บท
ตั้งค่า

๑๒

“เห็นพี่เป็นแค่ทางผ่านเท่านั้นหรือ แล้วไอ้สิงห์มันไม่พูดอะไรเลยหรือไง” ร่างบางนิ่งเงียบไม่ตอบแต่เขาก็พอที่จะรู้คำตอบ

“อย่างว่าแหละนะ มันรักของมันมากคงสะเทือนใจ” เขาเริ่มกระตุ้นต่อมความอยากรู้ของพระพายทันทีแล้วก็ดูเหมือนจะได้ผลเสียด้วย

“หมายความว่ายังไงคะ” ราพณ์ถอนหายใจพลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้

“สิงห์มันพลาดใช้ปืนจะยิงศัตรูแต่ดันไปถูกขวัญจนเสียชีวิต” คำพูดและหน้าตาเขาดูน่าเชื่อถือแต่ประโยคนั้นสำหรับเธอมันกลับดูเหมือนคำลวงมากกว่า คำพูดเป็นเพียงแค่ลมที่ออกมาจากปากคนไม่มีหลักฐานอะไรมาประกอบจนเริ่มคิดว่าตัดสินใจถูกแล้วหรือไม่ที่อยากรู้ความจริงจากคนหลอกลวง

“พระพายจะไม่เชื่อพี่ก็ได้นะ พี่เข้าใจว่าคนอย่างพี่มันดูไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่” ท่าทางสลดช่างดูเสแสร้งเหลือเกินในความคิดพระพาย

“อาหารมาพอดีเลย” ราพณ์ตัดบทการสนทนาเมื่ออาหารที่สั่งมาเสิร์ฟ ทั้งคู่ลงมือทานอาหารอย่างเงียบๆ

“เรื่องเก่าพี่ก็ไม่อยากจะพูดอะไรให้มากนักหรอกนะ” ในขณะที่ทานอาหารชายหนุ่มตัดสินใจพูดขึ้นมาอีกครั้ง พระพายทำเพียงจับช้อนส้อมเอาไว้ไม่ได้ทานเข้าไปราวกับกลัวว่าเขาจะใส่อะไรลงไปในอาหารด้วยไม่ไว้วางใจ

“แต่คิดว่าพระพายควรจะรู้ว่าพี่ชายของพระพายไม่ได้ดีอย่างที่คิด” ราพณ์วางส้อมในมือลงแล้วยกน้ำขึ้นจิบท่วงท่าดูดี

“พี่กับสิงห์เคยเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน” และก่อนที่เขาจะพูดจบก็มีเสียงดังเอะอะขึ้นหน้าร้าน ราพณ์ยิ้มมุมปากด้วยรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนั้นเอง การปรากฏกายของมาเฟียรูปหล่อสร้างความแตกตื่นให้คนที่เข้ามานั่งในร้าน ทั้งจากจำนวนผู้ติดตามที่ยกกันมาเยอะด้วย

“พระพายกลับบ้าน!” สิงห์มองมายังน้องสาวที่นั่งตรงข้ามราพณ์แล้วก็เกิดความโมโหขึ้นจนเดินไปกระชากร่างบางให้ลุกขึ้นจนตัวปลิว พระพายตกใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เคยเห็นสิงห์ในมุมมองแบบนี้ เขาดูจริงจังและน่ากลัวเสียเหลือเกิน

“อย่ามายุ่งกับคนของกูอีก ไม่อย่างนั้นมึงอยู่ไม่สงบสุขแน่” นั้นคือคำเตือนที่เขาบอกมันหลายครั้งแต่ราพณ์ก็ไม่ได้สะทกสะท้าน อีกฝ่ายเพียงยืนขึ้นแล้วกอดอกนิ่ง

“ชีวิตมึงต่อจากนี้ก็จะไม่สงบสุขเหมือนกัน เฝ้าหัวใจของมึงไว้ให้ดี ถ้าเผลอเมื่อไหร่ กูเอาถึงชีวิตแน่” สองคนส่งสายตาให้กันจนสิงห์หมุนตัวกลับจูงพระพายออกมาด้วยความเร็วจนร่างบางตัวแทบลอยไปกับเขาดีที่คว้ากระเป๋าตนเองไว้ได้ทัน ราพณ์ยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความสนุก นี้สินะที่เขาเรียกว่าสงครามที่แท้จริง เมื่อหลายปีก่อนมันก็แค่ตัวหลอก แต่คนนี้สิตัวจริงของมัน

“พี่สิงห์ช้าๆ ได้ไหมคะ” เอ่ยถามแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบหากเป็นการลดระยะการเดินแทน เขาก้าวช้าลงจากเดิมแต่สำหรับเธอที่ส่วนสูงไม่มากแล้วมาโดนเขาลากแบบนี้ก็เดินแทบไม่ทันเหมือนกัน

“ขึ้นรถ” เหวี่ยงร่างบางเข้าไปในรถที่เปิดประตูรอไว้ พยายามหายใจเข้าออกและสงบสติตนเองจากความโกรธหลังได้รับรายงานว่าพระพายหายตัวไป ดีที่มีคนติดตามอย่างลับๆ เขาเลยรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนแต่ที่น่าเจ็บใจคือดันอยู่กับไอ้ราพณ์ ศัตรูตัวฉกาจของเขา ระหว่างทางกลับบ้านสิงห์ไม่พูดอะไรกับเธอเลยหันหน้าออกนอกหน้าต่างจนพระพายรู้สึกผิด ร่างเล็กห่อตัวเข้าหากันด้วยความกลัวหันไปมองเขาบ่อยครั้งก็พบเพียงความเย็นชาบนใบหน้า

“พี่สิงห์คะ พระพายขอโทษ” เอ่ยเสียงแผ่วด้วยความรู้สึกผิด

“อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้” ความเย็นชาแผ่ซ่านไปทั่วจนลูกน้องที่นั่งข้างหน้ายังรับรู้ได้และพร้อมใจพากันเงียบ พระพายเม้มปากตนเองแน่นพยายามที่จะไม่ร้องไห้แม้ว่าตอนนี้จะตาแดงมากขนาดไหนก็ตาม น้ำตาเม็ดใหญ่หยดลงมาจนเธอต้องรีบเช็ดมันออกด้วยกลัวเขาเห็น รถยังแล่นไปเรื่อยจนถึงบ้านของทั้งสอง สิงห์ลงจากรถพร้อมจูงพระพายไปด้วย

“เกิดอะไรขึ้น” บิดาของเขาเดินเข้ามาถามคราแรกจะไปรับหลานสาวแต่ถูกลูกชายดักทางไว้ก่อนจึงเปลี่ยนเส้นทางจะไปเสี่ยงโชคตอนเย็นเสียหน่อย แล้วดูก่อนออกไปดันมาเจอเหตุการณ์มาคุระหว่างลูกกับหลานเสียก่อน

“ขอผมคุยกับหลานสาวคุณพ่อก่อนนะครับ” มองหน้าพระพายที่ตาแดงมีน้ำตาไหลออกมาแต่กลับไม่มีเสียงสะอื้นใดๆ เล็ดลอดก็หลีกทางให้เจ้าลูกชายที่เดินหน้าถมึงทึงมาตั้งแต่หน้าประตูบ้าน

“อย่าทำรุนแรงกับน้องเข้าใจไหม” ตะโกนบอกเมื่อทั้งสองเดินขึ้นไปบนบันไดแล้วถอนหายใจออกมา คมิกเดินตามแล้วค้อมศีรษะให้ผู้มีพระคุณ

“คราวนี้เกิดอะไรขึ้นล่ะ”

“คุณพระพายไปกินข้าวกับคุณราพณ์ครับ” ได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจ คมิกจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังคุณมังกรก็ได้แต่ภาวนาอย่าให้ลูกชายตนฟิวส์ขาดจนยับยั้งสติตนเองไม่ได้แล้วกันแม้จะห่วงหลานแต่ก็รู้ว่าไม่ควรเข้าไปแทรกในตอนนี้เจ้าลูกชายเขาตอนอารมณ์ร้อนทุกคนต่างรู้ดีว่าบรรลัยแค่ไหน

สิงห์เปิดประตูเข้าไปในห้องพระพายเหวี่ยงเดินเข้าห้องแล้วปิดประตูเสียงดัง ใบหน้าคมนิ่งขรึมกอดอกมองน้องสาวที่พยายามกลั้นเสียงร้องไห้แต่ตากับจมูกก็แดงจนอดสงสารไม่ได้

“มีอะไรจะอธิบายไหม” ถามเสียงเข้ม

“พระพายไม่มีอะไรจะอธิบายค่ะ พระพายผิดเองที่ขัดคำสั่งพี่สิงห์” เพราะความอยากรู้ของเธอเองทั้งหมดพระพายจึงไม่อยากจะแก้ตัวใดๆ กับเขา

“พี่เตือนแล้วใช่ไหมว่าอย่าไปใกล้มัน ทำไมชอบเล่นกับไฟนักนะพระพาย” ทั้งที่บอกและเตือนไว้แล้วแท้ๆ ถ้าวันนี้เขาไปไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น หากมันล่อลวงไปทำอย่างอื่นเขาไม่ใจขาดตายก่อนอย่างนั้นหรือ

“พระพายจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว” สิงห์กอดอกมองน้องที่สบตาเขา แววตากลมโตมีน้ำตาคลอจนเขาเดินเข้าไปใกล้เอื้อมมือไปเช็ดให้ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะโกรธอีกฝ่ายได้ลงทั้งที่กล้าขัดคำสั่งเขาขนาดนี้

“ไอ้ราพณ์มันร้าย ไม่รู้ว่ามันคิดจะทำอะไรพี่ไม่อยากให้พระพายเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง เข้าใจใช่ไหม” ร่างบางพยักหน้าเงยหน้ามองเขาพร้อมทั้งจับมือหนาที่กำลังเช็ดใบหน้าเธอเอาไว้

“พระพายสัญญาว่าจะไม่เข้าใกล้เขาอีกแล้ว พี่สิงห์หายโกรธนะคะ” ดูเอาเถอะ มาทำตาใสอย่างนี้ใส่เขาแล้วใครจะไปโกรธลง แต่ก็ต้องทำหน้านิ่งเอาไว้เสียก่อนถ้าหายโกรธเร็วเธอจะได้ใจ

“ต้องดูความประพฤติก่อน” มือหนาปลดมือเธอออกแล้วหันหลังกลับแต่ก็โดนพระพายรั้งเอาไว้ด้วยการกอดเขาจากทางข้างหลัง

“พระพายจะเป็นเด็กดีค่ะ” สิงห์อมยิ้มออกมาแต่ก็ไม่พูดอะไรอีก เขายืนนิ่งอยู่สักพักซึมซับความสุขที่โอบล้อมทั้งเขาและเธอเอาไว้ก่อนจะปลดมือบางออกแล้วเดินไปจากห้องโดยไม่หันกลับมามองเธออีกเลย พระพายทรุดตัวนั่งลงบนเตียงเฝ้าโทษตนเองที่ตัดสินใจทำอะไรโง่ๆ ไปในขณะที่สิงห์ซึ่งเดินออกมาก็เจอคมิกรออยู่ก่อนแล้ว

“จัดการเรื่องเรือคาสิโนที่จะออกด้วย ฉันจะพาพระพายไปกับเรา” คมิกค้อมศีรษะรับคำสั่งพร้อมทั้งหาข้อมูลของราพณ์ว่าเหตุใดจึงได้เจอกับพระพาย ต่อจากนี้เขาต้องติดตามเธอทุกฝีก้าวอาจจะต้องส่งคนเข้าไปนั่งเรียนกับเธอเพื่อความปลอดภัยของตัวพระพายเองและหัวใจของเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel