บท
ตั้งค่า

๑๓

สิงห์รับกระดาษรายงานมาจากคมิกหลังให้คนไปสืบเกี่ยวกับราพณ์ เขากำมือแน่นหลังจากที่รู้ว่าตอนนี้มันเป็นอาจารย์สอนพิเศษให้กับพระพาย เขาประมาทเกินไปว่ามหาวิทยาลัยจะเป็นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเธอซึ่งความจริงแล้วดูเหมือนจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป

“ส่งคนของเราตามติดพระพายเพิ่ม แต่อย่าให้รู้ตัว”

“ครับ” กระดาษถูกยื่นกลับไปให้คมิกแล้วอีกฝ่ายก็ค้อมหัวเดินออกไป ไม่คิดว่าราพณ์จะจองล้างจองผลาญเขาได้ขนาดนี้ ยังค้นหาคำตอบให้กับคำถามของตนเองทุกวันว่าเขาไปทำอะไรให้มันถึงได้เปลี่ยนจากเพื่อนรักกลายเป็นเพื่อนแค้นขนาดนี้ ต้องการทำลายชีวิตของคนในครอบครัวเขาขนาดนั้นเลยหรือ นั้นยังเป็นข้อสงสัยที่เขาคิดว่าคงไม่อาจจะได้คำตอบแม้ให้คนไปสืบก็ไม่พบข้อเท็จจริงแต่อย่างใดทั้งประวัติของราพณ์ก็ดูไร้ข้อมูลราวกับออกมาจากกระบองไม้ไผ่เสียอย่างนั้น

“คุณสิงห์ครับเรือพร้อมสำหรับสัปดาห์หน้าแล้ว” จิรภาสเดินเข้ามาพร้อมแฟ้มเอกสารในมือยื่นให้เจ้านายดู เรือเฟอร์รี่ขนาดใหญ่สามารถบรรจุคนได้กว่า 1,000 คน ภายในมือคาสิโนหรูหราและห้องพักกว่าหนึ่งพันห้องอยู่ด้วย มีร้านอำนวยความสะดวกมากมาย จะออกเรือเดือนละหนึ่งครั้งเท่านั้นซึ่งสำหรับเดือนนี้ก็ใกล้เข้ามาแล้ว

“พรุ่งนี้เปิดจองได้เลย” การจองนั้นต้องเสียค่าขึ้นเรือกว่าห้าหมื่นบาทแต่ก็คุ้มสำหรับนักเสี่ยงโชคที่มักจะได้ลาภก้อนโตจากที่แห่งนี้

“ครับ” ในขณะที่จิรภาสจะออกไปก็ถูกเรียกเอาไว้เสียก่อน

“เดี๋ยว แบ่งคนไปตามดูไอ้ราพณ์ด้วยอย่าให้มันเข้ามาภายในเรือได้” ควรกันไว้ก่อนจะดีกว่ามาแก้ทีหลัง อะไรที่คิดว่าอาจจะเกิดขึ้นเขาต้องหาทางป้องกันไม่ให้มันเกิด จิรภาสรับคำสั่งเดินออกไปจากห้องทำงานสุดหรูที่เป็นห้องกระจกสามารถเห็นวิวโดยรอบได้ ร่างสูงลุกขึ้นยืนเดินไปดูบรรยากาศที่มีแดดส่องจนเข้ามาภายในห้องของเขา

“สวัสดี” วันแรกที่เขาเดินเข้าห้องเรียนสำหรับนักศึกษาปริญญาโทก็ได้รับการทักทายจากผู้ชายอีกคนที่นั่งข้างกัน ผิวมันขาวมากทั้งผมสีทองที่ดูเด่นอีกต่างหาก

“อืม” สิงห์ตอบรับสั้นๆ เปิดสมุดรออาจารย์เข้ามาสอน แม้จะยังไม่คุ้นชินกับสถานที่เท่าไหร่เขาก็พยายามปรับตัวให้เร็วที่สุด

“ฉันชื่อราพณ์นะ ออกเสียงได้ไหม” ถามเป็นภาษาอังกฤษเพราะยังไม่รู้แน่ชัดว่าชายหุ่นหนาที่นั่งข้างๆ จนเองเป็นคนสัญชาติอะไรแต่คิดว่าน่าจะเป็นคนเอเชีย

“ได้” ราวกับอีกคนไม่อยากคุยด้วยและต้องการจะปิดบทสนทนาให้เร็วที่สุดแต่ราพณ์ก็ไม่ยอมแพ้

“มาจากที่ไหนหรือ” สิงห์ได้แต่ภาวนาให้อาจารย์เข้าห้องสักที และบอกตนเองไว้ในใจห้ามมาเรียนก่อนเวลาเด็ดขาดถ้าไม่อยากเจอคนน่ารำคาญแบบนี้

“ประเทศไทย” เท่านั้นราพณ์ก็ยิ้มออกมาดีใจเสียยกใหญ่

“เฮ้ย ฉันก็คนไทย” ภาษาที่คุ้นเคยกว่าหลายปีทำให้สิงห์หันไปมองเพื่อนด้วยความสนใจ ไม่คิดว่าจะมีคนไทยในคลาสของตนเองด้วย

“ดีใจว่ะ เจอเพื่อนที่พูดภาษาเดียวกัน” มันดูเป็นคนเฟรนลี่ดีนะ ก่อนที่จะได้คุยกันอาจารย์ก็เดินเข้ามาเสียก่อนทั้งสองจึงหยุดบทสนทนาไว้เพียงเท่านั้นแล้วตั้งใจเรียน เมื่อเลิกคลาสสิงห์ลุกขึ้นเดินออกไปอย่างรวดเร็วจนราพณ์เรียกไม่ทัน เขาขอพ่อเอาไว้ว่าไม่อยากให้มีผู้ติดตามมาด้วยเยอะ ขอแค่สองคนก็พอคือคมิกกับจิรภาสที่รู้จักกันมานานแต่วันนี้ทั้งสองไม่ได้เข้ามารอในมหา’ลัย เขาให้รอข้างนอก

“เดี๋ยวก่อนสิ” อยู่ดีๆ ก็มีกลุ่มผู้ชายตัวหนาสามคนเดินมาขวางหน้าเขาเอาไว้ มันใส่เสื้อกันหนาวตัวหนาหน้าตาก็ไม่น่าไว้วางเท่าไหร่นัก เขาไม่ได้ก้าวถอยกลับจ้องหน้าทั้งสามคนนิ่งอย่างไม่ยอมหลบตา

“จ่ายค่าผ่านทางมาก่อน” เคยรู้มาบ้างว่าจะมีคนประเภทนี้แต่ไม่คิดว่าจะเจอในมหาวิทยาลัยด้วย

“ไม่จ่าย” สิงห์เป็นคนกล้าเกินไปเขาไม่กลัวที่จะต่อสู้หากได้รับความไม่ยุติธรรม ทั้งสามแสยะยิ้มออกมาเดินเข้าใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น

“นั้นอะไร” เสียงดังขึ้นพร้อมการปรากฏกายของราพณ์ ทั้งสามหันไปดูตามคำบอกกล่าวก่อนที่สิงห์จะถูกราพณ์ดึงให้วิ่งตามไปหลบหลังตึกอาคารเรียน

“มาพากูหนีทำไม” สิงห์ถามเมื่อหยุดวิ่งพบว่ามันเป็นทางตัน ราพณ์โยนกระเป๋าข้ามกำแพงหนา

“ไม่หนีมึงก็ตายสิ ดูตัวพวกมันอย่างหนา”

“กูไม่กลัว” ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ แล้วดึงกระเป๋าของสิงห์โยนไปฝั่งตรงข้ามจนอีกฝ่ายร้องด้วยความตกใจ

“ถ้าอยากได้ก็ตามกูมา” ราพณ์ปีนกำแพงขึ้นไปอย่างง่ายดาย สิงห์ตัดสินใจกระโดดขึ้นไปด้วยโผล่มาอีกที่ซึ่งเขาไม่คิดว่าจะติดกับสวนสาธารณะ ราพณ์ยื่นกระเป๋าให้เขาพร้อมกอดไหล่เอาไว้

“กูช่วยมึง มึงติดหนี้บุญคุณกูนะ” สิงห์เบี่ยงตัวหลบ

“กูไม่ได้ขอ” แล้วก็เดินหนีโดยมีราพณ์เดินตามพร้อมหัวเราะ หลังจากนั้นไม่นานก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาสนิทกับอีกคนได้อย่างไร มีสิงห์ที่ไหนมักจะมีราพณ์ที่นั้น ช่วยกันทำงานกว่าจะผ่านการเรียนแสนโหดมาได้ก็กลายเป็นมิตรภาพที่แน่นแฟ้นจนกระทั่งวันนั้นที่เขาจำคำพูดแสนเย็นชาจากราพณ์ได้

“กูไม่เคยเห็นมึงเป็นเพื่อนเลย” ก่อนที่ร่างของเขาจะร่วงลงจากหน้าผาตกกระทบน้ำเบื้องล่าง ความทรงจำสุดท้ายคือกลิ่นเลือดทั้งของตนเองและคนรัก ใบหน้าแสนเย็นชาของราพณ์ที่แสยะยิ้มออกมา ตอนนั้นเองที่เขารู้แล้วว่าตนเองไม่ควรไว้ใจใคร!

พระพายเดินเข้ามาในห้องเรียนด้วยตาที่ตูบจนมณีพรรณอดถามไม่ได้ “ร้องไห้หรือ” เพื่อนนั่งลงเธอค่อยถามขึ้นเสียงเบา

“อืม มีเรื่องนิดหน่อย” บอกตามความจริงหากแต่ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากนักเพราะใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว

“มีอะไรปรึกษาเราได้ตลอดนะ” ร่างบางยิ้มกลับ ดีใจที่มีเพื่อนสนิทสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่องแต่เรื่องความรักของเธอที่แอบชอบพี่ชายในบ้านกลับไม่กล้าบอก พระพายยังเก็บเรื่องนี้เป็นความลับแต่เธอไม่รู้ว่าคนทั้งบ้านแทบจะรู้กันหมดแล้ว สายตาของพระพายบอกทุกอย่าง

“นั่งด้วยนะพระพาย” พิธานถามแล้วนั่งลงข้างพระพายที่ว่างอยู่ เอกฝรั่งเศสไม่ค่อยมีผู้ชายเรียนมากนักเขาจึงชอบอยู่ตัวคนเดียวมากกว่าแต่ถ้าเพื่อนที่สนิทก็คงมีหมูหวานซึ่งอยู่บ้านใกล้กันแถมเป็นเพื่อนสนิทของสาวที่เขาหมายปองอีกด้วย

“แหม่ ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ” ปกติพิธานจะไม่ค่อยรุกเท่าไหร่ แต่เขาก็คอยหากำไรเล็กน้อยเช่นนั่งข้าง หรือไปกินข้าวตอนเที่ยงด้วยกันเท่านั้นก็เธอมีพี่ชายคุมแจเสียขนาดนี้ ในใจก็คิดแล้วว่าอกหักกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็น

“พูดมากยายหมูอ้วน” ก่อนจะเกิดศึกของทั้งสองคนพระพายก็ห้ามทัพเอาไว้เสียก่อนพลางหัวเราะออกมาขำกับความน่ารักจนลืมเรื่องเครียดไปเสียสนิท การเรียนของวันนี้ผ่านไปอย่างเชื่องช้าในความรู้สึกของพระพายดีที่เรียนแค่สามชั่วโมงเลิกสี่โมง พอจบคลาสร่างบางก็มายังรถที่จอดรอรับอยู่แล้วก็ผิดหวังที่ไม่พบสิงห์

“คุณสิงห์ยุ่งครับเลยให้ผมมารับแทน” คมิกเปิดประตูรอเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังจึงบอกเหตุผลที่เจ้านายไม่มา พระพายยิ้มเล็กน้อย

“พระพายเข้าใจค่ะ” เข้าใจว่าเขายังคงโกรธอยู่กับความผิดที่เธอได้ขัดคำสั่งเขา ปกติแม้ยุ่งขนาดไหนพี่สิงห์ก็จะมารับตลอดหากครั้งนี้ไม่ใช่ เขาต้องการลงโทษเธอจริงๆ และมันก็ได้ผลเพราะหัวใจมันเจ็บปวดเหลือเกินที่โดนอีกฝ่ายเมิน

กลับมาถึงบ้านก็นั่งทานข้าวเย็นกับคุณมังกรแค่สองคนแม้ท่านจะพยายามทำให้เธอยิ้มแต่ก็เปล่าประโยชน์เพราะแววตาของหลานสาวยังคงฉายความเศร้าจึงได้แต่เพียงโทษบุตรชายในใจที่ทำอะไรไม่ชัดเจนเสียที คอยดูพรุ่งนี้จะมีคนเต้นเป็นเจ้าเข้าอย่างแน่นอนถ้ารู้ว่าจะมีแขกมาเยือนแต่เช้า

เป็นเวลากว่าตีหนึ่งที่สิงห์กลับมาถึงบ้าน ร่างสูงอ่อนล้าจากการทำงานเพราะต้องไปท่าเรือของตนเองที่ภูเก็ตตรวจดูเรือเฟอร์รี่คันหรูที่ภายในอลังการจนต้องตะลึงให้กับความสวยงาม เขาเดินไปยังห้องนอนของพระพายก่อนเป็นอันดับแรกไขกุญแจเข้าไปอย่างแผ่วเบา ไฟทั้งห้องปิดหากแต่ไฟจากข้างนอกสาดส่องเข้ามาทำให้เขาเห็นร่างบางนอนหันข้างอยู่กลางเตียงกว้างพร้อมทั้งข้างกายยังมีตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่อยู่ด้วย

“ฝันดีนะ” ไม่บ่อยที่เขาจะเข้ามาบอกฝันดีกับเธอเพราะนั่งกินข้าวเย็นด้วยกันเสมอ แทบจะนับครั้งได้ที่สิงห์จะทำทีเป็นมึนตึงใส่น้องสาว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel