ตอนที่ 6: จูบในคืนที่เมามาย - 1
ฝั่งภาคิน...
ภาพหยดน้ำตาเงียบๆ ของเด็กหนุ่มคณะศิลปกรรมคนนั้น มันตามหลอกหลอนภาคินไปตลอดทั้งบ่าย เขานั่งเรียนไม่รู้เรื่อง สมองที่เคยใช้คำนวณสูตรฟิสิกส์ที่ซับซ้อน ตอนนี้กลับเอาแต่ฉายภาพใบหน้าที่เจ็บปวดของกวินซ้ำไปซ้ำมา
‘แค่คำพูดไม่กี่คำ...ทำไมมันถึงได้รู้สึกผิดขนาดนี้วะ’
ภาคินไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ปกติเขาจะปากเสียหรือแกล้งใคร เขาก็ไม่เคยใส่ใจผลที่ตามมา แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป...ความเงียบและการเดินจากไปของกวิน มันทิ้งความรู้สึกหน่วงหนักไว้ในอกของเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ไอ้ภาคิน มึงเป็นไรวะ นั่งซึมเป็นหมาป่วยเลย”
เจตทักขึ้นเมื่อเห็นเขาเอาแต่นั่งเขี่ยบุหรี่ในมือเล่นโดยไม่ยอมจุดมันขึ้นมาสูบ
“เสือก”
เขาตอบกลับไปตามสไตล์ แต่เป็นคำด่าที่ไร้ซึ่งอารมณ์โดยสิ้นเชิง
“แหม่...ปากดีเหมือนเดิม แต่สายตามึงนี่โคตรเศร้าเลยว่ะ” นนท์เสริม
“อกหักเหรอวะ?”
ภาคินไม่ตอบ เขาแค่ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากกลุ่มไป ทิ้งให้เพื่อนมองตามอย่างงงๆ
คืนนั้น...ภาคินตัดสินใจทำในสิ่งที่เขาชอบทำเวลาที่รู้สึกแย่...เขาไปดื่มเหล้า และดื่มอย่างหนักหน่วง กะว่าจะให้แอลกอฮอล์มันล้างความรู้สึกผิดบ้าๆ นี้ออกไปจากหัว แต่ยิ่งดื่ม...ภาพใบหน้าที่กำลังร้องไห้ของกวินก็ยิ่งชัดเจนขึ้น
ฝั่งกวิน...
กวินกลับมาที่ห้องด้วยสภาพเหมือนคนวิญญาณหลุดออกจากร่าง เขาไม่ได้ร้องไห้ต่อแล้ว แต่ความรู้สึกเสียใจยังคงเกาะกินหัวใจของเขาอยู่เงียบๆ เขาทิ้งสมุดสเก็ตช์ภาพไว้บนโต๊ะโดยไม่คิดจะเปิดมันอีก กล่องเหล็กที่เคยเก็บ ‘วัตถุพยานหมายเลข 1’ ก็ถูกยัดเข้าไปในลิ้นชักลึกสุดใจ...การวิจัยภาคสนามบ้าๆ นั่นมันจบแล้ว ตอนนี้เขาไม่อยากจะเห็น ไม่อยากจะคิดถึงผู้ชายคนนั้นอีกต่อไป
“กวิน...มึงโอเคไหม” ต้ากับโอมที่ตามมาดูอาการเพื่อนที่ห้องถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง พวกเขาไม่กล้าแซวหรือพูดเล่นเหมือนทุกทีเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนรัก
“อืม...โอเค” กวินตอบเสียงเบา
“แค่...เหนื่อยนิดหน่อย”
“ไปหาอะไรกินกันไหม เดี๋ยวพวกกูเลี้ยงเอง” โอมเสนอ
“ไม่เป็นไร...พวกมึงไปกันเถอะ กูนอนพักแป๊บเดียวก็น่าจะดีขึ้น”
แม้จะบอกปัดเพื่อนไป แต่เมื่อตกดึก ความหิวก็เริ่มเรียกร้อง กวินจึงตัดสินใจลากสังขารตัวเองออกจากห้องเพื่อไปหาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ร้านสะดวกซื้อใต้หอพัก เขาสวมฮู้ดคลุมศีรษะ ก้มหน้าก้มตาเดินเพื่อที่จะไม่ต้องสบตาใคร
แต่ในขณะที่กำลังจะเดินข้ามถนนไปยังร้านสะดวกซื้อนั่นเอง สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นความวุ่นวายเล็กๆ ที่หน้าร้านเหล้าฝั่งตรงข้าม
กลุ่มนักศึกษาชายสองสามคนกำลังพยายามพยุงร่างของใครคนหนึ่งที่เมาจนไม่ได้สติออกมาจากร้าน
“แม่งเอ๊ย! หนักชิบหาย! มึงจะแดกให้โรงเหล้าเจ๊งเลยรึไงวะไอ้ภาคิน!”
ชื่อที่ได้ยินทำให้กวินหยุดชะงัก เขามองไปยังร่างสูงที่กำลังโอนเอนไปมาเหมือนต้นอ้อลู่ลมคนนั้น...ภาคิน...
สภาพของลาสบอสในตอนนี้ดูน่าสมเพชอย่างบอกไม่ถูก ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อยืดเปียกชื้น และอยู่ในสภาพไร้สติโดยสิ้นเชิง
‘อย่าไปยุ่งเลย...ไม่ใช่เรื่องของเรา’ สมองซีกเหตุผลสั่งการ แต่ขาทั้งสองข้างกลับไม่ยอมขยับ
เขายืนมองดูเพื่อนของภาคินพยายามจะเรียกรถแท็กซี่ แต่ก็ไม่มีคันไหนยอมจอดรับคนเมาในสภาพนี้
“ชิบหาย...กูต้องรีบกลับหอแล้วว่ะ เดี๋ยวแฟนกูงอนตายห่า”
เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้น ก่อนจะฝากฝังเพื่อนอีกคนที่ยังอยู่
“มึงพามันกลับหอดีๆ นะเว้ย หอมันอยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง”
พูดจบเขาก็วิ่งจากไป ทิ้งให้เพื่อนอีกคนต้องรับมือกับร่างที่หนักอึ้งของภาคินเพียงลำพัง
และในวินาทีนั้นเอง...ที่ความรู้สึกสงสารมันเอาชนะความเสียใจและความกลัว...กวินเดินข้ามถนนไปหาพวกเขา
“ให้...ให้ผมช่วยไหมครับ”
เจตหันมามองอย่างแปลกใจ แต่เมื่อเห็นว่าตัวเองคนเดียวคงไม่ไหวแน่ๆ เขาจึงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
