9/3
“พี่โดมรู้ และพี่โดมก็เสียดายที่ต้องแต่งงานกับฮันน่า แทนที่จะเป็นเธอใช่มั้ยคะ”
ชวดลเงียบ โรฮันน่าถือว่าความเงียบเป็นการตอบรับ เธอมองสเต็กเนื้อในจานหน้าตาน่าทานจนต้องกลืนน้ำลาย ก่อนจะปัดความคิดว้าวุ่นออกแล้วหั่นเนื้อเข้าปาก อาหารที่เคยเป็นของโปรดกลายเป็นของจืดชืดไร้รสชาติจนกลืนไม่ลง ในเมื่อเขาไม่อยากตอบ เธอก็จะไม่ซักไซ้ไล่เลียอีกต่อไป ในเมื่อเขาเงียบ เธอก็จะเงียบให้ได้ครึ่งหนึ่งของเขา
สุดท้ายเมื่อชิ้นเนื้อชิ้นสุดท้ายเข้าปากอิ่ม ชวดลก็ลอบถอนใจ
“พี่ไม่เคยเสียใจหรือเสียดายที่ไม่ได้แต่งงานกับแก้วกันยา”
“เอ๊ะ!” โรฮันน่าวางมีดและส้อม จากนั้นจึงดื่มน้ำตาม เธอเพิ่งจะเริ่มรู้สึกว่ามันอร่อยก็ตอนคำสุดท้ายนี่น่ะหรือ
“พี่ไม่ได้รักแก้วกันยา แต่แก้วกันยาจะรู้สึกยังไงกับพี่ นั่นก็เป็นเรื่องที่พี่ขัดไม่ได้”
“หา...” คำตอบตรงๆ จากเขาครั้งนี้ทำเอาหญิงสาวอ้าปากหวอ อับจนคำพูดไปในบัดดล
“เรื่องของเรา พี่คิดทบทวนอยู่หลายตลบ ถึงตัดสินใจว่าเราควรจะแต่งงานกัน”
“คิดหลายตลบ! แต่งงานกับฮันน่าต้องคิดมากขนาดนั้นเลยรึไงกัน” ใช่สิ เธอมันเป็นยัยหมูตอนในอดีตที่ผันตัวมาเป็นนางฟ้า มายั่วให้ผู้ชายหลงรัก แต่ท่าจะยั่วไม่ขึ้น ไม่ว่าจะทำยังไง ชวดลก็ไม่มีทางหลงรักเธอ
“ทีฮันน่ายังคิดมากได้เลย แล้วทำไมพี่จะคิดมั่งไม่ได้” เขาบอกเสียงห้วน เรียกบริกรมาเช็คบิล “เลิกพูดถึงเรื่องนี้ได้แล้วนะ ต่อไปนี้ถ้าอยากรู้เรื่องอะไรของพี่ ไม่จำเป็นต้องแอบซุ่มตามคนที่คิดว่าเป็นกิ๊กพี่ไปอีก รู้ถึงไหนอายเขาไปถึงนั่น”
แสดงว่าเขารู้เรื่องที่เธอตามแก้วกันยาไปน่ะสิ โอย...น่าอายชะมัด
ชวดลเกือบหลุดหัวเราะเมื่อย้อนคิดไปถึงตอนที่เห็นโรฮันน่ายืนหลบมุมอยู่นอกห้องเสื้อ เขายืนมองเธออย่างสนใจใคร่รู้ว่าเธอมาทำอะไรตรงนี้ ถ้าอยากจะซื้อเสื้อแล้วทำไมไม่เข้าไปเลือก รอจนเห็นเธอเดินเข้าไปก็รู้ว่าเธอตามแก้วกันยากับชินวุฒิ ตอนนั้นเขาได้แต่มองไม่ออกไปแสดงตนให้รู้ตัว พอเห็นสีหน้าของเธอแล้วเขาจึงตัดสินใจเดินเข้ามาในร้านนี้
ชวดลกุมมือบางไว้แน่น เขาพาเธอเดินไปรอบห้างฯ แต่ไม่ยอมให้เธอหยุดหรือแม้แต่จะซื้อของอะไรให้เธอ เหมือนคู่รักที่จูงมือเกี่ยวก้อยกันทั่วไป แต่แล้วเขาก็พาเธอมาหยุดอยู่ที่ร้านเพชรชื่อดัง เจ้าของร้านรีบกุลีกุจอออกมาต้อนรับขับสู้หน้าตาเบิกบาน
“สวัสดีคุณชวดล วันนี้แวะมาที่นี่ได้แสดงว่าคุณน้องคนนี้ต้องเป็นคนสำคัญ”
โรฮันน่าไม่รู้ว่าเจ้าของร้านพูดไปอย่างนั้น หรือเพราะเห็นเขาจูงมือเธอกันแน่
“โรฮันน่าเป็นว่าที่เจ้าสาวของผมครับคุณโรส วันนี้ผมอยากได้เครื่องเพชรสักชุด เอาที่เหมาะสมกับเจ้าสาวคนสวยหน่อยนะครับ”
“ได้สิคะ เชิญด้านนี้เลยค่ะ”
เครื่องเพชร! อย่าบอกนะว่าเขาจะซื้อเครื่องเพชรให้เธอ โอ้มายก้อด นี่เขาถูกผีเข้าหรือเปล่าเนี่ย
“สำหรับคุณน้องหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาขนาดนี้ ก็คงต้องชุดเครื่องเพชรน่ารักๆ เช่นชุดนี้ นี่เป็นเพชรสีชมพูห้อมล้อมด้วยเพชรธรรมดา รวมกันแล้วก็ 10 กะรัต คุณน้องชอบไหมคะ”
10 กะรัต! นี่น่ะรึ ชุดเครื่องเพชรน่ารักๆ ที่เจ้าหล่อนว่า ถ้าเธอใส่มิต้องคอขาดหรอกรึ
“เอ่อ...ฮันน่าว่า มันมากไป อยากได้ที่มันเล็กๆ บางๆ กว่านี้ มีมั้ยคะ”
“ไม่มากหรอก แค่ 10 กะรัต มันมากตรงไหน มันยังน้อยไปสำหรับเจ้าสาวของพี่น่ะสิไม่ว่า”
“แต่ว่า...ฮันน่าไม่กล้าใส่ไปไหนหรอกค่ะ กลัวคอขาด”
ก็แน่สิ 10 กะรัตที่ว่า แถมยังมีเพชรสีชมพูล้ำค่าและหายากขนาดนี้ เธอมั่นใจว่าราคาของมันคงมากกว่า 7 หลัก ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นของล้ำค่าขนาดนี้นะ คุณพ่อคุณแม่ก็ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี สวมใส่เพชรล้ำค่าออกงานเสมอ แต่สำหรับเธอว่ามันไม่เหมาะสมกับเด็กที่เก็บมาเลี้ยงเลยสักนิด
“ฮันน่าจะต้องไปไหนมาไหนกับพี่อยู่แล้ว ต้องกลัวอะไร” เขาเอ็ด “ชุดนี้มีแหวนเพชรเข้ากันด้วยหรือเปล่าครับ”
อุ๊ย! ยังจะถามหาแหวนเพชรอีก
“มีสิคะ ทั้งชุดจะประกอบด้วยสร้อยคอ สร้อยข้อมือและแหวน แต่ว่าพี่โรสขอมือคุณน้องหน่อยสิคะ จะได้ลองแหวน”
ชวดลได้ยินก็จับมือนุ่มและแบมืออีกข้างขอแหวนจากเจ้าของร้าน เขาเลือกที่จะสวมแหวนวงนี้เข้าบนนิ้วนางข้างซ้ายของโรฮันน่า แล้วต้องทำเสียงบางอย่างเมื่อขนาดของแหวนพอดีเป๊ะกับนิ้วเรียวๆ ของเธอ
“ต๊าย! ใส่ได้พอดีเลย แสดงว่าเครื่องเพชรชุดนี้ผลิตขึ้นมาเพื่อคุณน้องโดยเฉพาะ”
คุณพี่ก็พูดเกินไป เธอแค่ฟลุ๊คที่สวมแหวนได้พอดีต่างหาก
“งั้นผมรับชุดนี้ก็แล้วกันนะครับ”
“โรสจะให้ส่วนลดคุณชวดล 30% เพราะเครื่องเพชรชุดนี้โรสได้มาจากเอ.เค.พี.กรุ๊ปน่ะค่ะ ในเมื่อทายาทเอ.เค.พี.กรุ๊ป อุตส่าห์เลือกที่จะซื้อเพชรจากร้านเรา ก็ต้องมอบสิทธิพิเศษกันหน่อย”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถือว่าผมช่วยอุดหนุนคุณโรสก็แล้วกัน ที่แวะมานี่ก็เพราะอยากทำอะไรเงียบๆ กันตามลำพังมากกว่า คุณโรสคิดตามราคาขายจริงได้เลยนะครับ ผมยินดีจ่าย”
“ว้าว! ขอบคุณมากนะคะคุณชวดล ชุดนี้ราคาอยู่ที่ 15 ล้านบาท ค่ะ”
“15 ล้าน! เอ่อ...ทำไมแพงจังล่ะคะ” โรฮันน่าเก็บอาการไม่อยู่ เงิน 15 ล้าน ไม่มากสำหรับคนในตระกูลอัครเดชไพศาล ถึงเป็นอันโตนิโอก็เถอะ เงินแค่นี้น่ะจิ๊บๆ แต่สำหรับเธอ แค่ได้ยินและกำลังจะเป็นเจ้าของก็แทบเป็นลมแล้ว
