2/2
“คุณแม่ขาคุณพ่อขา เมื่อไหร่เราจะกลับโรมกันซะทีล่ะคะ” โรฮันน่าถามบิดาและมารดาในตอนที่นั่งทานอาหารเช้าร่วมกันบนโต๊ะอาหาร
“ฮันน่าอยากกลับบ้านแล้วเหรอลูก หนูเพิ่งจะมาได้วันเดียวเองนะ” คุณยายชิดกมลถามหลานสาว
“หนูร้อนวิชาค่ะคุณยาย อยากกลับไปหางานทำที่บ้าน”
“หางานทำเหรอ ไม่พักสักนิดเหรอลูก ฮันน่าเพิ่งเรียนจบเองนี่นา” คุณยายชิดกมลถามอีกครั้ง
“ใช่ลูก ฮันน่าอยู่พักผ่อนที่เมืองไทยก่อนไม่ดีเหรอลูก” ชัชรินทร์เสริม
“แต่ฮันน่าเบื่อๆ และก็เหงาด้วยนี่คะ ถ้าได้ทำงานก็คงจะดี”
“ฮันน่าเบื่อยายแล้วเหรอลูก เฮ้อ...ไอ้เรามันเป็นคนแก่นี่เนอะ จะให้เด็กสาวๆ มาคอยอยู่ใกล้ๆ เป็นเพื่อนคุยนานๆ ได้ยังไงกัน” คุณยายชิดกมลแสร้งตัดพ้อ
โรฮันน่าลุกขึ้นจากเก้าอี้ ตรงไปโอบเอวหนาของคุณยายเอาไว้แน่น พร้อมกับหอมแก้มเหี่ยวๆ ของคุณยายอย่างประจบและแสนรัก
“ฮันน่าไม่ได้เบื่อคุณยายนะคะ แต่ฮันน่าเป็นคนอยู่นิ่งๆ ไม่เป็น พอเรียนจบฮันน่าก็อยากทำงานเลยค่ะ ไม่อยากให้เสียเวลาไปเปล่าๆ อีกอย่างถ้าไม่รีบทำงานตอนนี้เดี๋ยวฮันน่าก็เอาความรู้เก็บเข้ากรุไปหมดกันพอดี” สาวน้อยบอก และปรายตามองร่างสูงที่ดูจะตั้งหน้าตั้งตาและตั้งใจทานจนไม่สนใจกับสิ่งรอบข้าง
“เอาอย่างนี้ดีมั้ยลูก ฮันน่าก็ไปช่วยงานพี่โดมที่บริษัทสิ จะได้เรียนรู้งานจากพี่เค้าด้วย”
“คุณย่าครับ พนักงานของผมไม่มีใครลาออกนะครับ ผมคงไม่มีตำแหน่งว่างให้โรฮันน่าหรอกครับ” ชวดลรีบแย้งอาหารมื้อนี้หมดความอร่อยไปทันที แค่นึกว่ายัยน้องน้อยจะไปก่อความรำคาญถึงที่บริษัท เขาก็นึกเซ็งล่วงหน้า
“ตาโดม ย่าหมายความว่าแค่ให้ฮันน่าได้ฝึกงานเท่านั้น ไม่ได้ให้เข้าไปทำงานแทนใครนี่นา เอ.เค.พี.ออกจะใหญ่โตขนาดนั้นงานคงต้องมีมาก ถ้าจะให้ฮันน่าเข้าไปฝึกงานช่วยแบ่งเบาภาระบ้างก็คงไม่เสียหายอะไรนี่ ว่ามั้ยพ่อราฟ” คุณชิดกมลหันไปขอความเห็นจากลูกเขาย
“ผมว่าถ้าฮันน่าไม่ทำตัวให้เป็นปัญหากับตาโดมเกินไป ก็น่าจะดีนะครับคุณแม่ ถือเป็นการเรียนรู้งานไปด้วยเลย เพราะต่อไปก็ต้องประสานงานกันอยู่แล้ว”
“แต่ว่า...ผมไม่มีเวลาจะสอนงานใครหรอกนะครับ” ชวดลรีบปฏิเสธเสียงดัง เลยได้สายตาจากทุกคู่บนโต๊ะอาหารมองมายังเขาราวกับเป็นตัวประหลาดมีเขางอกออกมาบนหัว
“ตาโดม ย่าว่าเราไม่น่าจะยุ่งถึงขนาดนั้นหรอกนะ อีกอย่างฮันน่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นน้องของโดมเอง แล้วทำไมเรื่องแค่นี้จะช่วยน้องหน่อยไม่ได้”
โรฮันน่าแกล้งตีหน้าเศร้าอย่างน่าสงสารส่งให้พี่ชายซึ่งนั่งหน้าบอกบุญไม่รับ แต่ชายหนุ่มเห็นแววตาคู่นั้นเป็นประกายแพรวพราวไม่ได้มีวี่แววแห่งความเสียใจเลยสักนิด
“โดม ถือซะว่าช่วยสอนงานให้น้องก็แล้วกันนะลูก” คุณชิดกมลเน้นย้ำ
“ครับ ก็ได้ครับคุณย่า” ในที่สุดก็จำใจต้องรับปาก และส่งตาเขียวๆ ให้โรฮันน่า ซึ่งหญิงสาวก็กะพริบตาปริบๆ ตอบกลับมาอย่างน่าหยิก
โรฮันน่าแทบจะกระโดดตัวลอยและโห่ร้องด้วยความดีใจ แต่ต้องเก็บอาการดีใจของตัวเองไว้จนมิดชิด
“ถ้างั้นฮันน่าขอเริ่มงานพรุ่งนี้นะคะ วันนี้ขอไปซื้อชุดทำงานก่อน”
“ได้สิจ๊ะ” คุณยายชิดกมลลูบศีรษะหลานสาวอย่างแสนรัก
“ฮันน่ารักคุณยายที่สุดเลยค่ะ” เธอบอก ปรายตาพราวระยับให้ร่างสูงฝั่งตรงข้าม
โรฮันน่าเดินนวยนาดลงมาจากชั้นบนส่งยิ้มพรายให้ทุกคนบนโต๊ะอาหาร ทุกคนในที่นั้นต่างอ้าปากค้างเมื่อเห็นร่างระหงที่เดินนวยนาดลงมา ชุดที่หญิงสาวใส่นั้นดูก้ำกึ่งกันระหว่างชุดทำงานและชุดราตรี เนื้อผ้าที่รัดรูปร่างแนบสนิทนั้น อวดความงามของเรือนร่างอรชรแม้ไม่ต้องถอดออกเลยด้วยซ้ำ ด้านบนมีเสื้อคลุมให้พอดูไม่น่าเกลียด แต่ไม่อาจปิดบังเนินอกขาวผ่องที่โผล่พ้นออกมาจากคอเสื้อได้
“ฮันน่า! ทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะลูก” ชัชรินทร์ถามทันทีที่ลูกสาวเดินลงมาถึงด้านล่าง
“ทำไมคะคุณแม่ ฮันน่าว่าสวยออกค่ะ” โรฮันน่าเดินเข้าไปกอดเอวหนาของคุณยาย และหอมแก้มเหี่ยวๆ ฟอดใหญ่อย่างน่ารัก “จริงมั้ยคะ คุณยายขา”
“นั่นสิ ใส่ไปเถอะลูก ไม่ต้องไปแคร์ใครเค้า ข้างบนก็มีเสื้อคลุมไม่เห็นจะน่าเกลียดตรงไหนเลย”
ชวดลลุกพรวดจากเก้าอี้
“ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” ชายหนุ่มหันไปคว้าเสื้อสูทที่พาดอยู่บนเก้าอี้ แล้วเดินดุ่มๆ ออกไปไม่รอให้ใครอนุญาต เป็นเหตุให้โรฮันน่าต้องวิ่งตามไปทันควัน
“เดี๋ยวสิคะ ใจคอพี่โดมจะทิ้งฮันน่าตั้งแต่วันแรกของการทำงานเลยเหรอคะ” หญิงสาวต่อว่ากรายๆ แต่ชวดลทำเป็นไม่สนใจ เดินไปเปิดประตูรถเข้านั่งประจำที่
“ใจดำจริงๆ ด้วย นี่ตั้งใจจะทิ้งฮันน่าจริงๆ ใช่มั้ยคะ” สาวน้อยหย่อนก้นนั่งได้ก็ตวัดขานั่งไขว่ห้างขวับ ชายกระโปรงรัดรูปที่สั้นประมาณ 2 คืบ ร่นขึ้นสูงอวดขาเนียนสวยอย่างจงใจ ครั้งนี้ไม่ใช่การเผลอไผล ไม่ทันระวังตัว แต่เกิดจากความจงใจเต็มร้อย
ชวดลปรายตามองชั่วแว่บ แล้วเอ่ยเสียงดุ กรามกระตุกขึ้นเป็นริ้วๆ
“กรุณานั่งให้มันเรียบร้อยหน่อย เป็นสาวเป็นนางแม้จะเติบโตที่เมืองนอกเมืองนา แต่นี่มันประเทศไทย ช่วยเคารพขนบธรรมเนียมประเพณีที่ยึดถือกันมาเนิ่นนานด้วย”
“โอ๊ะโอ...แล้วฮันน่าทำผิดขนบธรรมเนียมประเพณีที่ว่ายังไงเหรอคะ” โรฮันน่าหันหน้าเข้าหาชวดล และแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้
“วันหลังถ้าจะไปทำงานด้วยการแต่งกายไม่เหมาะสมแบบนี้ ก็กรุณาไปเองแล้วกัน เพราะฉันไม่อยากให้ใครมานินทาว่าพาผู้หญิงที่ไหนมาทำงานด้วย”
