บท
ตั้งค่า

ตอนที่3

“โธ่...เฮีย” เสียงเขียวฟังแหวๆ กลายเป็นเสียงออดอ้อขึ้นมาทันที “นิลเพิ่งกลับจากอีสานใต้มาหยกๆ ให้พักสักนิดไม่ได้เหรอ นะเฮียนะ เฮียสุดที่รักสุดที่เคารพสูงสุดยอดไม้ระขี้เมฆนั่นเลย”

“เอ็งได้พักแน่ แต่ต้องเสร็จงานนี้ก่อน งานนี้มีเงินพิเศษสองเท่า เบิกค่าใช้จ่ายได้เต็มพิกัด เพราะถ้าได้ข่าวนี้ก่อนสำนักพิมพ์อื่น ถือเป็นชิ้นโบว์แดงเชียวนะ แต่กว่าจะได้ก็คงไม่ง่าย เพราะอย่างนี้ ข้าถึงว่าเอ็ง... ลูกหม้อก้นกุฏิ ที่ข้าเทรนมากะมือคนเดียวเท่านั้น ที่ข้าวางใจว่าจะไม่ทำงานนี้เสีย”

เมื่อเจ้านายผู้มากน้ำใจที่หล่อนยกขึ้นหิ้ง จัดให้เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่มีบุญคุณ ยืนกรานเสียงหนักแน่น ทว่านุ่มนวล มนิลาก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ความเป็น ‘ไอ้นิล’ สุ้มเสียงจึงยังแข็งๆ ประกอบสีหน้าขัดอกขัดใจอยู่นั่นเอง

“เอาๆ ทำก็ทำ! เฮียว่ามาได้เลย จะให้ไปเป็นสาวดอยที่ไหน ยังไง ประเด็นอะไร อ้อ เงินพิเศษสองเท่า แถมเบิกค่าใช้จ่ายได้เต็มพิกัดแน่นะ ห้ามขี้จุ๊นา”

ปฏิยุทธ์ลอบถอนใจ เพราะเมื่อตัดสินใจก็กลัวๆ อยู่ว่าไอ้นิลจะฟาดหัวฟาดหางแค่ไหนก็ไม่รู้ การที่มันยินยอมในไม่กี่นาที โดยไม่แผลงฤทธิ์แผลงเดชจนโรงพิมพ์กระจุย จัดว่าเหลือคาด ถึงว่ามันจำท่าทำทางราวกับว่าเห็นแก่เงินพิเศษอย่างนั้น แต่โดยน้ำใสใจจริงของมัน เขารู้ว่ามันรักงานเหนือสิ่งอื่นใด

“เออ เอ็งเบิกเต็มที่”

เขาบอกออกไปอย่างอารมณ์ดี ไม่เลยรู้ตัวเล๊ย...ว่าเผลออมยิ้มแก้มตุ่ย กระทั่งเห็นตาดำปิ๊ดปี๋ ตวัดมาในลักษณาการที่เขาไม่ใจว่าจะเรียกอาการดังกล่าวว่า ‘ค้อน’ ได้ หรือไม่ เพราะดูประหลับประเหลือกชอบกลอยู่

ก็นี่ละน๊า ค่าที่มันทำตัวแบบชายอกสองศอกครึ่ง จนแทบจะลืมเพศเดิมแท้แต่เกิดไปแล้ว พอจะแสดงกิริยา...ผู้หญิ๊ง-ผู้หญิง กับเขามั่ง เลยออกมาครึ่งๆกลางๆ ดูแล้วชวนขันน้อยอยู่รึนั่น

แต่แล้ว ดูเหมือนนักข่าสาวหัวเห็ดจะนึกขึ้นได้ เพราะเปลี่ยนจากค้อนควักมาเป็นยิ้มประจบประแจง ถามเสียงอ่อนเสียงหวาน

“ที่บอกว่าเบิกได้เต็มที่ นอกจากค่าที่พัก ค่าน้ำชา กาแฟ อาหารการกินเพื่อสุขภาพแล้ว ยังเบิกสิ่งเสพย์ อย่างค่าบุหรี่ ค่าสุราเมรัยที่จะเข้าไปช่วยถ่วงดุล ไม่ให้สุขภาพดีจนเกินไปจนร่างกายขาดภูมิคุ้มกัน ได้ด้วยใช่มั้ยเฮีย”

ปฏิยุทธ์เป็นฝ่ายค้อน หรือความจริง ทำตาเหลือกเข้าใส่มากกว่า... มั่งแล้ว แต่พูดไม่ทันไอ้คนปากคม

“งานใหญ่ไม่ใช่เหรอ ความเครียดย่อมเพิ่มเป็นสองเท่านะเฮียนะ”

“ได้คืบจะเอาศอกตามระเบียบละเอ็ง”

“แปลว่าไม่ตกลง? งั้น...”

เห็นคิ้วเรียวๆ ได้รูป กระเถิบสูงขึ้น ในลักษณะบอกให้รู้ทางอ้อมว่า ‘โน-เปย์ โน-ไป นะเฮีย’ ทำให้ต้องรีบตกลง

“เออๆได้ แต่บุหรี่ข้าให้เอ็งแค่อาทิตย์ละซอง ส่วนเหล้าก็กินพอเป็นกระสาย และหวังว่าเอ็งจะไม่สั่งไวน์แก้วละเป็นพันมาดื่มก่อนและหลังอาหารหรอกนะ ไม่งั้นละ เอ็งเอ๊ย... กว่างานเอ็งจะเรียบร้อย ข้าเจ็งแน่ แล้วโบนัสปลายปี ก็หวังเลยว่าจะได้ตามที่เอ็งกะพรรคพวกตั้งเอาไว้แล้ว”

“แหม...แหม! เห็นนิลเป็นลูกอีช่างผลาญไปได้ อะไรไม่จำเป็นนิลไม่เคยเบิกเกินงบบริษัทซักที”

“เออ ข้ารู้ เอ็งเป็นคนยังไง แต่ที่พูดนี่ก็เพราะไม่อยากให้เอ็งโด๊ปเข้าไปมากทั้งสุรายาสูบ นอกจากไม่ให้คุณ ยังให้โทษมหันต์ แล้วข้าก็ไม่เข้าใจเอ็งจริงจริ๊ง...ไอ้นิล เอ็งจะสูบ จะดื่ม ไปทำไมวะ แล้วผู้หญิงดื่มของมึนเมา พ่นควันปุ๋ยๆน่ะ มันโก้เก๋นักเรอะ ใครเห็นเข้าก็มีแต่จะเบ้หน้า ดีไม่ดี เขาได้นึกว่าเอ็งเป็นผู้หญิงพรรค์นั้น รูปร่าง ผิวพรรณเอ็งยิ่งให้ๆอยู่”

“เฮี๊ย... พูดอย่างนี้หมายความว่าไง?”

“ข้าเก๊าะหมายความว่า... เอ็งควรประพฤติปฏิบัติตัวให้ห่างไกลภาพลักษณ์เมียเช่าฝรั่งมากๆหน่อยนะซี แค่หุ่นเอ็ง กับไอ้ผิวดำๆของเอ็ง มันก็เข้าตำรับพวกฝรั่งที่ชอบมีเมียเช่า มองตาเป็นมันอยู่แล้ว เอ็งก็รู้ใช่เรอะ”

ปฏิยุทธ์รู้ดีว่าเขาก็พูดไปอย่างนั้นเอง เพราะจริงแท้แล้ว ‘ไอ้นิล’ ลูกน้องก้นกุฏิของเขานั้นจัดว่าเป็นผู้หญิงหน้าตาเข้าท่าเข้าทางคนหนึ่งทีเดียว ถึงมันจะไม่ขาวอล่องฉ่อง ผิวแตงร่มใบ แต่ผิวสีน้ำตาลทรายรำของมันก็เนียนละเอียด ดูนุ่มนวลชวนให้นึกถึงความหวานของน้ำตาลทรายนั่นเลย

ว่ากันถึงทรวดทรงองค์อร ถึงมันจะโปร่งบางเป็นแม่ใบตองปลิว มันก็พอมีอยู่หรอก บางเสี้ยวบางส่วนที่จะอวดได้ว่ามันก็ผู้หญิงคนหนึ่งเหมียนกัลลล์

ตาดำปิ๊ดปี๋ จนได้ชื่อว่านิล เพราะตามันดำอย่างกับนิลจริงๆนั่นอีก แม้จะชอบมองคนดุๆ ประกาศทั้งทางตรงและทางอ้อมว่า มันเป็นคนเอาเรื่อง ไม่ยอมใครง่ายๆ แต่ก็มีเวลาที่ดวงตาดำ ดุ คู่นี้จะอ่อนแสง ราโรย ที่เขาค่อนข้างแน่ใจว่า เขาคนเดียวที่มีโอกาสได้เห็นมันในสภาพอารมณ์ขณะหัวใจของมันเหนื่อยล้า ในยามที่มันนึกถึงความเป็นมาของตัวเอง ครั้งยังเยาว์วัย นึกถึงชีวิตที่ต้องกัดฟันสู้เพื่ออนาคตที่ดี ไม่กลายเป็นขยะสังคมอย่างเพื่อนๆเด็กกำพร้าอีกหลายๆคน

ถ้าเพียงแต่ใจมันจะไม่รักดี เขาเชื่อ... เชื่อจริงๆ ว่ามันก็คงไม่ต่างจากเพื่อนลูกกำพร้า ที่ไม่เป็นที่ต้องการของใครๆแม้แต่พ่อแม่ที่ช่วยกันทำให้เกิด

“สถานสงเคราะห์ที่นิลโตมา จะมีทั้งเด็กที่พ่อแม่ทอดทิ้งจริงๆ กับเด็กที่ไม่มีพ่อ มีแต่แม่ แต่แม่ก็เลี้ยงเองไม่ไหว ก็เลยเอาลูกมาฝากไว้ แล้วก็มาเยี่ยม มาถามข่าวคราว บางทีก็มีของฝากเล็กๆน้อยมาฝากลูก อาจจะเป็นช็อกโกแลตซักห่อเล็กๆ หรือถุงเท้าสักคู่ในหน้าหนาว นิลก็สงสัยซี ... ทำไมพ่อแม่นิลไม่มาบ้าง ถ้ากลัวใครจะรู้ แล้วต้องเสียเงินให้สถานสงเคราะห์บ้างตามกำลัง แอบมาก็ได้ ... นิลโตมากับแม่ชีในโบสถ์ฝรั่งที่อาสามาช่วยงานสังคมข้างนอก ก็เลยได้รู้จักคุณพ่อซานต้า ... รู้ว่าเด็กๆ ทั่วโลกจะตั้งรอวันคริสต์มาส เพื่อขอของขวัญชิ้นหนึ่งจากซานตาคลอส นิลก็ไม่ต่างจากเด็กเหล่านั้น ทุกคริสต์มาส นิลจะตั้งจิตอธิษฐานขอของขวัญอย่างหนึ่งจากคุณพ่อซานต้า แต่นิลก็ไม่เคยได้...”

เขาจำได้ถึงน้ำเสียงที่แผ่วพร่า บอกถึงความสะเทือนใจของผู้เล่าว่ารุนแรงหยั่งรากลึกแค่ไหน และเจ้าตัวเก็บอัดเอาไว้นานเท่าใด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel