5/1
โรฮันน่ากำลังยืนมองชุดสวยที่อุตส่าห์ออกไปซื้อมาใส่ ตอนนี้มันขาดจนน่าใจหาย เธอตัดใจโยนมันลงถังขยะในห้องนอน หย่อนสะโพกลงนั่งบนชิงช้าหวายซึ่งตั้งอยู่ริมหน้าต่าง เธอคิดไปถึงตอนที่เพิ่งกลับมาบ้าน สีหน้าของคุณยาย คุณพ่อ และคุณแม่ดูไม่แตกต่างกันเท่าใดนัก ก็แหมเป็นใครก็ต้องมองมาด้วยสายตาเป็นคำถามทั้งนั้น เมื่อเห็นเธอกลับบ้านในอีกชุดหนึ่งต่างจากชุดตอนขาไป เธอรู้ว่าพวกท่านคงมีคำถามมากมายอยากจะถาม แต่เธอก็ชิ่งหนีขึ้นห้องมาเสียก่อน ปล่อยให้ชายหนุ่มรับหน้าไปตามลำพัง ช่วยไม่ได้ก็อยากสร้างเรื่องขึ้นมาทำไม ชิ!!!
แต่ชุดนี้ดูๆ ไปก็สวยดีเหมือนกันนะ สีเดียวกับดวงตาของเธอเลย อยากรู้จังว่าชวดลซื้อมาไว้ให้ใคร
“นั่งเหม่อลอยคิดถึงใครอยู่”
หญิงสาวตกใจจนสะดุ้ง จู่ๆ ชวดลก็มายืนอยู่ข้างๆ ตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ
“พี่โดม! เข้ามาทำไมคะ” เธอลุกพรวดก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันควัน แล้วเหลือบตาไปมองประตูห้องที่เชื่อมต่อกัน เห็นมันเปิดกว้างอยู่ก็เข้าใจว่าเขาคงเข้ามาจากทางนั้น
“ฉันไม่ได้คิดจะเข้าข่มขืนเธอหรอกนะ อย่าทำหน้าเหมือนเจอโรคจิตอย่างนั้น” เขาว่าให้พลางหย่อนสะโพกนั่งบนขอบเตียงอย่างถือวิสาสะ
“ก็ห้องนี้มันเป็นห้องส่วนตัวของฮันน่า แล้วอยู่ดีๆ ก็มีคนอื่นเข้ามาแบบไม่ได้รับอนุญาต ฮันน่าก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา” จริงนะ เธอไม่ได้แก้ตัวเลยสักนิด
“แล้วทีเธอเข้าไปในห้องฉันโดยไม่ได้รับอนุญาตล่ะ แถมยังลงไปนอนสบายใจเฉิบอยู่บนเตียง ฉันไม่ตกใจมากกว่าเธอเหรอ”
“ฮึ...เรื่องนั้นฮันน่าขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย แค่เผลอหลับไปผล็อยเดียวเอง แล้วพี่โดมเข้ามาทำไมคะ”
“ฉันจะเข้ามาบอกให้เธอเตรียมตัว” เขาบอกเสียงเรียบ
“เตรียมตัวเรื่องอะไรคะ”
“คืนนี้ฉันจะพาเธอออกไปท่องราตรี เตรียมตัวไว้นะ แล้วฉันจะมาเคาะประตูเรียกตอน 2 ทุ่ม”
ว่าแล้วร่างสูงก็ลุกขึ้น เขาเดินกลับห้องโดยไม่รอให้เธอตอบรับหรือปฏิเสธ ทว่า...ร่างสูงเดินไปถึงประตูก็หันกลับมาบอก
“เธอใส่ชุดนี้แล้วสวยดีนะ”
“ปัง” เสียงปิดประตูไปแล้ว แต่เธอก็ยังยืนนิ่งอยู่เช่นเดิม เขาเป็นอะไรของเขา อยู่ๆ ก็นึกจะชมเธอขึ้นมา โรฮันน่าเดินไปมองตัวเองในกระจก แล้วเห็นด้วยกับคำพูดของเขาเป็นที่สุด ก็ชุดนี้มันคล้ายจะถูกตัดมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ ทั้งสีและขนาด ยกเว้นช่วงเอวที่ดูจะหลวมๆ ไปนิด
เฮ้อ...ก็ไม่ใช่ชุดของเธอ อะไรๆ จะพอดีเป๊ะคงเป็นไปไม่ได้
“จะออกไปไหนกันล่ะลูก” ชวนนท์ อัครเดชไพศาล พาร่างสูงของตัวเองมาหยุดอยู่ไม่ห่างโรฮันน่า วันนี้เขากลับบ้านช้าเพราะหลังจากส่งลูกค้าที่สนามบินด้วยตัวเอง ก็ต้องกลับไปเอาเอกสารสำคัญที่บริษัท เพื่อจะเอากลับมาทำต่อที่บ้าน
“ฮันน่าจะไปกับพี่โดมค่ะลุงฌอห์น”
“อ้าว...คุณพ่อเพิ่งกลับหรือครับ มิสเตอร์คิมุระเป็นยังไงบ้างครับ เขาตกลงซื้อขายเพชรกับเราไหม”
“เขายินดีจะเป็นลูกค้าคนสำคัญของเรา นี่จะไปเที่ยวไหนกัน หรือว่า...”
“ครับ ผมจะพาฮันน่าไปท่องราตรีในแบบฉบับของชวดล” บุตรชายบอกยิ้มๆ แต่ชวนนท์กลับมองเขาแปลกๆ สายตาของคนเป็นพ่อมองลูกอย่างพิจารณา เช่นเดียวกับที่มองหญิงสาว มันทำให้ชวดลรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เหมือนคนจะเป็นไข้ขึ้นมาดื้อๆ
“พาน้องไป ก็ดูแลน้องให้ดีๆ ล่ะ เข้าใจมั้ยโดม”
“ครับคุณพ่อ”
ชวนนท์เพียงแค่พยักหน้าแล้วเดินผ่านหน้าไปเงียบๆ โรฮันน่ามองตามร่างสูงสง่างามนั้นแล้วต้องนึกชื่นชมอยู่ในใจ ก็ลุงฌอห์นของเธอทั้งหล่อเหลา ทั้งสง่าผึ่งผาย แม้วัยจะล่วงเลยมามากแต่ก็ยังดูหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวไม่ต่างจากอดีต
“เธอจะมองพ่อฉันให้ทะลุไปถึงหัวใจเลยมั้ย จะไปกันได้รึยัง”
ชวดลเอ็ดหญิงสาวที่มัวแต่มองบิดาด้วยดวงตาเคลิ้มฝัน
“ค่ะ ไปค่ะไป” โรฮันน่าสาวเท้าตามร่างสูงไปขึ้นรถเฟอร์รารี่ในฝัน ครั้งที่สองสำหรับการนั่งรถในฝัน ก็ยังทำให้เธอตื่นเต้นไม่หาย ชายหนุ่มผู้เป็นสารถีแอบอมยิ้มไม่ให้เธอเห็น แต่พอมองต้นขาขาวที่โผล่พ้นชุดรัดรูปสีดำเปรี้ยวเฉี่ยว ก็ต้องถอนฉุน
“เธอนี่คงจะชอบการแต่งตัวชวนปล้ำเสียเหลือเกินนะ”
โรฮันน่าก้มลงมองชุดตัวเอง ตั้งแต่หุ่นดีขึ้นมา เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลงใหลการแต่งตัวอวดเรือนร่างแบบนี้ ผิดด้วยหรือก็เมื่อก่อนเธอได้แต่มองตาปริบๆ เวลาที่เห็นคนหุ่นดีใส่ชุดพวกนี้นี่นา ถึงเวลาที่เธอจะใส่ได้บ้างก็เลยไม่รอช้า คนสวยหุ่นเพอร์เฟคอย่างเธอ ใส่แบบนี้ก็สวยดีไม่ใช่เหรอ
“ก็สวยดีนี่คะ”
“ฉันไม่ปฏิเสธว่ามันสวย แต่ไอ้ชุดนี้มันก่อให้เกิดปริมาณอาชญากรในประเทศเพิ่มขึ้น ข่าวคราวก็ออกครึกโครมว่าผู้หญิงถูกข่มขืนเพราะแต่งกายยั่วกิเลสแบบนี้ ไม่กลัวบ้างรึไง”
“พี่โดมน่ากลัวกว่า”
รถเฟอร์รารี่คันงามกระตุกฉึก สารถีหนุ่มหล่อหันมาแยกเขี้ยวใส่เธอหน้าดุดัน
“ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือนแล้วกัน”
แล้วรถสปอร์ตสุดซิ่งก็เร่งสปีดชนิดที่ว่าเร็วแรงทะลุนรก
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่ที่รู้ก็คือมันเร็วมาก เร็วจนเธอนั่งตัวสั่นใจสั่นขาแข้งก้าวไม่ออก เมื่อยามที่รถคันงามจอดลงแล้ว ร่างสูงของสารถีหนุ่มจำต้องย้อนกลับมากระชากประตูเปิดออก แล้วถามเสียงขรมด้วยอารมณ์ไม่สู้จะดีนัก
“ลงมาได้รึยัง หรือว่าฉันต้องอุ้มเธอด้วย”
