บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2

ลานหน้าคณะศิลปกรรมศาสตร์

แสงแดดยามบ่ายคล้อยอ่อนลงเล็กน้อย รถยนต์หรูสีดำคันคุ้นตาจอดเด่นสะดุดตาอยู่ริมถนน ธันวาก้าวลงจากรถพร้อมแว่นกันแดดที่ช่วยบดบังสายตาคมเข้มไว้บ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถลดทอนรังสีความน่าเกรงขามและสง่าของเขาได้

เสียงซุบซิบเบา ๆ ของนักศึกษาหญิงหลายคนดังขึ้นทันทีที่เห็นร่างสูงในชุดสูทกึ่งทางการ ชายหนุ่มเจ้าของตำแหน่งประธานบริษัทใหญ่ ผู้เป็นที่หมายปองของใครต่อใคร แต่สายตาของเขากลับจับจ้องไปยังหญิงสาวเพียงคนเดียวที่กำลังเดินออกมาจากตึกเรียน

อิงลดาชะงักไปชั่วครู่เมื่อเห็นเขายืนพิงรถรออยู่ หัวใจพลันเต้นแรงขึ้นจนแทบกลบเสียงรอบข้าง

“อิง...” ธันวาเรียกเธอด้วยเสียงทุ้มอบอุ่น ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มบาง

หญิงสาวก้าวเข้าไปหาอย่างลังเลเล็กน้อยเพราะสายตาหลายคู่กำลังจับจ้อง แต่เพียงแค่ได้ยินเสียงเขา ความอายก็ถูกแทนที่ด้วยความอบอุ่นในทันที

“พี่วา...มารอนานไหมคะ” เธอถามเสียงเบา

“ไม่ครับ แค่ไม่กี่นาทีเอง” เขาเอื้อมมือมารับกระเป๋าจากเธอไปถืออย่างเป็นธรรมชาติ จากนั้นเปิดประตูรถให้ด้วยท่าทีที่ทำเอาหญิงสาวรอบข้างมองตามอย่างอิจฉา

อิงลดารีบก้าวขึ้นไปนั่งในรถ ใบหน้าแดงระเรื่อเพราะทั้งความเขินและความสุข เมื่อธันวาขึ้นมานั่งข้าง ๆ และสตาร์ทรถ ความเงียบอุ่น ๆ ก็เข้ามาโอบล้อมทั้งคู่

“วันนี้เหนื่อยไหมครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างห่วงใย

“นิดหน่อยค่ะ...แต่พอเห็นพี่วาก็มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย” หญิงสาวตอบออกไปโดยไม่รู้ตัว

ธันวาหันมามองแวบหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ และยื่นมือมาวางทับมือเล็กของเธอบนตัก หัวใจของหญิงสาวพองโตทันที รอยยิ้มบาง ๆ แผ่วปรากฏบนริมฝีปาก เธอหันไปมองเขาอย่างซึ้งใจ

รถยนต์หรูเคลื่อนออกไปจากรั้วมหาวิทยาลัย ทิ้งไว้เพียงเสียงซุบซิบอิจฉาของผู้คนรอบข้าง และใบหน้าแดงซ่านของอิงลดาที่ซ่อนอยู่ภายในรถ...

ภายในรถ

แสงแดดยามบ่ายลอดผ่านกระจกหน้ารถเข้ามาอย่างอ่อนโยน เสียงเครื่องยนต์ที่เดินเรียบเป็นจังหวะทำให้บรรยากาศภายในห้องโดยสารดูสงบเงียบ แต่ไม่อึดอัด เพราะเต็มไปด้วยความอบอุ่นจากการมีอีกคนอยู่เคียงข้าง

อิงลดานั่งเงียบ มือเล็กยังถูกโอบกุมไว้ด้วยฝ่ามืออบอุ่นของธันวา เธอเหลือบสายตามองเสี้ยวหน้าคมเข้มที่กำลังขับรถอย่างตั้งใจ ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกเหมือนหัวใจเธอกำลังเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ

“ทำไมเงียบไปล่ะครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นโดยไม่ละสายตาจากถนน แต่กระชับมือเธอแน่นขึ้นนิดหนึ่ง

“เอ่อ...หนูกำลังคิดว่า...พี่วาจะพาไปไหนคะ” หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย

“หึ ไม่บอกหรอกครับ...เซอร์ไพรส์” ริมฝีปากหยักยกยิ้มบาง ๆ อย่างมีเลศนัย

“พี่วา...ชอบทำให้หนูตื่นเต้นตลอดเลย” เสียงเล็กโวยวายขึ้นมาทันที แต่แก้มกลับแดงจัดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

“ใจเย็นครับ...อีกแป๊บเดียวก็ถึง”

ไม่นานนัก รถยนต์ก็เลี้ยวเข้าไปยังร้านอาหารบรรยากาศสบาย ๆ ริมแม่น้ำ สายลมเย็นพัดโชยกลิ่นอายของธรรมชาติปะปนกับกลิ่นหอมละมุนของอาหารจากครัว

ธันวาเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้ ก่อนจะยื่นมือหนามารับมือเธออย่างอ่อนโยน อิงลดาก้มหน้างุดเล็กน้อยขณะวางมือลงในมือเขา ความรู้สึกอุ่นราวกับถูกปกป้องโอบอุ้มเอาไว้ตลอดเวลา

โต๊ะริมกระจกถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย แสงแดดที่สะท้อนผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับราวกับคริสตัล ชายหนุ่มสั่งอาหารให้เธอแทบทั้งหมดเพราะรู้ดีว่าแฟนสาวชอบเมนูไหนบ้าง

“สปาเกตตีซีฟู้ดของอิง ส่วนพี่เอาสเต็กก็พอ” ธันวาพูดพลางมองเธอด้วยสายตาเอ็นดู

“พี่วารู้ใจหนูตลอดเลย” หญิงสาวยิ้มบาง

“ก็พี่จำได้ทุกอย่างที่เป็นอิง” เขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เอื้อมมือมาคลี่ปอยผมที่ปลิวตามลมให้เข้าที่

หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงราวกับจะละลายไปกับคำพูดนั้น เธอก้มหน้าลง แสร้งหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย

ผ่านไปสักพักอาหารที่สั่งไปก็มาเสิร์ฟ กลิ่นหอมของสปาเกตตีซีฟู้ดและสเต็กชิ้นโตอบอวลในอากาศ

“ลองชิมดูสิครับ อิง” ชายหนุ่มตักเส้นสปาเกตตีใส่จานเล็กให้เธอด้วยท่าทีเอาใจจนคนตรงหน้าหน้าแดง

“พี่วาไม่ต้องก็ได้ค่ะ หนูตักเอง...” เธอเอ่ยเสียงเบาแต่ก็ยอมรับจานนั้นมาอย่างเขิน ๆ

“อยากดูแล ไม่ได้เหรอครับ” เขายิ้มบางพร้อมกับลงมือหั่นสเต็กของตัวเอง

หญิงสาวแอบหัวเราะคิก รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบเหลือเพียงแค่เธอกับเขา ทุกอย่างกำลังดำเนินไปอย่างสวยงาม ทว่า...

ครืด... ครืด...

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นบนโต๊ะ ขัดจังหวะบรรยากาศหวาน ๆ ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อที่โชว์บนหน้าจอ ก่อนจะหยิบขึ้นมากดรับ

“ครับ...” น้ำเสียงเขาเรียบเฉย แต่แฝงความเกรงใจ

หญิงสาวนั่งเงียบ มือเล็กกำขอบโต๊ะแน่นเล็กน้อย รู้สึกถึงอากาศเปลี่ยนไปเล็กน้อย แม้จะยังไม่เข้าใจทั้งหมด

“ครับ ได้ครับ” ชายหนุ่มวางโทรศัพท์ลง เงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะหันมามองเธอแล้วยิ้มบาง ๆ เพื่อปลอบใจ

“มีอะไรหรือเปล่าคะ” เธอถามด้วยเสียงแผ่ว แต่พยายามทำให้ตัวเองดูปกติ

“ไม่มีหรอกครับ...” เขาตอบด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเช่นเดิม แต่มีความกดดันบางอย่างแฝงอยู่ในแววตา เขาเอื้อมมือมากุมมือเธอไว้แน่นขึ้นเล็กน้อย ราวกับส่งสัญญาณว่าไม่ต้องเป็นห่วง

หัวใจของหญิงสาวสั่นไหวเล็ก ๆ เธอยิ้มบาง ๆ แม้ใจจะรู้สึกวูบวาบ เพราะรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างที่อยู่เบื้องหลัง แต่ยังไม่สามารถจับได้

“ค่ะ...” เธอก้มหน้าลง ทานอาหารต่อด้วยความระมัดระวัง

หลังจากทานอาหารกันไปสักพักหญิงสาวยืนมองพระอาทิตย์ที่กำลังตกเพลินๆ โดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกถ่ายรูปจากแฟนหนุ่ม เขามองภาพที่ถ่ายไปเมื่อกี้ด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขจนล้นใจ

"สวยจัง..." ชายหนุ่มกาะซิบพูดใกล้ใบหูของหญิงสาวหลังจากเดินมาซ้อนข้างหลังเธอ หญิงสาวแอบสะดุ้งเล็กน้อย

"ใช่ค่ะ...สวยมาก" หญิงสาวหันไปยิ้มให้ชายหนุ่มที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว

"พี่หมายถึงหนูต่างหาก...สวยจนพี่หลงไม่ไหวแล้ว" หญิงสาวเบือนหน้าหนีทันทีเมื่อเห็นแววตาที่อบอุ่นนั้น เธอหน้าแดงระรื่น เธอไม่ชินสักทีกับความอ่อนโยนจากเขาที่มีต่อเธอ

"อยากกลับรึยังครับ" ชายหนุ่มวางปลายคางลงบนไหล่มูลของหญิงสาวก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ละมุน

"ขออีกห้านาทีได้มั้ยคะ..."หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ออกอ้อน ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ

"ไปค่ะ...อิงอยากกลับแล้ว" หลังจากที่เธอยืมมองพระอาทิตย์ตกจนมันลับขอบฟ้าไปแล้ว หันไปรอยยิ้มให้กับชายหนุ่มพร้อมกับชวนเขากลับคอนโด

"ครับ" ชายหนุ่มยื่นมือให้หญิงสาวจับก่อนจะพากันเดินออกจากร้านอาหารด้วยรอยยิ้มที่ลูกค้าในร้านต่างมองกันด้วยความอิจฉา บ้างคนบิดตัวเขินอาย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel