9/2
“อุ๊ย!” โรฮันน่าหมุนตัวก็ชนเข้ากับหญิงสูงวัยคนหนึ่ง “ขอโทษค่ะคุณยาย” เธอละล่ำละลักบอกพร้อมกับช่วยพยุงหญิงสูงวัยร่างท้วม แล้วก้มลงเก็บข้าวของที่ทำตก “ขอโทษจริงๆ นะคะ หนูไม่ได้ตั้งใจจะชน” เก็บไปก็พร่ำขอโทษขอโพยไปตลอด
“ไม่เป็นไรหรอกอีหนู” ยายตอบแล้วรับถุงใส่สัมภาระคืนจากหญิงสาว “ยายไม่เป็นอะไรหรอก”
“คุณยายไม่เป็นอะไรแน่นะคะ”
“แน่สิ หนูนี่สวยนะ สวยมากทีเดียว มีแฟนหรือยังล่ะ”
คำถามนี้จุดประกายระเรื่อขึ้นบนใบหน้าหวานๆ โรฮันน่ายิ้มบางๆ ก่อนพยักหน้า
“นั่นสินะ สวยๆ แบบนี้คงต้องมีแฟนอยู่แล้ว ถ้างั้นยายจะให้หนังสือหนูเล่มหนึ่ง” ว่าแล้วยายก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า แล้วส่งหนังสือให้หญิงสาว
โรฮันน่ารับมาถือไว้อย่างงงๆ แต่พอพลิกหนังสือเห็นชื่อเข้าแล้วก็แทบจะปั้นหน้าไม่ถูก
“หนังสือเล่มนี้ยายตั้งใจจะมอบให้หลานในวันแต่งงานของเค้า แต่เค้าก็จากยายไปเสียก่อน เจ้าบ่าวก็เลยต้องร้างหอ”
“ตายจริง!”
“รับไปเถอะนะ ยัยปิ่นหลานยายเป็นคนที่ไม่เก่งงานบ้านงานเรือน เป็นสาวทันสมัยที่วิ่งตามแฟชั่นอยู่ตลอดเวลา จนลืมไปว่าผู้หญิงเราก็มีภาระหน้าที่ที่สำคัญในครอบครัว มากกว่าผู้ชายเสียอีก หนูรับเอาไว้เถอะ เชื่อยาย หนังสือเล่มนี้จะสอนให้หนูรู้จักการใช้ชีวิต แม้มันจะดูโบร่ำโบราณคร่ำครึไปบ้าง แต่บรรพบุรุษก็มัดใจสามีอยู่หมัดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ” โรฮันน่าพนมมือไหว้ขอบคุณคุณยาย “คุณยายจะไปไหนคะ เดี๋ยวหนูเดินไปส่ง”
“อ้อ...ไม่ต้องหรอก ยายอยู่ใกล้ๆ แถวนี้ หนูไปเถอะ คนที่รออยู่จะได้ไม่ต้องรอนาน ยายไปล่ะนะ”
หญิงสาวมองยายเดินจากไปช้าๆ ท่าทางยายก็ดูแข็งแรงดี เธอจึงไม่เป็นห่วงมาก ดวงตาสีมรกตหลุบลงมองหนังสือในมือ ‘คอร์สการเป็นภรรยา’ คือชื่อหนังสือเล่มนี้
“ดีนะ ก่อนหน้านี้ก็หาซื้อร้อยแปดท่าลีลามัดใจ พอใกล้จะแต่งงานกลับได้หนังสือคอร์สการเป็นภรรยามาแทน คุณยายคะ ฮันน่าคงต้องเปิดอ่านมันจริงๆ จังๆ ใช่มั้ยคะ เพราะเล่มเก่าฮันน่ายังอ่านไม่จบเลยค่ะ”
เธอถอนใจก่อนจะเดินตามหาชวดลโดยไม่ได้โทรถาม เพราะอยากรู้ว่าเขาจะรู้ใจเธอหรือเปล่า เมื่อก่อนเขารู้ดีว่าเธอชอบหรือไม่ชอบทานอะไร ถึงจะชอบกลั่นแกล้งแต่เขาก็เป็นผู้รู้ที่น่าเคืองมากที่สุด ขนมนานาชนิดที่เขาให้เธอทานก็เป็นของโปรดที่ขาดไม่ได้นับจากนั้น
ถึงวันนี้ เวลานี้ และวินาทีนี้ ชวดลจะยังจำมันได้หรือเปล่าไม่รู้
โรฮันน่าเดินตรงไปยังร้านสเต็กซึ่งเป็นอาหารจานโปรดของเธอเสมอมา แอบหวังว่าจะเห็นร่างสูงนั่งอยู่ในนั้น แล้วก็ต้องผิดหวังพลันถอนใจเมื่อไร้วี่แววของเขา
“มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่เข้าไป” เสียงห้าวห้วนดังอยู่เบื้องหลัง ทำเอาเธอถึงกับขนลุกแล้วหันขวับไปยังต้นเสียง ชวดลนั่นเอง เขามายืนอยู่ข้างหลังเธอทำไม
“แล้วพี่โดมล่ะคะ ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้”
“ก็พี่รอเธอนานมาก จนนึกว่าเธอหนีกลับบ้านไปอีกแล้วน่ะสิ”
“รอ? พี่โดมรอฮันน่าอยู่ในร้านนี้เหรอคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ สเต็กเป็นอาหารที่เธอชอบทานมากที่สุดรองจากขนมหวานไม่ใช่เหรอ”
เขาจำได้! โอ๊ย!! โรฮันน่าอยากจะกรี๊ดให้ลั่น
“พี่โดม...จำได้หรือคะ”
“พี่ไม่ใช่คนความจำสั้นนะ อีกอย่างเธอก็ชอบสั่งให้แม่ครัวทำให้ทานบ่อยไป ใครจะลืมได้ล่ะ”
หัวใจพองโตพลันแห้งเหี่ยวในบัดดล ที่แท้เขาจำได้ก็เพราะเธอชอบสั่งให้แม่ครัวทำงั้นเหรอ อิโธ่เอ๊ย ไม่น่าหลงดีใจเลยยัยฮันน่า
“แล้วนั่นหนังสืออะไร”
โรฮันน่ารีบเอาหนังสือใส่กระเป๋าสะพาย แล้วปฏิเสธหน้าตาย “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” เธอจะให้เขารู้เรื่องหนังสือนี่ไม่ได้ ถ้าเขารู้คงไม่วายเยาะเย้ยล้อเลียนว่าเธอไม่เอาไหนจนต้องพึ่งตำราแน่เลย
“ส่งมาให้พี่ดูเดี๋ยวนี้”
“พี่โดมจองโต๊ะเอาไว้รึยังคะ โต๊ะไหนเอ่ย” เธอเฉไฉเดินนำเข้าร้านก่อน เห็นโต๊ะว่างอยู่โต๊ะหนึ่งวางป้ายไว้ว่าจองแล้ว ก็เดินตรงไปหา “ใช่โต๊ะนี้หรือเปล่าคะ”
“ใช่” ชวดลตอบแบบเสียไม่ได้ แล้วก็ใช้ความเร็วแย่งกระเป๋าสะพายมาจากเธอ
“พี่โดม! ทำอะไรคะ เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะ”
“พี่จะดูหนังสือ” เขาบอกแล้วดึงหนังสือออกมา
“อย่านะ พี่โดมจะดูทำไม นั่นมันเรื่องของผู้หญิง เอามานะ” โรฮันน่าออกคำสั่งเสียงเข้ม พอเห็นไม่ยอมแล้วยังอ่านชื่อหนังสือที่คุณยายมอบให้ ก็ยิ่งหน้าระเรื่อขัดเขินเต็มกำลัง ภาวนาขออย่าให้เขาล้อเลียนเธอเลย
“แล้วไป” ชวดลบอก เก็บหนังสือให้เรียบร้อยโดยไม่ล้อเลียนเธออย่างที่คิด “พี่นึกว่าเธอจะอ่านหนังสือแปลกๆ เหมือนครั้งที่แล้วอีก”
“...” โรฮันน่าไม่ตอบ เธอรับกระเป๋าที่ยื่นส่งมาหน้าแทบเป็นกระชาก ใบหน้าสวยหวานงอง้ำเป็นปลายจวัก เรียกรอยยิ้มบางๆ จากคนมองได้ไม่ยาก
สเต็กจานโปรดถูกนำมาวางให้ตรงหน้า เขาสั่งของโปรดให้เธอทั้งหมดอย่างจำได้ดีว่าเธอชอบหรือไม่ชอบอะไร หญิงสาวนึกดีใจที่อย่างน้อยเขาก็อุตส่าห์ยังไม่ลืม
“พี่โดมคะ เมื่อกี้ฮันน่าไปเจอคุณแก้วกันยา เธอมากับ...”
“นายชินวุฒิ”
“ค่ะ เธอบอกว่าคุณชินวุฒิเป็นแฟนของเธอ”
“ใช่”
