คืนเคาท์ดาวน์ ตอนที่ 3

“ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณต้องออกมา”

“ทำไมล่ะคะ”

“ก็ผมนอนอยู่เต้นท์โน้นน่ะครับ”

หนุ่มหล่อบุ้ยใบ้ไปที่ด้านหลังของเธอ และเหมี่ยวก็ส่งรอยยิ้มเจื่อนๆ กลับไปให้เขา เพราะเต้นท์ของเธออยู่ด้านขวา ส่วนเต้นท์ของเขาน่ะอยู่ด้านซ้าย มีเต้นท์พี่จักรกับน้องดาอยู่ตรงกลาง แน่นอนว่า สิ่งใดที่เธอได้ยิน เขาก็ได้ยินเช่นกัน

“เออ... พูดต่อไม่ถูกเลยค่ะ กะว่าจะมานอนกินบรรยากาศและก็หลับเต็มตื่นในคืนเคาท์ดาวน์สักหน่อย ดันมาเจอ...”

“แต่ก็ดีนะครับ”

“ดียังไงคะ”

“ก็ทำให้เราได้มานั่งกันอยู่ตรงนี้ยังไงครับ เครื่องดื่มครับ”

เหมี่ยวมองขวดเครื่องดื่มที่เขายื่นให้ ชั่งใจครู่หนึ่งก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบเพราะไม่อยากให้เขาต้องชูขวดนาน เพราะเจ้าขวดสีตุ่นขนาดพอดีที่อยู่ในมือของเธอนั้น ด้านในบรรจุน้ำผลไม้เจือแอลกอฮอล์เล็กน้อย ดื่มขวดสองขวดคงไม่ทำให้เมาได้ และจากสถิติของเธอเคยดื่มได้ถึง 1 โหล มันทำให้คุยสนุกออกรสชาติได้ไม่น่าเชื่อ

แต่นั่นมันดื่มกับเพื่อนนะ กับคนแปลกหน้าเธอไม่เคย และหากดื่มแล้วจะคุยออกรสชาติกับเขาคนนี้ มันก็... น่าลองอยู่

“มีแอลกอฮอล์นิดหน่อยดื่มได้มั้ยครับ”

“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา แก้หนาวได้ดี”

“ใช่ครับ ทั้งแก้หนาว ได้ความเพลิดเพลิน และทำให้คุยกับเพื่อนได้สนุกด้วยสิ”

“ค่ะ ทำให้คุยกับเพื่อนได้สนุก”

เหมี่ยวไม่ลังเลที่จะจ่อปากขวดสีตุ่นเข้ากับริมฝีปากของเธอ ก่อนจะกระดกดื่ม รสชาติหวานซ่อนเปรี้ยว มีกลิ่นแอลกอฮอล์เจือนิดๆ ทำให้เธอเปรี้ยวปากจนต้องกระดกลิ้นรับรู้รสและยอมให้ความหวานนั้นผ่านเข้าสู่ลำคอไป

ความร้อนซาบซ่านที่กระจายวาบจากช่องปากลงไปตามลำคอ ก่อนจะพุ่งวาบกระจายไปทั่วทั้งร่างทำให้เหมี่ยวถึงกับสะบัดร้อนสะบัดหนาว

“ซาบซ่าชะมัดยาด ปรื้อ...”

“อุ่นขึ้นหรือยังครับ”

“ค่ะ อุ่นขึ้นมากเลยค่ะ รู้อย่างนี้ออกมาดื่มนานแล้ว ไม่ทน... เอ่อ... คุยกันตั้งนานยังไม่รู้จักชื่อคุณเลยค่ะ ฉันเหมี่ยว”

“ผมแฟรงค์ครับ คนหัวใจช้ำๆ จนต้องหอบสังขารมาเคาท์ดาวน์ถึงที่นี่ เพียงลำพัง”

“เพียงลำพังเหรอคะ หัวใจช้ำๆ นี่อกหักมาหรือเปล่า” ถามพลางกระดกครั้งสุดท้ายก็หมดขวด และเขาก็รู้ใจ ส่งขวดต่อไปมาให้

“จะเรียกแบบนั้นก็ได้ครับ หรือเรียกว่าผมยอมเจ็บก็ได้”

“เหมี่ยวไม่เข้าใจคะ”

“จะยังไงดีล่ะ เอาเป็นว่าเธอมีคนใหม่ แต่ไม่จริงจังอะไร แต่เป็นผมเองที่ทนไม่ได้ ก็เลยต้องทางใครทางมัน”

“ฮะ! หล่ออย่างคุณแฟรงค์ แฟนนอกใจเหรอคะ ไม่มั้ง เหมี่ยวไม่เชื่อหรอก เป็นเหมี่ยวจะล็อกให้แน่นใส่กุญแจขังเลยค่ะ จะไม่ยอมให้คุณแฟรงค์ไปเจอใครหรอก”

“ถ้าซินดี้เป็นเหมือนคุณเหมี่ยวก็ดีสิครับ แต่เธอไม่ สาวสวยเลือกได้อย่างซินดี้ ไม่เคยมีใครเป็นเจ้าของเธอครับ”

“เรียกว่าไม่มั่วแต่ทั่วถึงน่ะเหรอคะ เอ่อ... ขอโทษค่ะ เหมี่ยวก็ปากปีจออย่างนี้แหละค่ะ นี่ก็อกหักมาเหมือนกัน”

“มิน่า ผมเห็นคุณเหมี่ยวมาคนเดียว”

“แอบดูเหมี่ยวเหรอคะ”

“ไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกครับ หนุ่มๆ ที่นี่ก็แอบดูคุณเหมี่ยวกันทั้งนั้น”

“แหม... ฟังดูปลื้มจังค่ะ แต่หัวใจเหมี่ยวยังบอบช้ำ ไม่คิดให้ใครเข้ามาง่ายๆ หรอก”

แฟรงค์มองดูสาวไทยร่างเล็กที่สวมเสื้อผ้ากันหนาวมิดชิด รวมทั้งใส่หมวกคลุมผม ใส่ที่ครอบหู แม้จะไม่เห็นทรวดทรงองค์เอวเด่นชัด แต่ใบหน้าจิ้มลิ้มก็ทำให้เขาเคลิ้มได้เหมือนกัน

เพราะผู้หญิงคนเดียวเดินทางขึ้นดอยมากางเต้นท์เคาท์ดาวน์ น่าเร้าใจอย่างแรง และตอนนี้เธอก็กระดกเอากระดกเอาเครื่องดื่มของเขา แผลบเดียวหมดไป 2 ขวด และขวดที่ 3 กำลังจะตามมา

“อย่างนี้คุณเหมี่ยวก็โสดสิครับ”

“โสดเต็มที่เลยค่ะ สามเดือนแล้วที่ไร้คนกอดนอน นี่ก็นัดกัน จองล่วงหน้า หวังจะมาเคาท์ดาวน์ แต่กลายเป็นเหมี่ยวมาคนเดียว เสียดายตังค์น่ะค่ะ และเหมี่ยวก็อยากพิสูจน์ว่าเหมี่ยวอยู่ได้ แค่ผู้ชายห่วยๆ คนเดียว เหมี่ยวตัดได้แน่”

สาวโสดหมาดๆ ที่เริ่มจะคุยมากขึ้น กระดกเครื่องดื่มบ่อยขึ้น บ่งบอกสถานภาพว่าไม่เหมาะกับการขับขี่แน่ หากแต่ถ้าเปลี่ยนมาเป็นควบขี่เขาตอนนี้คงจะดีไม่น้อย เพราะกึ่มๆ แบบนี้ ควบขี่มันส์นักแล แต่เธออยากขี่เขาหรือเปล่าล่ะ

แฟรงค์ยิ้มให้กับความสัปดนของตัวเองที่คิดไกลกับสาวสวยที่เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดี

“คุณแฟรงค์คิดดูสิคะ กว่าเหมี่ยวจะจองที่นี่ได้ แล้วยังไง โสดเฉยเลย”

“ไม่ต่างกันครับ ผมก็จองล่วงหน้าหลายเดือน กะจะพาซินดี้มานอนมองฟ้า นอนนับดาวกัน สุดท้ายก็ผมมาคนเดียวครับ แต่ดีใจนะที่ได้เจอคุณเหมี่ยว เจอเพื่อนร่วมชะตากรรม”

“ไม่ๆ ค่ะ เหมี่ยวไม่เหมือนคุณแฟรงค์นะคะ เหมี่ยวไม่ได้จะมานอนมองฟ้า แต่เหมี่ยวจะมานอนเคาท์ดาวน์”