๑๗
“แล้วนี่น้องพระพายอยู่คนเดียวหรือคะ” ยังไม่ได้รับอนุญาตให้นั่งลงข้างกันแต่กวินตาก็กล้าพอที่จะเดินมานั่งเคียงข้างสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม
“ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นพี่นั่งเป็นเพื่อนแล้วกัน อยู่คนเดียวอันตรายค่ะ” ถึงปฏิเสธไปอีกฝ่ายก็คงไม่ยอมออกจากพื้นที่นี้อยู่ดีจึงจำใจต้องพยักหน้า
“ตามสบายเลยค่ะ” รู้สึกอึดอัดเมื่ออยู่กันสองคน ก่อนที่กวินตาจะแอบเอาของที่ซ่อนอยู่ข้างหลังออกมาด้วย
“พี่ชอบนั่งกินลมชมวิวจิบไวน์ให้ชุ่มชื่นเลยแอบเอามาด้วยค่ะ น้องพระพายสนใจไหม” ยื่นขวดไวน์ราคาแพงไปตรงหน้าพระพายที่กำลังส่ายหัวอย่างแข็งขัน
“ไม่เอาดีกว่าค่ะ พระพายแพ้” ฟังจบก็ทำสีหน้าไม่พอใจนิดหน่อยก่อนจะฉีกยิ้มอย่างคนเจ้าเล่ห์
“แต่ก่อนพี่ก็แพ้ค่ะ แต่พอดื่มไปเรื่อยๆ มันก็อร่อยดีนะ” เห็นจากครั้งนั้นที่หญิงสาวจิบเพียงแก้วเดียวก็น็อคทำให้กวินตาอยากจะลองมอมเหล้าเธออีกสักครั้ง
“แต่ว่า”
“ไม่มีแต่ค่ะ ผู้หญิงเราต้องเข้าสังคมเก่งสิคะยิ่งพี่ชายของพระพายเป็นหนุ่มนักสังคมแบบนี้พระพายต้องหัดดื่มรู้ไหม” โน้มน้าวโดยใช้สิงห์ก็เป็นความคิดที่ดีซึ่งแน่นอนว่าเด็กน้อยตรงหน้าติดกับเธออย่างจัง ดวงตากลมโตมองขวดไวน์ตาแป๋ว
“นิดเดียวได้ไหมคะ” กวินตายิ้มให้
“ได้ค่ะ นิดเดียว” ลุกขึ้นไปหยิบแก้วไวน์บนโต๊ะอาหารมาพร้อมรินให้ทั้งพระพายและตัวเอง
“ชนหน่อยค่ะ” ยกแก้วขึ้นไปตรงหน้าพระพายซึ่งร่างเล็กก็ชนแก้วกลับ มองดูน้ำสีเข้มอยู่ภายในแก้วก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความกลัว คำพูดของสิงห์ลอยเข้าหัวมาแต่เมื่อมองไปยังกวินตาที่ดูสมบูรณ์แบบจนรู้สึกอิจฉา เธอจะทำตัวเป็นเด็กกะโปโลไม่ได้ พระพายดื่มไวน์ไปหมดแก้วจนดาราสาวยิ้มพึงพอใจ
“ดีมากค่ะ อีกแก้วนะคะ” ไม่รู้เพราะคำพูดก่อนหน้าหรือเปล่าที่ทำให้พระพายเชื่อโดยง่ายยื่นแก้วให้กวินตาก่อนจะยกขึ้นดื่มอย่างรวดเร็ว เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนไวน์ในขวดไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว ตอนนี้ร่างของพระพายโงนเงนไปมาจนเหมือนจะตกน้ำอยู่ร่อมร่อ
“ไหวไหมคะน้องพระพาย” ถามด้วยความสมใจเมื่อมองใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์
“ไหวค่ะ” เสียงอ้อแอ้เหลือเกินก่อนร่างบางจะล้มลงไปพร้อมกับที่มีเสียงฝีเท้าหลายคู่ขึ้นมาบนดาดฟ้าของเรือ กวินตาหันไปมองก็ตกใจที่เห็นสิงห์ยืนทำหน้าโกรธมองเธอด้วยแววตาอาฆาตอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน
“จิ! พาผู้หญิงคนนี้ลงไปจากเรือฉัน จะจัดการอย่างไรก็ตามใจนาย” ไม่เคยโกรธผู้หญิงคนไหนเท่านี้มาก่อน เขาคงจะใจดีกับกวินตามากไปจึงทำอะไรล้ำเส้นขนาดนี้
“คุณสิงห์ไม่นะคะ” ได้ยินอย่างนั้นก็ร้องเสียงหลง จิรภาสเดินมาจับไหล่บางลุกขึ้นแล้วลากออกไปแม้จะรำคาญมากแค่ไหนก็ตาม
“ปล่อยฉันนะไอ้บ้า คุณสิงห์ฟังตาลก่อน คุณสิงห์” ลับร่างของนักแสดงคนดังสิงห์ก็รุดไปหาพระพายอุ้มร่างน้อยขึ้นมาแนบอก
“เด็กดื้อ บอกอะไรไม่เคยเชื่อเลย” ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์อดจะอมยิ้มไปตามๆ กันไม่ได้ เจ้านายของพวกเขาก็มีมุมอ่อนโยนเหมือนกัน สิงห์อุ้มพระพายขึ้นมาแนบอกหันมาสั่งคมิก
“ดูแลทุกอย่างให้ดี ฉันจะอยู่กับพระพาย” นั้นคือคำสั่งเสียงเฉียบขาดที่คนเป็นลูกน้องต้องทำตาม คมิกค้อมศีรษะรับคำหลีกทางให้นายเดินนำไปยังห้องพักของพระพายโดยได้แต่มองตาม หวังว่าคุณหนูคนเล็กของบ้านคงไม่เจอเจ้านายเขาทำร้ายด้วยคำพูดหรอกนะ
เดินเข้ามาในห้องสิงห์ก็จัดการวางร่างบางลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน เขาจัดท่าทางในการนอนให้เธอเพื่อความสบายของเธอเอง ร่างหนานั่งลงข้างเตียงพลางลูบผมนุ่มแผ่วเบาคาดโทษคนตัวเล็กเอาไว้ในใจเป็นที่เรียบร้อยแล้วทำให้เขาเป็นห่วงอยู่เรื่อย
“พี่สิงห์” ไม่คิดว่าจะได้สติเร็วขนาดนี้ พระพายแก้มแดงเพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปเยอะพอควรจากแรงยุของกวินตา
“อย่าทิ้งพระพายไปไหนนะคะ” มือบางคว้าอากาศก่อนจะค่อยๆ จับมือของพี่ชายที่อยู่ในใจเธอมาตลอดเอาไว้ สิงห์ไม่ได้พูดอะไรกับเธอสักคำยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยรู้สึกกังวลว่าเขาจะโกรธเธอหรือเปล่า ร่างบางยันกายลุกขึ้นนั่ง
“นั่งทำไม เดี๋ยวก็ปวดหัว” เพราะจับมือเธอไว้จึงไม่สามารถดันไหล่บางให้นอนลงได้ พระพายส่ายหัวไปมาดวงตากลมโตมีน้ำเกาะเต็มหน่วยตา
“พี่สิงห์โกรธพระพาย” ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจกับอาการดื้อรั้นของพระพาย
“ใช่พี่โกรธที่พระพายขัดคำสั่งของพี่ บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ดื่มอีก รู้ว่าตัวว่าแพ้ก็ยังจะดื่มพระพายไม่ห่วงตัวเองบ้างเลยหรือไง” เมื่อได้พูดก็ระบายความในใจออกมาทำให้คนเมาน้ำตาตกจนคนต่อว่าอดสงสารไม่ได้แต่ก็ใจแข็งไม่เอื้อมมือไปเช็ดให้
“เพราะพี่สิงห์ พี่สิงห์ทำให้พระพายเป็นแบบนี้” อารมณ์ของร่างบางไม่คงที่ดีเท่าไหร่นักเมื่อโดนต่อว่าก็รู้สึกน้อยใจจึงระบายความอึดอัดออกมาพลางดึงมือของตนเองออกจากการเกาะกุมมาทุบไหล่หนาด้วยแรงทั้งหมดที่มีแต่ก็ไม่สะเทือนเขาเลย
“พระพายรักพี่สิงห์” ในที่สุดคำที่เขาพยายามเลี่ยงก็ถูกเอ่ยออกมาจากริมฝีปากบางจนได้ สิงห์ไม่ทันตั้งตัวจึงนิ่งอึ้งไปทำอะไรไม่ถูก ดวงตากลมโตเงยขึ้นมามองหน้าเขาก็พบความว่างเปล่าที่สิงห์มอบให้ พระพายยิ่งรู้สึกเศร้า น้อยใจ เสียใจ ผิดหวัง ความรู้สึกทั้งหมดมันผสมกันไปหมดจนออกมาเป็นน้ำตาที่ไหลริน
“พระพายรักพี่สิงห์มาตลอด ทำไมพี่สิงห์ไม่หันมามองพระพายบ้างคะ ถ้าเห็นพระพายเป็นแค่น้องแล้วมาดูแลทำไม มาใส่ใจพระพายแบบนี้ทำไม มาทำดีกับพระพายทำไม ฮึก” ระบายความอัดอั้นออกไปจนหมด ร่างบางร้องไห้จนตัวโยนสิงห์จึงดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
“ปล่อยนะ ปล่อยพระพายคนใจร้าย” ดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดของเขาได้สักครู่ก่อนจะนิ่งไป สิงห์รับรู้ได้ถึงเสื้อที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา
“พี่ขอโทษ” ไม่อาจจะดึงเธอเข้ามาอยู่ในอันตรายได้ ชีวิตของเขาเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลาหากพาเธอมาอยู่ข้างกายในฐานะคนรักก็กลัวจะดูแลไม่ดีจนต้องเสียเธอไปจึงทำได้เพียงวางพระพายไว้ในฐานะของน้องสาวเท่านั้น
“พี่สิงห์ทำให้พระพายคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ”
“พระพายสำคัญสำหรับพี่” เขาตอบกลับกลัวน้องจะน้อยใจแต่ก็เหมือนไปจดประกายแสงสว่างในความรู้สึกของพระพาย ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองเขาและผละออกมา
“พี่สิงห์รักพระพายบ้างไหมคะ” รู้ว่าหัวใจของเขาไม่มีที่ว่างให้เธอเลยแต่บางครั้งก็ยังแอบหวังในส่วนลึกของจิตใจ ดวงตาลมโตจ้องเข้าไปในตาของสิงห์หากแต่ก็เหมือนมีหมอกหนามาปิดบังเอาไว้
“บอกพระพายได้ไหม” เสียงเว้าวอนยิ่งสร้างความรู้สึกกดดันให้เขา
“พี่รักพระพายไม่ได้” ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลยในความคิดของเขา ไม่อยากให้เธอมาเสี่ยงอันตรายเขาเคยพบกับการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปแล้วครั้งหนึ่งเขาจะไม่ลากเธอเข้ามาอยู่ในวังวนอันตรายนี้อย่างเด็ดขาด ไม่อยากจะสูญเสียใครไปอีกแล้ว
“พี่สิงห์หมายความว่ายังไง” ไม่เข้าใจกับคำตอบเขาเลยสักนิด เพียงบอกว่ารักกับไม่รักมันยากมากนักหรือทำไมจะต้องพูดอะไรให้มันกำกวมด้วย ตัดพ้อเขาในใจ ร่างบางยังตกอยู่ในอ้อมกอดหนาที่ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกถึงความอบอุ่นเลยสักนิด
“พระพายอย่ารักพี่เลยนะ” ร่างบางส่ายหน้าทันที น้ำตาไหลลงมาเรื่อยๆ จนตาแดงก่ำไปหมด
“คนใจร้าย ไม่รักพระพายแล้วมาห้ามพระพายไม่ให้รักพี่ได้อย่างไร ถ้ามันทำง่ายเหมือนเปิดปิดสวิตซ์พระพายก็ทำไปนานแล้ว พี่สิงห์รู้ไหมว่าพระพายต้องตัดใจจากพี่กี่ครั้ง พอจะตัดใจพี่ก็มาทำดีด้วย พี่ต้องการอะไรจากพระพายกันแน่ มาทำเหมือนหึงเหมือนหวงพระพายทำไม ทำทำไม” ระบายออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ การกระทำของเขามันช่างขัดแย้งกับคำพูดเสียเหลือเกิน ร่างเล็กทุบตีคนตัวหนาก่อนที่จะถูกเขากอดเอาไว้
“พระพายรักพี่สิงห์ รักมาตลอด” คำว่ารักถูกพร่ำบอกตลอดเวลาจากริมฝีปากบางจนเขารู้สึกหัวใจพองโต คำว่ารักมันยิ่งใหญ่แบบนี้เองหรือ
“รักพระพายไม่ได้หรือคะ” ผละออกแล้วมองหน้าเขา ด้วยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปในปริมาณที่มากทำให้เกิดความกล้าขึ้นมือบางยกไปจับใบหน้าคมไว้ก่อนจะยืดตัวจุมพิตเขาอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากทั้งสองแตะกันโดยที่สิงห์ทำได้เพียงนิ่งอึ้งไม่คิดว่าน้องน้อยของตนเองจะกล้าทำอะไรแบบนี้ พระพายเปลี่ยนเป็นโอบรอบลำคอหนากดจูบย้ำด้วยความไม่ประสีประสากับเรื่องแบบนี้
“พระพายยอมพี่แล้วทุกอย่าง รักพระพายได้ไหม” ไม่รู้ว่าการทำแบบนี้เป็นการลดคุณค่าของตนเองลงหรือไม่แต่เธอก็ยอมจะทำเพียงเพื่อให้คนที่รักหันกลับมารักตอบบ้าง
“มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน” แม้ในร่างกายจะร้อนรุ่มเพียงเพราะจูบอ่อนหัดเหมือนเด็กอนุบาลของพระพายแต่เขาก็ปลดแขนบางออกแล้วพยายามจะลุกขึ้นแต่พระพายก็นั่งทับเขาเอาไว้ก่อนด้วยการหันหน้าเข้าหาเรียวขาบางโอบรอบลำตัวสิงห์ในขณะที่นั่งอยู่บนเตียง
