EP 08 เอาคนที่ไม่ได้รักมาทำเมียไม่ได้
หลายวันต่อมา บลูเบลล์ได้ไปเรียนตามปกติในทุกวัน เพราะเธอทำตามที่เวทมนต์ต้องการทุกอย่างโดยไม่ขัด โดยที่ไม่รู้เลยว่าทุกครั้งที่เธอไม่อยู่ เวทมนต์มักจะหงุดหงิดขึ้นจนใครในบ้านก็เข้าหน้าไม่ติด
“วันนี้บลูเบลล์เลิกเรียนกี่โมง?” เวทมนต์เอ่ยถามแม่บ้านที่เอาข้าวมาเสิร์ฟ
“ป้าไม่ทราบค่ะ”
“ไม่ทราบ หมายความว่าไง ไม่ได้ถามหรือไง?” เวทมนต์เริ่มใช้น้ำเสียงที่ติดใส่อารมณ์จนแม่บ้านคนนั้นกลัว
“หนูกลับมาแล้วค่ะ” โชคดีมากที่วันนี้คลาสที่เธอเรียนปล่อยเร็ว ทำให้เธอกลับถึงบ้านทันเวลาก่อนที่แม่บ้านคนนั้นจะถูกปีศาจร้ายกินหัว
“ไปเถลไถลที่ไหนมาหรือเปล่า?” เขาถามเหมือนทุกวันที่เธอต้องไปเรียน
“เปล่าค่ะ”
“ถ้าฉันรู้ว่าเธอโกหก ฉันจะทำให้เธอร้องขอชีวิตแน่บลูเบลล์” ถึงแม้ไม่ได้ทำ แต่คำขู่พวกนั้นก็ทำให้เธอหวั่นใจ
“เอาของไปเก็บ ฉันจะไปนั่งเล่นริมสระและเธอต้องเป็นคนพาไป”
“ได้ค่ะ” บลูเบลล์รีบวิ่งเอากระเป๋าไปเก็บโดยไม่รอช้า และมาพาเวทมนต์ไปนั่งในที่ที่เขาต้องการ
“วันนี้ไปเรียนเป็นไง?” นับว่าเป็นคำถามที่ค่อนข้างจะแปลกใจ เพราะอยู่กับมาครึ่งค่อนเดือนแล้วเขาเพิ่งจะเปลี่ยนคำถาม
“ก็ดีค่ะ อีกไม่กี่เดือนหนูก็จะจบแล้ว” เธอพูดด้วยความตื่นเต้น เพราะกว่าจะเรียนจบได้มันไม่ง่ายนักสำหรับเธอ
“ดี จะได้ไม่ต้องรบกวนเงินพ่อแม่ฉันอีก” แต่รอยยิ้มก็ต้องหุบลงเมื่อเจอเวทมนต์เอ่ยออกมาแบบนั้น
“หนูขอโทษนะคะ”
“รำคาญ เมื่อไหร่จะเลิกขอโทษวะ” เธอผิดอีกแล้ว เธอมีความผิดในทุกวัน ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูเหมือนเวทมนต์จะไม่พอใจ
“คุณอยากทานอะไรมั้ยคะ หนูไปหามาให้”
“ทำไม ไม่ชอบที่ฉันด่าเลยจะหนีหรือไง?”
“เปล่าค่ะ หนูแค่กลัวคุณหิว” บลูเบลล์รีบบอกก่อนที่เขาจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้
“เธอรู้มั้ย ฉันรักผู้หญิงคนหนึ่งมาก” จู่ ๆ เขาก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา
“ไม่ทราบค่ะ”
“งั้นฉันจะเล่าให้เธอฟัง” เพราะรู้ว่าเธอต้องเจ็บ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะพูดมันขึ้นมา คนนอนด้วยกันทุกวัน มีเซ็กส์กันทุกวันตั้งแต่วันแรกที่อยู่ด้วยกัน เวทมนต์คงไม่ใสซื่อถึงขั้นไม่รู้ว่าบลูเบลล์ต้องรู้สึก แต่นั่นแหละคือสิ่งที่เขาต้องการ เขาจะไม่ให้ความหวังเธอเด็ดขาด เพราะสำหรับเขาแล้วเธอไม่มีวันได้เป็นมากกว่านั้น
“ฉันคบกับแฟนฉันมาปีกว่า ฉันกำลังจะขอแฟนฉันแต่งงาน” เขาเล่าแบบรวบรัด และดูเหมือนว่าพอพูดถึงคำว่าแต่งงานออกมา เวทมนต์ก็พูดต่อไปไม่ถูก
“ทำไมถึงเลิกกันเหรอคะ?” เพราะความปากไวและความอยากรู้ที่มนุษย์ทุกคนต้องมี บลูเบลล์เลยพลั้งปากถาม
“หึ! เพราะฉันตาบอดไง ฉันไม่โทษเขาที่ทิ้งฉันไปหรอกนะ เพราะฉันเข้าใจ เขากำลังมีอนาคตที่ดี แต่เดี๋ยวเขาก็ต้องกลับมา” พอเวทมนต์ได้พูดแบบนั้นรอยยิ้มที่บลูเบลล์ไม่เคยเห็นก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเวทมนต์
“เขารักฉัน และฉันก็รักเขามาก ตอนนี้เขาก็แค่คิดผิด พอเขาคิดได้และกลับมา เธอก็ต้องไป รู้ใช่มั้ย?” บลูเบลล์เงียบไม่ตอบ เพราะถึงแม้มันจะเป็นเรื่องเล่าสั้น ๆ แต่ใจความของมันชัดเจน
“ฉันถามว่าเข้าใจมั้ย?” เวทมนต์ถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง และมันไม่ใช่คำถามแต่มันคือการให้เธอจำใจยอมรับ
“ค่ะ เมื่อเขากลับมา หนูจะไปแน่นอน”
“ดีแล้ว รู้จุดยืนของเธอซะบลูเบลล์ ไม่ต้องเอาใจตัวเองลงมาผูกพันธ์กับเซ็กส์ที่ฉันทำมันกับเธอ ฉันแค่อยาก และเธอก็แค่สนอง มันแค่นั้นสำหรับฉัน” ไม่รู้ว่ามีใครเคยบอกมั้ย แต่เวทมนต์เป็นคนเก่ง เก่งในเรื่องทำร้ายเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยคำพูด
“หนูเข้าใจค่ะ หนูจะไม่คิดไปไกลถึงขนาดนั้น คุณเวทมนต์ไม่ตะ.. ต้องเป็นห่วง” น้ำเสียงที่ติดขัดแบบนั้นไม่ทำให้เวทมนต์สงสารหรือเห็นใจ กลับกันเขาเฉยเมยด้วยซ้ำ
“เธออาจจะมองว่าฉันใจร้ายกับเธอ แต่สำหรับฉันถ้าได้รักฉันจะมั่นคง ต่อให้เธอจะรักฉันแค่ไหน สุดท้ายเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงที่นอนให้ฉันเอาฟรี ๆ เท่านั้น เพราะฉันไม่มีวันเอาเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าที่ไม่ได้รักมาทำเมียหรอก” น้ำตาของร่างบางไหลลงมาเป็นสาย การที่เขาด่าหรือดูถูกเธอมันไม่เจ็บเท่าที่เขาพูดว่าจะไม่มีวันรัก
“หนูขอตัวก่อนนะคะ” บลูเบลล์เดินออกไปโดยไม่ได้รอให้เวทมนต์อนุญาต เพราะเธอทนต่อไปไม่ไหวแล้ว วันนี้เธอรับคำพูดแย่ ๆ จากเขามามากพอแล้ว
“ฉันยอมเป็นคนเห็นแก่ตัวที่ทำร้ายเธอ ดีกว่าให้เธอเอาตัวเองมาจมปลักกับฉัน เพราะฉันรู้ตัวเองดีว่าไม่มีวันเลิกรักเขาได้” ชายหนุ่มพูดเบา ๆ หลังจากที่ได้ยินเสียงเธอเดินออกไป
เมื่อสี่เดือนก่อน
เวทมนต์เป็นชายหนุ่มที่ผู้หญิงหลายคนต่างหมายปอง แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่าเขามีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว น้ำฟ้าคือผู้หญิงคนนั้น เป็นคนที่เวทมนต์เลือกจะหยุดทุกอย่างที่ไม่ดี ปรับปรุงตัวเองตั้งแต่วันแรกที่ได้คบกับเธอ
สองคนรักกันมาดีตลอด ในความคิดของเวทมนต์เป็นแบบนั้นมาเสมอ จนกระทั่งเขามั่นใจว่าน้ำฟ้าคือคนที่เขาอยากจะตื่นมาเจอทุกเช้า และนอนหลับไปด้วยกัน การตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตของเวทมนต์จึงเริ่มเกิดขึ้น เขาเตรียมแผนเซอร์ไพรส์แฟนสาวแต่งงานโดยมีเพื่อนหลายคนคอยช่วย
“มนต์คะ ทำไมเดี๋ยวนี้งานยุ่งตลอดเลย?” น้ำฟ้าเริ่มเห็นถึงความผิดสังเกต ทุกเย็นโดยปกติเวทมนต์จะต้องมารับเธอไปกินข้าวแล้วค่อยไปส่งทีี่บ้าน แต่ช่วงอาทิตย์หลังมานี้เขาเพียงแค่ไปส่ง แต่ไม่ได้แวะกินข้าวด้วยกันเหมือนที่เคยทำ
“ช่วงนี้งานมนต์ยุ่ง ขอโทษนะครับ” ชายหนุ่มตอบคนรักและจูบเบา ๆ ที่หน้าผากของเธอเพื่อขอโทษในใจที่ต้องโกหก แต่เขาทำแบบนี้ก็เพื่อให้เธอมีความสุขมากที่สุดตอนเขาขอเธอแต่งงาน
“ฟ้าไม่โกรธ แต่ว่ามนต์ต้องดูแลตัวเองด้วยรู้มั้ยคะ ถ้าไม่ว่างมนต์ไม่ต้องมารับฟ้าก็ได้นะ ฟ้ากลับบ้านเองได้ ไว้มนต์เคลียร์งานเสร็จให้เรียบร้อยก่อน” เพราะน้ำฟ้าแสนดีและออดอ้อนเขาบ่อย ๆ เวทมนต์จึงไปจากเธอไม่ได้ ความน่ารักของเธอที่เขาเห็น เขาไม่รู้เลยว่ามีอะไรที่ซ่อนอยู่
“ไม่เอาครับ มนต์อยากมารับฟ้าทุกวัน ไม่เจอฟ้ามนต์ตายแน่ ๆ”
“จริงเหรอ” น้ำฟ้าถามด้วยน้ำเสียงที่ดูจะดีใจ
“ใช่ครับ อีกวันสองวัน ทุกอย่างก็น่าจะเรียบร้อยแล้ว ฟ้ารอมนต์หน่อยนะ”
“ได้สิคะ ฟ้ารอมนต์ได้” เธอตอบและยิ้มบาง ๆ
แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากส่งแฟนสาวเสร็จในคืนนั้น ขากลับมันจะไม่ได้ราบลื่นอย่างเช่นทุกวัน เวทมนต์ขับรถด้วยความเร็วเหมือนที่ชอบทำ แต่จู่ ๆ เบรกของเขากลับขัดข้อง เมื่อต้องเข้าโค้งชายหนุ่มพยายามจะกดเบรกหลายต่อหลายครั้งแต่มันไม่อยู่ ในที่สุดเขาก็เสียการควบคุม
รถสปอร์ตคันหรูคู่ใจพลิกคว่ำลงข้างทาง เศษกระจกที่แตกบาดเข้าไปที่ตาของคนขับโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เพราะหลังจากอุบัติเหตุ ร่างของเวทมนต์ก็ไร้ความรู้สึกไปเลย ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นได้ยินเสียงจึงโทรตามรถพยาบาล
เรื่องดีคือเวทมนต์ปลอดภัยและฟื้นสู่อ้อมกอดของครอบครัว แต่เรื่องร้ายคือหมอแจ้งว่าเขาจะไม่สามารถมองเห็นได้เพราะกระจกตาได้รับความเสียหายจากการบาดเจ็บ โลกทั้งใบของชายหนุ่มสลายลงไปเมื่อได้ยินแบบนั้น ซ้ำเขายังต้องเจ็บหนักเพราะแฟนสาวที่อยู่ในห้องเดินเข้ามาและบอกเลิกเขาด้วยเหตุผลที่เขาทำใจได้ยาก
“ขอโทษนะมนต์ แต่ฟ้าอยู่กับมนต์ไม่ได้จริง ๆ ถ้ามนต์มองไม่เห็นแล้วมนต์จะเอาปัญญาที่ไหนมาดูแลฟ้า เราเลิกกันเถอะนะ”
“แต่ฟ้าครับ มนต์จะรีบรักษา ฟ้าอย่าทิ้งมนต์ไปเลยนะ” เวทมนต์พยายามจะคว้าเอามือของเธอมาจับ แต่ถูกเธอสะบัดออกไปอย่างไม่ไยดี
“ขอโทษจริง ๆ ฟ้ามีอนาคตดี ๆ ที่รออยู่ ให้รอมนต์รักษากว่าจะหาย ฟ้าไม่สามารถมาลำบากดูแลมนต์ได้ อย่าฝืนเลย” และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้พูดได้คุยกับน้ำฟ้า
