไม่ บอกไม่ได้ คนที่สามารถปลอมแปลงจนเหมือนเทพอะนิวบิสได้ ต้องเป็นคนพิเศษอย่างยิ่ง และการปลอมแปลงนี้ แม้จะดูเหมือนลบหลู่พระองค์ แต่หากพิจารณาจากที่ตรัส พระองค์มิได้ทรงไม่พอพระทัย ในทางกลับกัน ดูเหมือนจะพอพระทัยเสียมากกว่า นั่นแสดงว่าพระองค์ทรงโปรดและปกป้องคนผู้นี้ ทั้งกำไลที่ตรัสถึงก็เป็นทั้งเครื่องประดับและเครื่องราง กำไลนี้ต้องพิเศษจริงๆ และพระองค์ต้องเกี่ยวข้องกับกำไลนี้ มิฉะนั้น ไม่ทรงบอกใบ้เช่นนี้แน่”

“ข้าต้องไม่ให้องค์ราชินีและเจ้าชายทราบถึงคนผู้นั้น แล้วค่อยสืบหาภายหลัง” สังฆราชโฮรันตัดสินใจได้ในที่สุด

ความคิดอันรอบคอบของสังฆราชโฮรันทำให้นัซย่านึกทึ่งยิ่งกว่าเดิม

“ได้ความว่าอย่างไรบ้างท่านสังฆราช” ราชินีเนบเซมิตรัสถามทันทีที่เห็นสังฆราชโฮรันกลับมา

“ดวงชะตาของเจ้าชายเฮเซ็ทปกติพ่ะย่ะค่ะ ที่เทพอะนิวบิสเสด็จมาก็เพียงทรงผ่านทางมาเพื่อเสด็จไปยังสถานที่อื่นเท่านั้น มิได้มีพระประสงค์จะนำคาของเจ้าชายไปพ่ะย่ะค่ะ”

ได้ยินเช่นนี้ ราชินีเนบเซมิและเจ้าชายเฮเซ็ทก็โล่งอกทันที

สังฆราชโฮรันรีบกล่าวต่อเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ “เทพอะนิวบิสพอพระทัยกับพิธีบวงสรวงวันนี้มาก องค์ราชินีและเจ้าชายสบายพระทัยได้ ไม่ต้องทรงกังวลใดๆ เสด็จกลับได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”

“ขอบใจท่านสังฆราชมาก”

เชิงอรรถ

***บทสวดสรรเสริญเทพอะนิวบิส (Hymn to Anubis)

To Anubis whose work is the care of the dead, I offer my praise.

O god of the graveyard, great god of the tomb,

preserver of Osiris, protector of Horus the child,

bearer of the scale, counter of hearts, balancer against

the feather of Ma'at, you lead us into the Duat,

the life after life in which we may dwell in peace and plenty,

in which we may be reborn among those we have loved,

our dearest ones in whose steps we hope to follow,

to whose arms we hope to return. O guardian and guide

of souls, O foremost of the Western gods, Anubis

who leads us into the necropolis, who carries us

from world into world, Anubis who opens that sacred way,

Abubis who is ancient of name and ancient of might,

speaker of spells and granter of breath, I honor you,

O friend of the departed; I thank you for your many gifts.

***ดูอาต (Duat) เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างโลกกับชีวิตหลังความตาย เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวและอุปสรรคที่ยากลําบาก แต่ไม่ใช่ที่ที่วิญญาณไปอยู่ชั่วนิรันดร์

ในจักรวาลวิทยาอียิปต์โบราณ โลกถูกคิดว่าเป็นรูปแบนและรูปไข่ ล้อมรอบด้วยมหาสมุทร ภายใต้โลกนี้เป็นโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลของยมโลกที่มีสายน้ำดึกดําบรรพ์ของเทพนันไหลผ่าน ยมโลกมีภูมิทัศน์คล้ายกับโลกแต่น่ากลัวกว่า มีต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำ แต่ยังมีทะเลเพลิง ถ้ำที่มืดมิด วิญญาณชั่วร้าย และอสรพิษ ผู้ปกครองยมโลกคือเทพโอไซริส