บท
ตั้งค่า

๑๖

หลังจากเสร็จมื้อเที่ยงแล้วทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปโดยพระพายกลับห้องของตนเองทันทีปล่อยให้กวินตาเดินตามสิงห์ไปคนเดียว คิดแล้วก็รู้สึกน้อยใจเขาเหลือเกินจะพาเธอมาทำไมถ้าเอาแฟนของตนเองมาด้วยแม้จะรู้เต็มอกว่าพี่ชายไม่ได้รักหรือพิศวาสในตัวกวินตามากเท่าไหร่แต่ก็รู้สึกเสียใจทุกครั้งที่เห็นทั้งสองยืนข้างกัน ในใจลึกๆก็คิดว่าทั้งคู่ดูเหมาะสมกันดี

กวินตาตามติดสิงห์จนเขาแทบไม่มีที่ว่าง มือบางเกาะแขนเอาไว้อย่างไม่เกรงกลัวแม้หน้าตาของชายหนุ่มจะนิ่งขรึมสักเพียงใด บนเรือลำนี้เธอสามารถทำอะไรก็ได้เพราะไม่มีนักข่าวหรือคนมาสนใจเรื่องคนอื่นมากเท่าไหร่นอกจากเรื่องของตนเอง ธุรกิจครั้งนี้สิงห์ลงทุนไปกว่าพันล้านและคาดว่าจะได้กำไรกลับประมาณหมื่นล้านโดยอิงสถิติจากเดือนที่ผ่านมา

“คุณสิงห์คะ” เดินจนเมื่อยแม้จะเดินเพียงแค่ชั้นสองแต่มันก็ช่างกว้างขวางเสียเหลือเกิน

“เราไปนั่งเล่นที่ห้องคุณไม่ดีกว่าหรือคะ งานก็ให้พวกลูกน้องตรวจไป” จิรภาสไม่ค่อยชอบใจผู้หญิงคนนี้ของนายสักเท่าไหร่นัก เธอเป็นดาราที่ทำให้วงการดูด้อยค่าไปมากเพราะวันๆ ไม่ทำอะไรเอาแต่ตามผู้ชายเขาจึงไม่อยากจะเข้าไปยุ่งด้วยปล่อยเรื่องผู้หญิงของนายให้คมิกดูแล

“จิ ช่วยพาผู้หญิงคนนี้ไปไกลๆ ตาฉันที” ไม่ได้ตอบกลับกวินตาแต่หันไปสั่งลูกน้องของเขาที่ทำหน้านิ่งทั้งที่แววตาแสดงออกถึงความเบื่อหน่าย จิรภาสไม่ค่อยอยากจะยุ่งกับเรื่องพวกนี้เขาถนัดใช้กำลังมากกว่าแต่ก็ปฏิเสธสิงห์ไม่ได้

“ไม่ค่ะ ตาลไม่ไปกับมันหรอก” นอกจากมารยาทจะเสียแล้วปากเธอก็ยังไม่ดีอีกด้วย ร่างสูงในชุดสูทดำไม่ได้กล่าวตอบโต้อะไรออกไปแต่ก็มีทีท่าว่าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อกวินตาหันหน้ามามองเขาด้วยแววตาเหยียด

“เธอน่าจะรู้ดีว่ากิตติศัพท์ของฉันที่เขาลือกันเป็นอย่างไรนะ” กัดฟันข่มอารมณ์โกรธพูดกับผู้หญิงเอาแต่ใจอย่างเธอ ใบหน้าคมเคร่งขรึมดวงตาฉายแววเอาเรื่องเต็มที่จนเริ่มรู้สึกกลัว

“ถ้าอยากอยู่แบบสุขสบายก็ทำตัวให้มันว่าง่าย” เพียงเท่านั้นมือบางก็ปล่อยออกจากแขนเขาอย่างว่าง่ายแล้วหันไปหาจิรภาส

“นำไปสิจะมองหาพระแสงอะไร” ร้องเสียงดังอย่างคนอารมณ์เสียไม่มีที่ลงซึ่งเธอกำลังลงผิดคนจิรภาสกับคมิกต่างกับลิบลับในเรื่องความใจเย็น

“ถ้าปากพูดอะไรดีๆ ไม่ได้ก็เงียบเถอะครับ” ก่อนจะผายมือให้เธอทำเอากวินตาที่ไม่เคยโดนใครตอกกลับอ้าปากเหวอทันที “ถ้าคุณกรี๊ดออกมารับรองผมจับโยนลงทะเลแน่” เห็นท่าทางผู้หญิงเอาแต่ใจทำท่าจะกรีดร้องแล้วเขาจึงพูดดักเอาไว้และด้วยหน้าตาที่จริงจังของจิรภาสร่างบางจึงปิดปากทันทีส่วนสิงห์ที่มองเหตุการณ์ก็ทำเพียงยิ้มมุมปากแล้วเดินออกไปพร้อมคมิกที่อยากจะยกนิ้วให้ความกล้าของคู่ซี้

“เชิญ” แม้จะไม่พอใจแต่ก็ทำได้เพียงกระแทกเท้าลงพื้นแรงๆ เดินไปข้างหน้าด้วยความโมโหที่ไม่สามารถแสดงอารมณ์อะไรออกไปได้ จิรภาสส่ายหัวให้กับความเจ้าอารมณ์ของเธอทั้งที่เขาไม่อยากจะยุ่งกับผู้หญิงของเจ้านายแต่กลับต้องมาติดอยู่กับเธอในตอนนี้จนกระทั่งพาเธอมาส่งหน้าห้อง

“หวังว่าคงไม่เฝ้าหน้าห้องฉันหรอกนะ” หันมาเหน็บแนม

“ไม่มีทางอยู่แล้ว คุณไม่ชอบผมอย่างไรผมก็ไม่ชอบคุณอย่างนั้น” ว่าด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“แล้วอย่ามาอยู่ใกล้ฉันเกินห้าเมตร!” คำพูดของเขาฟังราวกับเธอน่ารังเกียจนักหนาทั้งที่เป็นถึงดาราแนวหน้าของเมืองไทยมีแฟนคลับติดตามเป็นล้าน เขาเป็นใครถึงกล้ามาบอกไม่ชอบเธอกัน

“ถ้าไม่ใช่คำสั่งของคุณสิงห์ ผมไม่แม้แต่อยากมองหน้าคุณ” พูดจบจิรภาสก็เดินออกไปจากตรงนี้ปล่อยให้เธอกรีดร้องอย่างสุดเสียงจนคนแถวนั้นหันมามอง คนอย่างกวินตาเสียอะไรก็เสียได้แต่ห้ามเสียหน้า เธอไม่ยอมเด็ดขาดที่จะมีคนมาบอกว่าไม่ชอบหรือเกลียดตนเองคนที่มีสิทธิ์เกลียดได้มีแค่เธอเท่านั้น

“น่ารำคาญชะมัด” เดินออกมาจากหน้าห้องของกวินตาได้ก็ต้องชะงักเมื่อพบพระพายส่งยิ้มมาให้

“ไปไหนมาคะคุณจิ” เพราะคุ้นเคยกันมานานเขาจึงเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่งยิ้มให้อย่างจริงใจ

“ทำงานครับ” ร่างน้อยพยักหน้าให้แล้วมองซ้ายขวา

“พี่สิงห์ไม่มาด้วยหรือคะ” เขาส่ายหน้าทันที “คุณสิงห์ตรวจงานชั้นสองแล้วคงเข้าห้องทำงานครับ” มาครั้งนี้นายเขาใช่ว่าจะสบายเพราะต้องตรวจคาสิโนและทำงานเอกสารของธุรกิจอื่นอีกด้วยงานเพิ่มมากขึ้นจนแทบไม่มีเวลา

“ถ้าพระพายอยากจะขอไปเล่นที่ชั้นดาดฟ้าได้ไหมคะ” อยู่ห้องมานานก็เกิดเบื่อ ตอนนี้ก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้วจึงอยากจะไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินรับลมธรรมชาติมากกว่าอุดอู้อยู่ในห้อง

“เอ่อ ผมว่าถามคุณสิงห์ก่อนจะดีกว่านะครับ” เขาไม่ชอบดวงตากลมโตของคุณหนูคนเล็กแห่งบ้านเลย มันช่างเว้าวอนเสียจนอยากจะทำตามทุกอย่างที่เธอต้องการ

“ให้พระพายไปนะคะคุณจิ พระพายไม่มีอะไรทำเลย นะคะ” ดวงตา แป๋วแหววคู่นั้นทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้ จิรภาสนิ่งคิดไปสักครู่

“ได้ครับ” รอยยิ้มหวานเผยออกอย่างดีใจ

“แต่ว่า” เขาเอ่ยขัดความสุขของเธอ “ต้องให้ผมไปดูแลนะครับ” พระพายพยักหน้าอย่างดีใจยินยอมทุกอย่างขอแค่ไม่ได้อยู่ในห้องแคบๆ ก็พอแล้ว ทั้งสองเดินเคียงกันไปยังบันไดปล่อยให้กวินตามองตามแล้วยิ้มอย่างสมใจ แผนเริ่มร่างออกมาในหัวก่อนจะตัดสินใจไม่เข้าไปภายในห้อง อยู่ในห้องก็ไม่มีอะไรสนุกให้ทำน่ะสิ

บนดาดฟ้าของเรือที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ร่างบางนั่งลงตรงขอบเรือหย่อนขาลงโดยมือก็ยังคงเกาะเหล็กที่กั้นขอบเรือเอาไว้ เรือสูงจากพื้นน้ำพอสมควรจนดูน่ากลัวในความรู้สึกของเธอ มองไปพื้นน้ำเบื้องหน้าที่ไกลสุดลูกหูลูกตาบรรจบพอดีกับท้องฟ้าสีเข้มทาด้วยแสงสีส้มอ่อนมองพระอาทิตย์ลูกโตด้วยตาเปล่าก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นดีเหมือนกัน

“คุณจิทำงานกับพี่สิงห์นานแล้วไม่เบื่อบ้างหรือคะ” เพราะความเงียบทำให้พระพายหันมาถามคนที่ยืนนิ่งดูแลตนเองอยู่

“ไม่ครับ” ครอบครัวของจิรภาสรับใช้คุณมังกรตั้งแต่รุ่นพ่อสิ่งที่เขารับรู้ตั้งแต่เด็กคือต้องตอบแทนครอบครัวนี้รับใช้ทุกอย่างให้ได้มากที่สุด แต่พอโตขึ้นเขาก็ขอออกมาใช้ชีวิตข้างนอกปล่อยให้คมิกอาศัยอยู่บ้านเดชดำรงกุลดูแลคุณสิงห์อย่างใกล้ชิดคนเดียว

“แล้วไม่คิดเรื่องแต่งงานหรือคะ” อายุอานามเขาก็ไม่ใช่น้อยแล้ว หากแต่ยังไม่เคยที่จะคิดเรื่องแต่งงานเลยสักครั้ง เขามีเพียงคู่นอนชั่วคราวเท่านั้นเพราะอาชีพอย่างเขาอันตรายไม่รู้จะตายวันตายพรุ่งไม่อยากให้คนที่ตนรักต้องเสียใจ

“ไม่ครับ” ร่างบางยิ้มให้บางเบาแล้วมองทะเลเบื้องหน้าที่ดูกว้างขวางและช่างอ้างว้างเสียเหลือเกิน เหมือนเธอที่อยู่ใกล้เขาแต่ก็ไม่อาจเอื้อมมือไปคว้าได้เพียงเพราะสถานะพี่น้องที่เป็นเส้นกั้นความสัมพันธ์เอาไว้ หรือบางครั้งก็เป็นสิงห์เองที่ไม่ยอมเปิดรับเธอเสียที

“น่าสงสารนะคะ” รำพันออกมาแผ่วเบาโดยที่จิรภาสยังไม่ทันจะได้พูดอะไร “คนที่ไม่รู้จักความรักน่าสงสารกว่าคนที่อกหักอีก ว่าไหมคะ” ไม่แน่ใจว่าคุณหนูคนสวยกำลังสอนเขาอยู่หรือเปล่าเพราะแววตาก็ไม่ได้ฉายความรู้สึกอะไรออกมา

พระพายเงียบไปมองบรรยากาศตอนเย็นที่มีลมพัดเฉื่อยๆ ได้กลิ่นทะเลที่แม้เท้าไม่ได้สัมผัสน้ำก็รับรู้ได้ถึงความสดชื่นมีชีวิตชีวา “ว่าไง” เสียงนั้นเรียกความสนใจของพระพาย จิรภาสรับโทรศัพท์จากลูกน้องด้วยใบหน้าเคร่งเครียดแล้ววางสายโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ เขามองพระพายอย่างกังวล

“งานเข้าหรือคะ” พอจะเข้าใจจึงเอ่ยถาม

“ครับ”

“คุณจิไปเถอะค่ะ พระพายอยู่คนเดียวได้” แม้เธอจะพูดอย่างนั้นเขาก็อดจะเป็นห่วงไม่ได้ มองรอบกายก็ไม่เห็นคนออกมาบนดาดฟ้าเรือจึงพอจะเบาใจว่าคงไม่มีใครล่วงล้ำมายังเขตหวงห้ามอย่างแน่นอน

“แล้วผมจะรีบกลับมาครับ” ค้อมหัวให้เธอแล้วเดินออกไปพระพายเองก็ละความสนใจจากอีกคนมามองแผ่นน้ำเบื้องหน้าปล่อยความรู้สึกทุกอย่างเอนกายลงนอนมองท้องฟ้าสีส้ม ไม่ได้ผ่อนคลายแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ ล่าสุดที่มาทะเลก็เมื่ออยู่มัธยมศึกษาปีที่สามซึ่งคุณลุงมังกรลงทุนพามาฉลองที่สอบเข้าโรงเรียนอันดับหนึ่งของประเทศได้

“น้องพระพาย” อยากจะถอนหายใจแต่เพราะมารยาททางสังคมที่มีพระพายจึงลุกขึ้นนั่งแล้วหันไปมองผู้มาใหม่ก็พบกวินตายินส่งยิ้มหวานให้

“พี่ไม่นึกว่าจะมีคนอยู่บนดาดฟ้าด้วย” น้ำเสียงแสนจะเสแสร้งทำให้พระพายไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพียงแค่ส่งยิ้มเท่านั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel