บท
ตั้งค่า

บทที่ 8 ปกป้องปุยนุ่น

“ฉันชอบใบนี้ค่ะ” น้ำเสียงของหญิงสาวเอ่ยกับพนักงาน คล้ายกับไม่เห็นว่าเธอยืนมองอยู่ก่อนแล้ว

“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่ามีแบบนี้อีกใบไหมคะ” ปุยนุ่นหันไปพูดกับพนักงานด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนที่หญิงปริศนาจะเชิดหน้าขึ้น แล้วฟังสิ่งที่พนักงานอธิบายกับดาราสาว

“ใบนี้เหลือแค่ใบเดียวค่ะ”

“ขอโทษนะ ถ้าเหลือใบเดียวมันก็คงต้องเป็นของฉันแล้วล่ะ เธอมัวแต่ชักช้า ช่วยไม่ได้เอง” หญิงปริศนาเอ่ยกับปุยนุ่นอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า ก่อนที่เข้มของเทวทิณณ์จะเอ่ยขึ้น

“วางกระเป๋าใบนั้นซะ” ทุกคนพร้อมใจ หันมายังเทวทิณณ์เป็นจุดเดียว ชายหนุ่มเดินเข้าไปแล้วจับจ้องมองตรงไปยังหญิงปริศนา เขารู้ว่าเธอตั้งใจเข้ามาป่วนเวลาความสุขของเขาและปุยนุ่น

“ทำไมเฟิร์นต้องวางกระเป๋าใบนี้ด้วยคะ ในเมื่อเฟิร์นตัดสินใจก่อน”

“ทิณณ์รู้จักผู้หญิงคนนี้ด้วยเหรอคะ” ดาราสาวหันมาถามชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะนิ่งเงียบไม่ตอบคำถาม ทว่ายังคงต่อรองกับหญิงปริศนา

“พี่รู้ว่าเฟิร์นไม่ชอบกระเป๋าพวกนี้ ทำแบบนี้ทำไม” หญิงสาวปล่อยยิ้มแล้วยกมือกอดอก

“รู้ใจเฟิร์นดีจังเลยนะคะ แต่ทำไมถึงไม่รู้ว่าเฟิร์นพยายามติดต่อพี่ทิณณ์ทุกทาง ทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้เจอกัน แต่พี่ก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมพบหน้า ถ้าเฟิร์นไม่ทำแบบนี้เราจะได้คุยกันเหรอคะ” หญิงสาวพูดจบจึงหันไปยังดาราสาวที่ยืนอยู่ด้านข้างเทวทิณณ์ แล้วยกยิ้มมุมปากขึ้นมา

“เป็นถึงดารา แต่มาแย่งแฟนคนอื่นไม่อายบ้างเหรอ”

“หยุดพูดอะไรไร้สาระเดี๋ยวนี้” เทวทิณณ์ขึ้นเสียง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มลามปามไปถึงดาราสาว

“เฟิร์นพูดความจริงค่ะ ทำไมเหรอคะ กลัวว่ามันจะเสียชื่อเสียง หรือกลัวว่าถ้ามันรู้ความจริงแล้วมันจะทิ้งพี่ไป”

“ทิณณ์คะ นุ่นไม่เอากระเป๋าใบนี้แล้วก็ได้ค่ะ มีใบอื่นตั้งเยอะ อย่าเสียเวลากับผู้หญิงคนนี้เลยค่ะ” ปุยนุ่นเอื้อมมาจับแขนเขา แล้วดึงร่างชายหนุ่มออกจากจุดนั้น

“โถ...ทำเป็นแม่พระ แต่แท้จริงแล้ว หล่อนก็อยากได้ผู้ชายของฉันจนตัวสั่น ก่อนที่เธอจะเป็นข่าวกับพี่ทิณณ์ เธอรู้ไหมว่าฉันกับเขาไปกันถึงไหนต่อไหนแล้ว”

“ขอโทษนะ...” ปุยนุ่นหันกลับไปยังหญิงสาวปริศนา ยกยิ้มพลางก้าวเท้าเดินเข้าไปหาเธอช้า ๆ พลันยกมือขึ้นกอดอกแล้วทอดสายตามองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

“เธอคงสำคัญตัวผิดไปมาก ฉันกับทิณณ์เราเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว ก่อนที่ฉันจะเป็นดาราเสียอีก ฉันรู้พฤติกรรมของเขามาตลอด ไม่ต้องให้เธอบอก และไม่ใช่แค่เธอที่เคยนอนกับเขา คนอย่างทิณณ์เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า หล่อนก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ไปเหมือนคนอื่น ๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษที่จะเหนี่ยวรั้งหัวใจของทิณณ์ไว้ และฉันจะบอกอะไรเธออีกอย่างหนึ่ง เธอกับฉันเราคนละชั้นกัน ฉันไม่ได้เป็นเหมือนเธอที่จะวิ่งตามหาเขา แต่เป็นเขาต่างหากที่ยอมยืนอยู่ข้างฉัน”

“ก็แค่ฐานะเพื่อนไหมอะ” อีกฝ่ายยกยิ้มแล้วพูดสวน ทำให้ปุยนุ่นชะงักนิ่ง รู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดของหญิงปริศนาคนนั้น ก่อนที่เทวทิณณ์จะเดินเข้ามาดึงมือปุยนุ่น

“อย่าเสียเวลาเลย เราไปที่อื่นกันเถอะ”

“ฉันไม่เอากระเป๋าใบนี้แล้วก็ได้ค่ะ ฉันไม่ชอบมันแล้ว” ใบเฟิร์นตะโกนพูดกับพนักงานในร้าน ตั้งใจให้สองคนนั้นได้ยิน พลันตัดสินใจเดินออกจากร้านไปพร้อมความเจ็บปวด เมื่อรู้แน่ชัดแล้วว่าเทวทิณณ์จะไม่มีวันหวนกลับมา

“เรากลับไปเอากระเป๋าใบนั้นกันดีกว่าค่ะ” ปุยนุ่นสะกิดบอกเทวทิณณ์ก่อนเขาจะขมวดคิ้ว

“อะไรนะ”

“ฉันชอบกระเป๋าใบนั้นมาก เรากลับไปเอากระเป๋าใบนั้นกันดีกว่านะคะ” ไม่เพียงแค่ปุยนุ่นไม่ต่อว่าเขาแล้ว เธอยังไม่ถือสาเรื่องที่เกิดขึ้น กลับจูงมือชายหนุ่มเดินเอากระเป๋าใบนั้น แล้วหันมาขอบคุณเทวทิณณ์หลังจากเขาจ่ายเงินให้เสร็จสรรพ

“ทำไมมองเราแบบนั้นล่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยถาม

“ก็นุ่นซึ้งใจที่ทิณณ์ซื้อของแพง ๆ ให้ไงคะ” คำพูดของเธอทำให้เขายิ้มออกมา

“ขอโทษนะ ที่ทำให้เจอเรื่องแย่ ๆ และเธอก็ไม่ต้องขอบคุณหรอก อย่าลืมสิ ว่าเธอก็เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเราเหมือนกัน” คำพูดของเขาทำให้สีหน้าของปุยนุ่นเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เธอค่อนข้างผิดหวังกับคำพูดของเขาที่ให้คำจำกัดความแค่เพื่อนเท่านั้น ก่อนที่ชายหนุ่มจะเบี่ยงตัวเดินจากไป

“ทิณณ์คะ” หญิงสาวเอ่ยเรียกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

“วันนี้ขอไปคอนโดฯ ของเธอได้ไหม” ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ย่างเท้าเดินกลับมาหาหญิงสาว

“รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา” สายตาคมเข้มจับจ้องไปยังหญิงสาวแสนสวยตรงหน้า

“รู้ค่ะ แต่ฉันเต็มใจ” คำพูดของเธอทำให้เขารู้ความหมายทั้งหมด ก่อนเทวทิณณ์จะถอนหายใจ พลางเอื้อมไปมาจับหญิงสาว

“ปุยนุ่น เธอสวยงามกว่านั้น เกินกว่าจะเป็นของเล่นของใคร รวมถึงเราด้วย เป็นเพื่อนกันแบบนี้แหละดีแล้ว” ชายหนุ่มพูดจบจึงเบี่ยงตัวเดินออกจากร้านไป ปล่อยให้ปุยนุ่นรู้สึกผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างที่ใบเฟิร์นบอกเธอก็แค่เพื่อน ไม่มีสิทธิ์อะไรมากมายกว่านั้น ก่อนเสียงไลน์ของดาหรันจะทักขึ้นมา

“เป็นไงบ้าง ทิณณ์เขาดูแลเธอดีไหม” หญิงสาวอ่านจบ จึงพิมพ์บอกเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น แล้วเร่งเดินตามหลังชายหนุ่มไป ก่อนที่เสียงเตือนข้อความไลน์จากดาหรันจะตอบกลับมา ในขณะที่เทวทิณณ์ กำลังขับรถกลับไปยังมหาลัยเพื่อส่งปุยนุ่น

“เราส่งเท่านี้นะ”

“ขอบใจนะทิณณ์” หญิงสาวยิ้มอ่อนให้ ก่อนจะเดินลงรถแล้วทอดสายตามองรถคันหรูวิ่งผ่านหน้าไป ไม่นานนักเหล่านักศึกษาน้องใหม่หลายคนก็เข้ามาขอเธอถ่ายรูป พร้อมกับเพื่อนสนิทเดินเข้ามาหา

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น”

“ดาหรัน ฉันคงไม่มีวันชนะใจเขาได้แล้วล่ะ ไม่ว่าฉันจะพยายามเท่าไหร่ ทิณณ์เขาก็ให้ฉันได้แค่เพื่อนเท่านั้น ขนาดฉันหน้าด้านขอเขาไปคอนโดฯ อย่างที่เธอแนะนำ เขายังปฏิเสธฉันเลย ฉันเทียบกับผู้หญิงขาจรพวกนั้นไม่ได้ด้วยซ้ำ” ปุยนุ่นพูดกับเพื่อนรักของเธอด้วยน้ำเสียงท้อแท้ ดาหรันเอื้อมมาจับมือเพื่อนแนบแน่นแล้วปล่อยยิ้มออกมา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel