บท
ตั้งค่า

EP 09 แนะนำเหมือนเดิม

มาถึงวันที่หมอนัดเวทมนต์เพื่อไปตรวจดูอาการ เปลวยังคงไม่ได้กลับมาแม้เวลาจะผ่านไปกว่าสองเดือนกว่าแล้วก็ตาม งานที่ไนจีเรียยังไม่เรียบร้อยเขาจึงกลับมาไม่ได้ อีกทั้งยังวางใจว่าบลูเบลล์จะดูแลลูกชายเพียงคนเดียวของเขาได้เป็นอย่างดี

“เตรียมของเรียบร้อยหรือยัง?” เวทมนต์เอ่ยถามขึ้นมาเพราะเขาไม่อยากเสียเวลาที่จะต้องกลับมาเอาอะไร

“เรียบร้อยแล้วค่ะ เดี๋ยวเราลงไปทานข้าวกันก่อน ค่อยไปโรงพยาบาล คุณพ่อโทรมาบอกว่าแจ้งคุณหมอไว้เรียบร้อยแล้ว” เวทมนต์พยักหน้ารับ ช่วงหลังมานี้ดูเหมือนเขาจะเริ่มอยู่กับเธอได้อย่างดีบ้างแล้ว แต่ก็ยังคงมีบ้างที่จะชอบพูดจาทำร้ายเธออยู่เรื่อย ๆ ที่สำคัญในทุกวันเขาต้องได้มีเซ็กส์กับเธอไม่งั้นเขาจะหงุดหงิด

“พ่อโทรหาเธอเมื่อไหร?” เมื่อมาถึงโต๊ะทานข้าว เวทมนต์เอ่ยถามในเรื่องที่ค้างคาใจ

“เมื่อคืนค่ะ”

“ทำไมพ่อไม่โทรหาฉัน” บลูเบลล์เงียบเพราะไม่รู้จะตอบว่ายังไง ในเมื่อเธอไม่รู้เหมือนกัน

“ช่างมันเถอะ” พอรู้ว่าจะไม่ได้คำตอบเขาก็เลิกใส่ใจ แต่แล้วเสียงสมาร์ททีวีที่กำลังเปิดอยู่ก็ดึงความสนใจไปจากเวทมนต์เพราะชื่อของคนที่เขาไม่ได้ยินมานานถูกเอ่ยถึงในข่าวครั้งนี้ ในรายการคนดังบันเทิง

“มาถึงข่าวที่กำลังเป็นกระแสตอนนี้นะคะ ที่มีรูปหลุดของคุณน้ำฟ้านางแบบชื่อดังกำลังเดทกับหนุ่มปริศนา…” เวทมนต์หูดับเมื่อได้ยินว่าคนรักเก่าของเขากำลังเดทกับคนอื่น โดยที่เขายังอยู่ที่เดิมกับความรู้สึกเดิม ๆ เธอไปเริ่มต้นใหม่แล้ว แต่เขาไม่ได้ไปไหนเลย

“ปิดซะ!”

“ว่าไงนะคะ?” บลูเบลล์มั่วแต่ตั้งใจฟังจึงไม่ได้ยินเท่าไหร่ เธอไม่รู้ว่าน้ำฟ้าผู้เป็นคนรักของเวทมนต์คือคนในข่าวที่เธอกำลังให้ความสนใจ เพราะเธอถือว่าเป็นแฟนคลับของน้ำฟ้าเลยก็ว่าได้

“ฉันบอกให้ปิด หูหนวกหรือไงวะ!” บลูเบลล์รีบกดปิดทีวีจากรีโมทด้วยความหวาดหวั่น เธอไม่รู้สาเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ ก่อนจะมานึกได้ว่าแฟนเก่าของเวทมนต์ชื่อน้ำฟ้า

“หนูขอโทษนะคะ”

“ฉันไม่กินแล้ว จะไปรอที่รถ” เวทมนต์ค่อย ๆ ลุกจากที่นั่งและเริ่มใช้ไม้เท้านำทางไปยังรถ แต่เพราะสติและสมาธิของเขาไม่มี ชายหนุ่มเอาแต่คิดถึงเรื่องที่ได้ยินจนไม่ระวัง ก้าวพลาดบันไดหน้าประตูใหญ่

“คุณเวทมนต์!” บลูเบลล์ร้องเรียกดังลั่นด้วยความตกใจและก็แบงค์อยู่ห่างเกินกว่าจะคว้าได้ทัน เป็นบลูเบลล์เดินตามมาและคว้าเขาไว้แทน ด้วยน้ำหนักตัวที่หนักกว่าทำให้ทั้งคู่ล้มลง โชคร้ายคือบลูเบล์เป็นคนที่ได้รับแรงกระแทกเต็ม ๆ

“คุณเวทมนต์ หนูบลูเบลล์” แบงค์รีบวิ่งเข้ามาในทันทีและประคองเวทมนต์ให้ลุกขึ้น

“บลูเบลล์ เธอล้มเหรอ?” เวทมนต์ถาม สีหน้าของเขาแสดงความตกใจออกมาชัดเจน

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณเวทมนต์เจ็บตรงไหนมั้ยคะ?” บลูเบลล์พยายามจะลุกมาดูร่างกายของชายหนุ่ม แต่แขนของเธอกลับไม่สามารถค้ำยันรับน้ำหนักได้

“โอ๊ย!”

“เธอเป็นอะไรน่ะ?” เวทมนต์รีบถามเมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่ายร้องเสียงหลงแบบนั้น

“ขะ.. แขนหนู” หญิงสาวหน้าซีดเพราะรู้ถึงความผิดปกติของร่างกาย

“ลุงแบงค์ ผมยืนได้ ไปช่วยเธอ” น้ำเสียงที่ดูร้อนรนของเขาทำให้บลูเบลล์ที่กำลังกลัวความเจ็บยิ้มได้บ้าง อย่างน้อยที่เขาแสดงออกตอนนี้มันก็ดีว่าเหมือนเขาจะเป็นห่วง แต่มันก็แค่เหมือน เธอไม่กล้าจะเข้าข้างตัวเองขนาดนั้น

“โทรหาไอดีให้กู” เมื่อพากันขึ้นมาบนรถแล้ว เวทมนต์ก็เอ่ยสั่งการ์ดที่นั่งมากับแบงค์เสียงเข้ม

“นี่ครับ” หลังจากกดโทรเรียบร้อย การ์ดก็ส่งโทรศัพท์ส่งคืนให้เจ้านายหนุ่ม

“ว่าไง?” ไอดีเอ่ยทักทายคนที่เขาไม่ค่อยเห็นเบอร์โทรเข้ามาบ่อยมากนัก เพราะเจ้าตัวไม่ค่อยสุงสิงกับใครสักเท่าไหร่ในช่วงห้าเดือนหลังมา

“เตรียมหมอให้กู”

“เตรียมให้แล้ว อาเปลวโทรมาสั่งตั้งแต่เมื่อวาน”

“ไม่ใช่หมอกู กูหมายถึงหมออีกคน” ไอดีแปลกใจไม่น้อย

“ที่บ้านมึงใครเป็นอะไร?” เขาถามเพื่อนด้วยความร้อนใจเพราะกลัวว่าเวทมนต์นั้นจะเจ็บไปด้วย ยิ่งเขามองไม่เห็นแบบนี้คนรอบข้างยิ่งไม่วางใจ

“คู่หมั้นกู” ไอดีเงียบกริบเมื่อได้ยินแบบนั้น

“เตรียมให้กูด้วย ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงกูจะถึง”

“อืม” จากนั้นเขาก็กดวางสาย และวางโทรศัพท์ที่ข้างตัว

“เธอเจ็บมากหรือเปล่า?”

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูทนได้” บลูเบลล์ที่เห็นสีหน้าไม่ดีของเวทมนต์ก็ทำเอาเธอรู้สึกผิดที่ไม่ระมัดระวัง แต่ความจริงเป็นเวทมนต์ต่างหากที่ไม่ระวัง

“ทนหน่อย เดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว”

“ค่ะ”

“ขับเร็ว ๆ หน่อยลุงแบงค์” ไม่วายเขายังหันไปสั่งคนขับอีก

“ได้ครับ” แบงค์อมยิ้มบาง ๆ ที่เห็นว่าเวทมนต์เริ่มมีความรู้สึกห่วงคนอื่นบ้างแล้ว โดยเฉพาะเขารู้สึกแบบนี้กับบลูเบลล์มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่น้อยเลย

พอมาถึงโรงพยาบาล แบงค์ถูกสั่งให้ไปคอยดูบลูเบลล์ตอนตรวจ ส่วนเวทมนต์เลือกจะไปกับการ์ดอีกคน เขาไม่อยากให้บลูเบลล์มาอดทนเจ็บเพื่อฟังว่าอาการของเขาเป็นยังไง

“คุณเวทมนต์ครับ ผมอยากแนะนำเหมือนทุกครั้งที่มา รีบรักษาเถอะนะครับ ก่อนที่จะไม่มีโอกาส”

“ถ้าผมผ่าตัด ผมจะมีสิทธิ์หายมากแค่ไหน?” เวทมนต์เอ่ยถามแบบนั้นทำเอาหมอมีความหวัง

“หายแน่นอนครับ แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวสักนิด” เขาไม่ได้ตกลงที่จะรักษาเพียงแค่พยักหน้ารับเบา ๆ

“รีบตัดสินใจนะครับ หมอกลัวว่าทิ้งไว้นานกว่านี้มันจะรักษายาก”

“อืม” หลังตรวจเสร็จ การ์ดก็เตรียมจะพาเวทมนต์ไปรอที่รถ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ยอม

“พาไปหาบลูเบลล์หน่อย”

“แต่ว่า…” สุดท้ายคำพูดที่อยากจะขัดเจ้านายก็ต้องกลืนลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ขนาดเขามองไม่เห็นแต่ยังสามารถทำให้ขนลุกกับแววตาแบบนั้นได้

“อ้าว ทำไมไม่พานายไปรอที่รถ?” แบงค์ที่เห็นเวทมนต์เดินมาห้องตรวจ จึงเอ่ยถามการ์ด

“ผมให้พามาเอง บลูเบลล์ล่ะ?”

“เหมือนจะต้องใส่เฝือกครับ” แบงค์รายงานตามสถานการณ์แต่ดูเหมือนมันทำให้เวทมนต์ขมวดคิ้ว

“เป็นเยอะมากเหรอ?”

“ครับ ตอนล้มเหมือนหนูบลูเบลล์จะเอาตัวเองกันไม่ให้คุณเวทมนต์แขนกระแทกขอบบันได” ยิ่งได้ยินแบบนั้นเวทมนต์ยิ่งหงุดหงิด

“โง่หรือไงวะ” เขาพูดเบา ๆ กับตัวเอง หงุดหงิดที่เธอต้องมาเจ็บตัวเพราะเขา แต่หากเธอไม่ทำแบบนั้น วันนี้เวทมนต์คงจะได้พบแพทย์ทีเดียวสองคน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel