บทที่ 18 หน้ากากที่แตกออก (3/3)
“เจ้าทำอะไรกับมัน” เจ้าชายนาร์เมอร์ตรัสถามเมื่อสังเกตเห็นว่าชาวคุชคนนี้ดูคล้ายสติสัมปชัญญะไม่อยู่กับตัว
“แล้วหม่อมฉันจะเล่าให้ฟังทีหลังเพคะ ตอนนี้ทรงถามมันก่อนดีกว่า”
“ใครส่งพวกเจ้ามา” พระองค์ตรัสถามทันที
“ชาวอียิปต์ผู้หนึ่ง”
“ชาวอียิปต์คนนั้นมีนามและรูปร่างหน้าตาอย่างไร”
“มันแต่งกายเช่นมหาดเล็ก สูงพอๆ กับข้า ข้าไม่รู้ว่ามันมีนามว่าอย่างไร”
“มหาดเล็กคนนั้นใส่สเค็นติสีใด”
“สีเหลือง”
พระเนตรของเจ้าชายนาร์เมอร์ทอประกายวาบ
“อนูค เจ้าเข้าวังไปเฝ้าเสด็จพ่อทุกวัน มีใครอยู่ในห้องนั้นอีก” เจ้าชายนาร์เมอร์หันมาถามทันที
แม่ทัพอนูคนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งค่อยตอบออกมา “มหาดเล็กสองคนพ่ะย่ะค่ะ คนหนึ่งเป็นฟา มหาดเล็กคนสนิทขององค์ฟาโรห์ อีกคนเป็นมหาดเล็กที่ดูแลห้องทรงพระสำราญขององค์ฟาโรห์”
“เจ้าจำรูปร่างหน้าตาของมหาดเล็กที่ดูแลห้องทรงพระสำราญของเสด็จพ่อได้ใช่หรือไม่”
“ได้พ่ะย่ะค่ะ”
“ดี เจ้าบอกลักษณะของมหาดเล็กคนนั้นให้มันฟัง”
“มหาดเล็กที่เจ้าพบ นัยน์ตาโต จมูกงุ้ม หน้ากลม ใช่หรือไม่”
“ใช่” คนร้ายชาวคุชตอบรับ
“พวกมันถึงกับวางสายลับไว้ในตำหนักของเสด็จพ่อ” เจ้าชายนาร์เมอร์แค่นพระสุรเสียง
“เป็นธรรมดาเพคะ หากข้าเป็นศัตรูของฝ่าบาท ข้าก็วาง จะมากจะน้อย ข้างกายองค์ฟาโรห์ย่อมสืบความลับได้ไม่ยาก” นัซย่าเอ่ยออกมา เจ้าชายนาร์เมอร์ต้องพยักพระพักตร์อย่างเห็นด้วย
“มหาดเล็กคนนั้นเป็นคนของผู้ใดมาก่อน เจ้ารู้หรือไม่ อนูค” เจ้าชายนาร์เมอร์หันมาถามแม่ทัพคู่พระทัย
“ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ”
“เช่นนี้ก็ยากที่พวกเราจะไปจับตัวมหาดเล็กคนนั้น พวกเราไม่มีหลักฐาน”
“มีคำถามหนึ่งที่ฝ่าบาทเหมือนจะลืมถามไป” นัซย่าเอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปถามชาวคุชผู้นั้น
“เมื่องานครั้งนี้เสร็จสิ้น พวกเจ้าจะไปรับรางวัลที่ใดกับใคร”
“อะคาเซียส์แห่งไนล์ มหาดเล็กคนนั้นจะรออยู่ที่นั่น”
คำตอบนี้ทำให้นัซย่าหันหน้ามามองเจ้าชายนาร์เมอร์และแม่ทัพอนูคทันที เพราะเธอไม่รู้จักอะคาเซียส์แห่งไนล์
“ต้นอะคาเซียส์ขึ้นอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำไนล์ แต่อะคาเซียส์ที่ถูกเรียกว่า ‘อะคาเซียส์แห่งไนล์’ จะเป็นต้นที่สูงใหญ่ที่สุดซึ่งสังเกตเห็นได้ไม่ยาก” เจ้าชายนาร์เมอร์ตรัสตอบให้เธอหายข้องใจ
“อนูค เจ้าไปที่นั่น จับมันมาให้ข้า”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“แล้วพวกคนร้ายนี่จะทรงทำอย่างไรต่อเพคะ”
“ซีเบก ฆ่าให้หมด”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“เซเตม เจ้ากับซีเบก เอาศพของพวกมันไปทิ้งในทะเลทรายตะวันตก***”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“นัซย่า เจ้าทำอะไรกับมันถึงทำให้มันยอมพูดออกมา” เจ้าชายนาร์เมอร์ตรัสถามระหว่างรอแม่ทัพอนูค แพทย์หลวงเซเตม และมหาดเล็กซีเบก
“หม่อมฉันแค่ฉีดยากล่อมประสาทเท่านั้นเพคะ ยากล่อมประสาทจะทำให้คนที่ได้รับไม่มีสติอยู่กับตัว แต่ที่หม่อมฉันใช้เป็นยากล่อมประสาทชนิดอ่อน เพราะคนที่ไม่เคยถูกฝึกให้ทนทานกับยากล่อมประสาทไม่มีทางต่อต้านฤทธิ์ยาได้ แต่กับคนที่ถูกฝึก ยากล่อมประสาทที่หม่อมฉันใช้ย่อมไม่ได้ผล”
“แล้วเจ้าทำอย่างไรจึงสามารถทำให้พวกมันบาดเจ็บในจุดเดียวกันทุกคน”
“หม่อมฉันติดเครื่องมือบางอย่างไว้รอบบ้านท่านลุงเซเตมเพคะ เครื่องมือนี้จะป้องกันอันตรายจากคนร้าย ถ้าเป็นสถานที่ที่หม่อมฉันจากมา เครื่องมือแค่นี้ทำอะไรคนร้ายไม่ได้หรอกเพคะ แต่เผอิญว่าคนร้ายที่นี่ไม่รู้ถึงสิ่งนี้ หรือต่อให้รู้ก็ไม่มีทางหลบพ้น ผลจึงออกมาอย่างที่ฝ่าบาททอดพระเนตร”
“หมายความว่าหากข้าลอบเข้าบ้านเซเตมในเวลากลางคืน ข้าก็คงมีสภาพเช่นนี้?”
“ถูกต้องเพคะ ดังนั้น หม่อมฉันแนะนำว่าถ้าทรงรักชีวิตตัวเองก็อย่าทรงเสี่ยงจะดีกว่า” นัซย่าตอบยิ้มๆ อย่างชอบใจ
“ไม่ว่าข้าจะพรางตัวอย่างไรก็ไม่รอดพ้นเครื่องมือนี้?”
“ใช่เพคะ จริงๆ มันก็มีวิธีพรางอยู่แต่หม่อมฉันไม่บอกพระองค์หรอก ทรงทราบแค่ว่าเครื่องมือนี้ป้องกันคนในบ้านหลังนี้ได้ก็พอ”
เจ้าชายนาร์เมอร์ต้องแอบถอนพระทัย นางในห้วงฝันของพระองค์อันตรายเกินกว่าผู้ใดจะคาดคิด ใครจะไปนึกว่านางจะซุกซ่อนความร้ายกาจไว้ภายใต้ใบหน้าสะสวยและรูปร่างอันงดงาม ทั้งนางยังไม่ได้แสดงฝีมือออกมาเลย มีเพียงการใช้เครื่องทุ่นแรงเท่านั้น และเครื่องทุ่นแรงของนางก็น่ากลัวไม่ต่างจากเทพอะนิวบิสแม้แต่นิดเดียว
“ได้ตัวมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพอนูคกล่าว ทหารที่ติดตามมาด้านหลังผลักชายผู้หนึ่งที่ถูกมัดอย่างแน่นหนามาล้มลงที่เบื้องพระพักตร์ของเจ้าชายนาร์เมอร์ แล้วพวกเขาจึงออกจากห้องไป
สภาพของชายผู้นี้ คิ้วแตก หางตาแตก ปากแตก มันนอนงอตัวอย่างเจ็บปวดด้วยถูกซ้อมเพื่อให้เปิดปากสารภาพมาก่อนหน้า
“นึกว่าใคร ที่แท้ก็เจ้านี่เอง อันนิ” เจ้าชายนาร์เมอร์ตรัสออกมา
“ข้าเห็นเจ้าอยู่ดูแลห้องนั้นมาหลายปี ไม่นึกว่าเจ้าจะเป็นสายลับไปเสียได้”
“ได้ความมาว่าอย่างไร” เจ้าชายนาร์เมอร์ตรัสถามแม่ทัพอนูค
“มันเป็นคนของราชินีเนบเซมิพ่ะย่ะค่ะ...”
“อะไรนะ ! เสด็จน้าเนบเซมิ !” เจ้าชายนาร์เมอร์ตรัสอย่างตกพระทัย
นัซย่าต้องเบิ่งตากว้างอย่างแปลกใจ
ราชินีเนบเซมิ? ราชินีของฟาโรห์เซิร์ค? ราชินีคนที่เท่าไหร่กันล่ะ เธอคิดอย่างงุนงง
นั่นเพราะฟาโรห์มีราชินีได้หลายองค์ อย่างน้อยนัซย่าก็รู้มาว่าทั้งฟาโรห์ทุตโมสที่สามและฟาโรห์รามีเซสที่สองผู้มีชื่อเสียงต่างมีราชินีกันคนละเจ็ดองค์ แต่ราชินีที่เป็น Great Royal Wife หรือ Principal Wives หรือ Chief King's Wife นั้นจะมีเพียงหนึ่ง แน่นอนว่าพระราชมารดาของเจ้าชายรัชทายาทนาร์เมอร์ต้องทรงอยู่ในตำแหน่งนี้
“พ่ะย่ะค่ะ เป็นราชินีเนบเซมิ” แม่ทัพอนูคตอบเสียงเรียบ สีหน้าทอแววเห็นใจเจ้าชายนาร์เมอร์ชัดเจน
สีพระพักตร์ของเจ้าชายนาร์เมอร์หมองลงอย่างเห็นได้ชัด
“อันนิอยู่ในห้องนั้นด้วย มันจึงทราบเรื่องที่กระหม่อมเข้าเฝ้าองค์ฟาโรห์เพื่อทูลถึงพระอาการประชวรของฝ่าบาท มันบอกเรื่องนี้แก่เจ้าชายเฮเซ็ทและองค์ราชินีเนบเซมิ”
“ได้ความอะไรอีกบ้าง” ตรัสถามต่อ พระสุรเสียงถูกข่มให้เรียบนิ่ง
เชิงอรรถ
***ทะเลทรายตะวันตกเป็นส่วนหนึ่งของทะเลทรายลิเบียและครอบคลุมพื้นที่ 262,000 ตารางไมล์ พื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยหุบเขาเนินทรายและพื้นที่ภูเขาบางแห่ง ทะเลทรายแห่งนี้ยังมีโอเอซิสห้าแห่งที่ยังคงเป็นที่รู้จักในปัจจุบัน ได้แก่ Siwa Oasis บาฮาริยา ฟาราฟรา ดัคลา และคาร์กา
