บท
ตั้งค่า

คืนเคาท์ดาวน์ ตอนที่ 2

“เคาท์ดาวน์นะคะผัวขา... อูย... ซี้ด... เมียอยากเคาท์ดาวน์ ซี้ด...”

“ได้จ้ะเมียจ๋า เคาท์ดาวน์ เดาท์ดาว! นี่แน่ะ! นี่แน่ะ!”

พับ! พับ! พับ!

เหมี่ยวถึงกับหูผึ่งเมื่อคนทั้งคู่คุยกันถึงเรื่องเคาท์ดาวน์ มือควานหาโทรศัพท์มือถือโดยอัตโนมัติ เพื่อดูว่านี่มันกี่ทุ่มกี่ยามกันแล้ว เพราะเธอเข้าเต้นท์มาตั้งแต่มื้ออาหารเย็นที่รีสอร์ทจัดให้สิ้นสุด ในขณะที่นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ แยกย้ายกันไปเที่ยวตามส่วนต่างๆ

บ้างก็เข้าไปในเมืองเพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันสิ้นปี บ้างก็สนุกอยู่งานเลี้ยงที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้ และก็มีบ้างที่เดินย้อนกลับมาที่เต้นท์เช่นเดียวกันกับเธอ ซึ่งนั้นคือส่วนน้อย

คนเพิ่งเลิกกับแฟน และต้องการเวลารักษาแผลใจอย่างเธอ คิดแค่ว่าต้องกอดตัวเองให้ผ่านคืนนี้ไปให้ได้ แค่ผ่านคืนนี้ไป นั่นคือ เริ่มปีใหม่ ชีวิตใหม่ ที่เธอสามารถก้าวผ่านความรักห่วยๆ มาได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องมาเผชิญกับเรื่องน่าหวาดเสียวอย่างนี้

“สามทุ่มครึ่ง โอย... สิบ้าตาย”

เหมี่ยมพึมพำ มือกุมขมับ เพราะกว่าจะถึงเที่ยงคืน นั่นคือเธอต้องทนนอนฟังเสียงสั่นอารมณ์ไปอีกนาน และเสียงนั้นก็ช่างสร้างความอบอุ่นไปทั้งตัวได้อย่างเหลือเชื่อ

‘ท่าที่พี่จักรทำกับน้องดา จะเหมือนท่าที่อาร์ตทำกับเราหรือเปล่า’

เหมี่ยวกลืนน้ำลายลงคอทั้งที่ไม่ได้หิวน้ำสักนิด เธอกำลังหิว... และก็คิดถึง เพราะในเต้นท์ใช่ว่าเธอไม่เคย แต่ไม่ใช่ที่นี่เท่านั้น เป็นอีกพื้นที่หนึ่งทางภาคอีสานและก็เป็นครั้งแรกที่เธอมอบความสาวให้อาร์ต ความรู้สึกน่ะเหรอ สนุกสุดๆ ชนิดที่ว่านับวันรอให้ถึงวันกางเต้นท์อีกครั้ง

‘อาร์ต... อย่าซนสิ ไม่เอานะ เหมี่ยวไม่เอาอย่างนี้’

‘ไม่เอาอย่างนี้แล้วจะเอาอย่างไหนครับ ไหนเหมี่ยวบอกอาร์ตสิ’

‘อาร์ต... ไม่นะ เหมี่ยวจะออกไปข้างนอก’

‘ข้างนอกหนาวจะตาย ในนี้น่ะอุ่น แล้วอาร์ตกอดเหมี่ยวอยู่แบบนี้ก็อุ่นจะตายไป หรือเหมี่ยวไม่อยากให้อาร์ตกอด’

‘ไม่... ไม่ใช่นะอาร์ต เหมี่ยว... เหมี่ยวแค่กลัว เหมี่ยว... เอ่อ... อาร์ต!’

นั่นคือประโยคสุดท้ายที่เธอพูดเป็นคำพูดเพราะหลังจากนั้นมีแต่เสียงครางล้วนๆ แต่เมื่ออาร์ตรวมร่างกับเธอ ครั้งแรกเธอเจ็บมากจริงๆ แต่ครั้งต่อๆ มาเสียงครางของเธอ เสียงกระเส่าของอาร์ต รวมทั้งเสียงเนื้อกระทบเนื้อนั้นก็ไม่ต่างไปจากคู่ของพี่จักรกับน้องดาเต้นท์ข้างๆ นี่หรอก

เธอรู้ดีว่าการร่วมรักกันไปเรื่อยๆ จนกว่าเวลาเคาท์ดาวน์จะมาถึงนั้น มันส์ และ ฟิน มากมายขนาดไหน เพราะมันคือการลุ้น ลุ้นว่าอาร์ตจะพาเธอไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า และค่ำคืนนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เธอหวังว่ามันจะมันส์สุดๆ ทว่าเธอกลับต้องมาคนเดียว และเรื่องอย่างว่าก็ 3 เดือนแล้วนะที่ขาดหาย ตั้งแต่เลิกรากันไป

“ซี้ด... พี่จักรขา... ซี้ด... โอว... น้องดาไม่ไหวแล้ว ไม่ไหว ซี้ด... โอว... โอว... พี่จักร! กรี๊ดดดดด...”

สิ้นสุดเสียงกรีดร้องดังแว่วของน้องดา เหมี่ยวก็ลุกพรวดและพาร่างเล็กๆ ของตัวเองออกไปนอกเต้นท์ในทันที

เหมี่ยวพ่นลมออกจากปากเพื่อคลายความอึดอัด เพราะเมื่อออกมาเจอโลกภายนอก ความรู้สึกอัดแน่นในกายก็คลายลงทันที เหมียวเหลียวมองเต้นท์ต้นเหตุอย่างเสียไม่ได้และก็พบว่าไม่ใช่แค่เสียงหรอกที่เล็ดลอดออกมา ทว่าภาพเคลื่อนไหวจากเงาสะท้อนของแสงไฟเป็นจังหวะคุ้นเคยก็ทำให้คนมองจินตนาการตามได้โดยง่าย

“ทำไมต้องมาทำกันเย้ยคนอื่นด้วยนะ” บ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะสัมผัสได้ถึงความเย็นของอากาศด้านนอก

เหมี่ยวกอดกระชับตัวเอง ลูบไล้ฝ่ามือที่ต้นแขน เบนหน้าจากเต้นท์หลังติดกับเธอหันมองไปยังกองไฟที่ยังลุกโชติช่วงอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของบริเวณที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้กางเต้นท์ ที่ตรงนั้นมีผู้ชายนั่งอยู่คนหนึ่ง

เธอมองไม่ชัดหรอกว่าเขาเป็นคนหนุ่มหรือคนแก่ เพราะว่าอุณหภูมิต่ำว่า 10 องศาเซลเซียล ทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนต่างแต่งกายจัดเต็มความอบอุ่นกันเต็มที่ เธอเองก็เช่นกัน

“เคาท์ดาวน์รอบกองไฟสิเรา”

เหมี่ยวเดินตรงไปที่จุดนั้น เพราะหากกลับเข้าไปนอนในเต้นท์ ก็ไม่พ้นต้องฟังเสียงพี่จักรกับน้องดา เคาท์ดาวน์ เขาเด้า กันจนกว่าจะล่วงปีใหม่แน่

และเมื่อเดินไปถึง เหมี่ยวก็พบว่ามันก็ไม่เลวร้ายนักหรอก เพราะคนที่นั่งอยู่ก่อนนั้นเป็นคนหนุ่ม หนุ่มหล่อหน้าออกโซนยุโรป รูปร่างสูงยาวและต้องใหญ่แน่ๆ อดไม่ได้ที่จะคิดสัปดน ตามประสาคนโสด ที่ไม่ได้อยากโสดสักนิด

“นั่งด้วยคนนะคะ”

เหมี่ยวเอ่ยขออนุญาตเป็นภาษาไทย แม้ว่าเขาคนนั้นจะหน้าออกโซนยุโรปก็ตาม แต่เธอก็อยากทักทายเป็นภาษาไทย เพราะไม่ว่าเขาจะเป็นคนประเทศไหนก็ตาม เขามาเมืองไทยก็ควรจะต้องคุ้นเคยไว้

“เชิญครับ”

แน่นอนเขาเป็นลูกครึ่งเพราะพูดไทยชัดแจ๋ว เหมี่ยวยิ้มนิดๆ ก่อนจะทรุดร่างลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวจิ๋วที่ทางรีสอร์ทจัดวางไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งผิงไฟในยามค่ำคืน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel