บทที่ 6 เรื่องวุ่นวาย
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาเป็นความลับ ไม่มีใครในบริษัทล่วงรู้เรื่องที่พวกเขาคบกัน ยกเว้นตุลย์เลขาของลายสิงห์
แม้ว่าจะผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ระหว่างคบกัน ซึ่งนับตั้งแต่วันนั้นที่คอนโดของเธอ อีกฝ่ายไม่ติดต่อมาหากัน มิหนำซ้ำไม่ได้เจอหน้ากันเลย
“นี่เราคบกันจริงเหรอ ไม่เห็นต่างกันสักนิด” ดวงตากลมโตมองดูเบอร์โทรในจอสมาร์ตโฟน ก่อนยกมือเรียวทาบอกข้างซ้ายด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบ
“แสง รู้เรื่องนั้นยัง”
“เรื่องอะไรของฟ้า แล้วตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น” หันมองคนมาใหม่พลางส่งยิ้มอ่อน
“ยังไม่รู้อีกเหรอว่านักรบถูกจับ”
“เขาทำอะไรผิด” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เธอแทบไม่ได้สนใจเรื่องของแฟนเก่าเลย
“เห็นว่ายักยอกเงินบริษัท” น้ำฟ้าหันมองซ้ายขวา แล้วกระซิบบอกแสงดาวให้ได้ยินแค่สองคน
“ตอนนี้เขาอยู่ไหน”
“โวยวายอยู่หน้าบริษัท ไม่ยอมให้ตำรวจพาตัวไป”
“เดี๋ยวฉันมานะ” แสงดาวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เพื่อจะไปหานักรบตามคำบอกของเพื่อนร่วมงาน
“จะไปไหนของเธอ คงไม่ได้จะไปช่วยมันใช่ไหม” น้ำฟ้าเดินมาขวางหน้าแสงดาว ไม่ยอมให้ไปเจอนักรบ
“ไม่ได้ไปช่วย วางใจได้เลย”
“อืม”
“เดี๋ยวฉันมา” แสงดาวรีบพุ่งไปยังที่หมายอย่างร้อนใจ ก่อนจะเห็นนักรบโวยวายลั่นไม่ยอมให้ตำรวจรวบตัว
เมื่อคนตัวเล็กปรากฏตัว นักรบพุ่งมาหาหญิงสาวทันใด
“ช่วยฉันด้วยนะแสง ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเลย คนพวกนั้นมันกล่าวหาฉัน” นักรบชี้ไปยังผู้คนมากมาย คว้ามือแสงดาวมากุมพร้อมส่งสายตาอ้อนวอน
“รีบพาไปเถอะ” เสียงเย็นของลายสิงห์แทรกขึ้น โดยแสงดาวไม่ทันได้เอ่ยบอกนักรบสักประโยค
“ครับ”
“กูไม่ไปไหน กูไม่ได้ทำอะไรผิดนะเว้ย” นักรบพยายามขัดขืนสุดฤทธิ์ แต่สุดท้ายไม่อาจรอดพ้นจนถูกพาไปในที่สุด
พ้นร่างของนักรบ แสงดาวถึงกับพ่นลมหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนสายตาคู่งามจะปะทะกับกายแกร่งของลายสิงห์จ้องมองมายังเธอครู่หนึ่ง และหันหลังเดินจากไป ไม่แม้จะเหลียวมองกัน
“เราทำอะไรผิดเหรอ ทำไมถึงมองกันแบบนั้น” ท่าทางของคนตัวโตทำเอาใจดวงน้อยปวดหนึบ
“มาคุยกับฉันหน่อย”
ขณะแสงดาวกำลังยืนเหม่อ จู่ ๆ ผิงผิงไม่รู้โผล่มาจากไหน ถือวิสาสะคว้าข้อมือเธอพาไปยังมุมหนึ่ง โดยไม่ถามความเห็นกันสักคำ
“อะไรของเธอ ผิงผิง” สะบัดข้อมือให้หลุดพ้นจากการเกาะกุมของอีกคน
“สะใจเธอแล้วใช่ไหม เธออยากเห็นฉันตกต่ำมากเลยสินะ”
“พูดบ้าอะไรของเธอ” แสงดาวไม่อยากแยแสกับถ้อยคำของอดีตเพื่อนสนิท จึงเดินผ่านหน้าอีกคนแต่ไม่วายถูกผิงผิงรั้งไว้
“ทำไมเธอถึงไม่แต่งงานกับนักรบ ล่มงานแต่งทำไม แค่แกล้งหลับหูหลับตาเรื่องฉันกับนักรบ มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ”
เพียะ! แสงดาวยืนทนฟังคำพูดของผิงผิงต่อไปไม่ไหว เพราะรู้สึกขยะแขยงเต็มทีจึงตบแก้มอีกคนอย่างจัง
“แทนที่จะสำนึกผิดกลับมาต่อว่าฉัน เธอนี่มันโคตรน่ารังเกียจที่สุด ที่ผ่านมาฉันดีกับเธอไม่พอเหรอ”
“เธอจะพูดอะไรก็ได้สิแสง เธอไม่ได้เกิดมากำพร้าเหมือนฉัน ไม่ต้องดิ้นรนเหมือนฉัน เธอมียายที่ดูแลเธอเป็นอย่างดี อยากได้อะไรก็ได้”
“นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เธอจะทำผิดกับฉันนะผิงผิง”
“ฮือ ๆ ฉันท้องกับนักรบ เธอช่วยฉันหน่อยได้ไหม เอาเงินมรดกที่ยายเธอทิ้งไว้ช่วยสู้คดีของนักรบหน่อย” ผิงผิงอ้อนวอนแสงดาวทั้งน้ำตา
“หมดคำจะพูดเลย”
คำพูดมากมายที่เปล่งจากปากของคนตรงหน้า แสงดาวถึงกับแค่นยิ้ม เธอไม่ได้รู้สึกสงสารผิงผิงสักนิดกลับสมเพชมากกว่า
“ช่วยฉันหน่อยนะแสง เธอคงไม่อยากเห็นลูกฉันไม่มีพ่อหรอกใช่ไหม”
“เรื่องของพวกเธอ ไม่เกี่ยวกับฉัน” เธอแกะมืออีกฝ่ายออกห่าง แล้วหันหลังเตรียมจะยกเท้าเดินจากไป
“ฉันไม่ได้แย่งนักรบมาจากเธอนะ เธอต่างหากแย่งเขามาจากฉัน”
“ว่าไงนะ!” คนกำลังจะยกเท้าจากไป หมุนตัวไปเผชิญหน้ากับอีกคน
“ฉันกับนักรบ เราคบกันมานานก่อนเขาจะเจอเธออีก เธอนั่นแหละเป็นฝ่ายแย่งเขาไปจากฉัน”
“ฉันเนี่ยนะแย่งเขามาจากเธอ ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนแนะนำเขาให้ฉันรู้จักเหรอ” ยิ่งฟังคำพูดของผิงผิง ยิ่งได้รับรู้ความจริงมากมาย รู้สึกสะอิดสะเอียนจนอยากพาตัวเองออกห่างคนตรงหน้าประเดี๋ยวนี้
“ถ้าครั้งนี้เธอไม่ช่วยฉัน ฉันจะเอาเด็กคนนี้ออกและฉันจะโทษว่าเป็นความผิดของเธอ”
“ไปซะ!!” แสงดาวพยายามข่มอารมณ์สุดขีด ไม่ให้ระเบิดใส่อีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยปากไล่อีกคนไปให้พ้นหน้า
“นี่เธอจะไม่ช่วยฉันจริง ๆ เหรอ”
“หลังจากนี้อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกนะ”
“งั้นเธอก็จำไว้เลย เธอได้ประกาศเป็นศัตรูกับฉันแล้วนะแสง” ผิงผิงกระแทกส้นเท้าและเดินจากไปด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์
“สรุปว่าเราผิดเหรอ” หญิงสาวพ่นลมหายใจเฮือกหนึ่งด้วยความรู้สึกมากมาย
บทเรียนในครั้งนี้ทำให้เธอได้รับรู้ว่าไม่ควรไว้ใจใครเกินขอบเขต พอถูกหักหลังขึ้นมาทำเอาปวดใจ แถมยังกลายเป็นผู้ร้ายอีกต่างหาก
“ช่างมันเถอะ เลิกคิดดีกว่า” สลัดความคิดในหัวทิ้งพร้อมยกเท้าเล็กไปเบื้องหน้า ก่อนหยุดชะงักเมื่อปะทะกับคนตัวโต
“จะไปไหน”
“ทำงานค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” แสงดาวก้มหน้าเดินผ่านลายสิงห์ได้ไม่กี่ก้าวก็หยุดชะงัก
“เย็นชากับคนที่คบกันจังเลยนะครับ”
“คนที่เย็นชาคือฝ่ายนั้นต่างหาก” เธอหมุนตัวไปปะทะกับประธานหนุ่ม
“คุณนั่นแหละแสง ผมอุตส่าห์ให้เบอร์ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ก็ไม่เห็นจะติดต่อมา” ลายสิงห์บอกอย่างน้อยใจในตัวหญิงสาว
“คุณไม่มีเบอร์แสงเหรอคะ” เธอทำหน้าเหวอ คาดไม่ถึงอีกคนจะไม่มีเบอร์มือถือของตัวเอง
“ไม่มี” สำหรับเขาหากต้องการเบอร์ของแสงดาวไม่ใช่เรื่องยาก ทว่าอยากให้คนตัวเล็กเป็นฝ่ายติดต่อมาเอง
“แล้วทำไมไม่ขอล่ะคะ”
“ก็ผมรอคุณติดต่อมา หรือเพราะว่าผมไม่สำคัญพอ คุณเลยไม่จำเป็นต้องสนใจ”
“ไม่ใช่นะคะ เข้าใจผิดแล้ว”
“ผมเข้าใจผิดว่าอะไรล่ะครับ” ลายสิงห์ดึงคนตัวเล็กเข้าสู่วงแขนพร้อมเอื้อมมือข้างหนึ่งลูบไล้พวงแก้มขาวเนียน
“ปล่อยนะคะ เดี๋ยวมีคนมาเห็น”
“คุณเป็นของผมนะครับ ผมไม่ยอมให้คุณสนใจใครมากกว่าตัวผม” พูดจบ ชายหนุ่มประทับจูบลงบนหน้าผากเกลี้ยงเกลา แล้วเลื่อนมายังแก้มนวล
“อื้อ คุณสิงห์”
“เดี๋ยวเย็นนี้ผมไปหานะครับ” เขาปล่อยเธอเป็นอิสระ แล้วเดินจากไปทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น
“คนนิสัยไม่ดี ทำไมชอบทำให้คนอื่นหวั่นไหว” เสียงหวานพึมพำพร้อมเอื้อมมือทาบแก้มข้างซ้าย ใจดวงน้อยเต้นระรัวแทบไม่เป็นจังหวะ
