คืนเคาท์ดาวน์ ตอนที่ 4

แฟรงค์มองตามสายตาของเหมี่ยวที่มองตรงไปยังเต้นท์เจ้าปัญหา จากเงาสะท้อนของแสงไฟกิจกรรมเข้าจังหวะก็ยังคงมีไปอย่างต่อเนื่อง

“คืนนี้คุณเหมี่ยวมีผมเคาท์ดาวน์เป็นเพื่อน ดื่มครับ ให้กับคนอกหักสองคนมาเจอกันในคืนเคาท์ดาวน์ ไม่สิ... ฉลองกับความโสดต้อนรับปีใหม่กันดีกว่า ปีใหม่เราจะมีความรักที่สดใสซาบซ่า”

“ค่ะ ฉลองกับความโสด โสดข้ามปี”

“เคาท์ดาวน์กับผมนะครับ”

“ด้วยความยินดีค่ะ”

สายตาของหนุ่มโสดกับสาวโสดหมาดๆ สบกันอย่างมีความหมาย ก่อนที่ขวดสีตุ่นจะกระทบกันดังกริ๊ง จากนั้นเสียงหัวเราะของชายหญิงก็ดังกลบเสียงครวญครางจากกระโจมต้นเรื่องไปโดยปริยาย

“หายหนาวบ้างหรือยังครับคุณเหมี่ยว”

แฟรงค์เอ่ยถามคนที่นอนดูดาวอยู่ด้านข้าง หลังจากนั่งคุยกันอยู่พัก ยิ่งดึก ความหนาวเย็นก็ยิ่งมาก เขาจึงชวนเธอไปหอบผ้าห่มมานอนดูดาวกันตรงนี้ เพราะนี่คือเป้าหมายหลักของเขา นั่นคือการพาคนรักมานอนดูดาวและนับดาวไปพร้อมๆ กัน

“นิดหน่อยค่ะ เครื่องดื่มของคุณแฟรงค์ช่วยเหมี่ยวได้มากเลย แต่เหมี่ยวก็ยังสงสัยค่ะ ดูดาว นับดาว มันเพลินตรงไหนคะ สู้นอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันไม่ได้ สนุกกว่าเยอะ”

แม้น้ำเสียงจะดูยานคางไปบ้าง แต่สายตาที่เหมี่ยวหันมองเขาไม่ยานเลย เพราะความร้อนแรงที่แสดงออกส่งผลให้อวัยวะที่หดตัวเพราะความหนาวของเขา ตื่นตัวขึ้นมาได้

“ดูดาว นับดาว ทำให้เราได้ใช้เวลาชิวๆ อยู่กับคนที่เรารัก ได้พูดคุยหยอกล้อ คนหนึ่งตั้งคำถาม อีกคนให้คำตอบ ส่วนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน... ผมคงต้องลอง”

ไม่รู้ว่าเพราะอากาศหนาวจัด หรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์น้อยนิดในกระแสเลือด หรือเพราะความอ้างว้างโหยหาในอ้อมกอดของใครสักคน ทำให้เหมี่ยวไม่รอช้าที่จะซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกันกับเขา ผู้ชายแปลกหน้าที่เพียงเจอกันบนยอดดอย

ในความหนาวเย็นแห่งหัวใจที่มีมากมายกว่าอากาศภายนอก เป็นแรงผลักดันให้เหมี่ยวซุกตัวอยู่กับอ้อมอกของเขา และเมื่อเจ้าของอกอุ่นกอดกระชับ หยาดน้ำตาที่กักเก็บไว้ก็พรั่งพรู

“คุณเหมี่ยวครับ อ้อมกอดของผม พร้อมจะให้ไออุ่นกับคุณเหมี่ยว กอดผมนะครับ กอดแน่นๆ ผมเองก็จะกอดคุณเหมี่ยวให้แน่นเหมือนกัน ผมจะพาคุณเหมี่ยวก้าวข้ามปีเก่าไปสู่ปีใหม่ด้วยความสุข”

ใบหน้าที่ซบอยู่กับอกแหงนมองเขา ในดวงตากลมโตมีหยาดน้ำคลออยู่เต็ม แต่เธอก็ยิ้ม ยิ้มทั้งที่น้ำตายังไหล ก่อนที่เธอจะพูดประโยคที่เขาอยากได้ยินที่สุด

“คุณแฟรงค์คะ เคาท์ดาวน์ให้เหมี่ยวนะคะ พาเหมี่ยวข้ามปี... อืม...”

ริมฝีปากร้อนๆ ของเขาประกบกับปากกระจับที่เอ่ยคำพูดออกมาในทันที เพราะเขารู้ความหมายนั้นดีอยู่แล้ว

ปากแตะปาก ลิ้นแตะลิ้น

แฟรงค์บดจูบเร่าร้อนสู่ริมฝีปากบอบบางเป็นกระจับน้อยๆ ซึ่งเหมี่ยวก็ตอบโต้โดยการกระดกลิ้นเข้าไปชอนลึก ไล้จากปลายลิ้นสู่โคน จากโคนสู่ปลายลิ้น ยักย้ายออกมากระดกรัวเร็วที่ปลายคล้ายจะต่อสู้ จนเหมี่ยวเริ่มจะหายใจหอบถี่ แฟรงค์จึงเคลื่อนฝ่ามือลงไปตามเป้าหมาย

ฝ่ามือของเขากอบกุมเหนือทรวงอก ออกแรงบีบเบาๆ ก่อนจะพึมพำด้วยความพอใจ เพราะสัมผัสใต้ฝ่ามือนั้น ซ่อนรูปชัดๆ

แฟรงค์ครางในลำคอ อยากจะลงไปสัมผัส ดอมดม และดูดดุน ความหยุ่นนุ่มใต้ฝ่ามือเร็วไว แต่อากาศที่หนาวสะท้านมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้เขาต้องขยับผ้าห่มนวมขึ้นมา พร้อมกับพาตัวเองเคลื่อนลงด้านล่าง ทั้งที่ยังเสียดายปลายลิ้นที่ดูดดุนกันอยู่

“อา... แฟรงค์...”

เหมี่ยวครางเสียงหวานเมื่อศีรษะของแฟรงค์เคลื่อนลงด้านล่าง โดยมีผ้าห่มนวมผืนหนาคลุมไว้จนมิด

“ซี้ด... แฟรงค์... อืม... แฟรงค์...”

ดวงตากลมโตหลับพริ้มไม่ได้ยินเสียงใดๆ รอบด้านอีกแล้ว ที่เธอได้ยินในขณะนี้มีเพียงเสียงงึมงำและเสียงลมหายใจติดขัดของตัวเอง

“ซี้ด... แฟรงค์...”

สยิวจนร่างกายสั่น สะบัดร้อนสะบัดหนาว จนห่อไหล่สะท้านเพราะจมูกโด่งๆ ของแฟรงค์ซุกไซ้อยู่เหนือเนินอก แม้จะมีเสื้อกันหนาวตัวโคร่งปิดทับ แต่สัมผัสเสียวที่ว่องไวยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ในโลกก็สื่อผ่านออกมาให้เหมี่ยวรับรู้ได้

และเมื่อฝ่ามือของแฟรงค์รอดเข้ามาใต้เสื้อ ก่อนจะเคลื่อนมากอบกุมความอวบอิ่ม เหมี่ยวก็อยากจะกรีดร้องออกมานัก

‘กรี๊ดดดดด... เสียว! เหมี่ยวเสียว!’

สาบานได้ว่าหากเธอมองไม่เห็นดาวบนฟากฟ้า เธอคงกรีดร้องออกมาอย่างนั้นแน่ เพราะแฟรงค์กระตุ้นเธอทุกทาง

เหมี่ยวหลุบสายตามองศรีษะตะคุ่มตะคุ่มของแฟรงค์อยู่ในผ้าห่มนวม แต่เธอกลับรับรู้ในสิ่งที่เขาทำทั้งหมด

เขากำลังเลิกเสื้อกันหนาวของเธอขึ้น จนเสื้อขึ้นมากองอยู่เหนือเนินอก ซุกหน้าลงไปที่ซอกอก จูบ หอม คลุกเคล้าใบหน้าฝังลงไป เขาหอม หอม และก็หอม ที่ร่องอกของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมกับใช้เคราสากลากไล้ไปทั่วพื้นที่