10/1
รามิลรู้ดีว่าโรฮันน่ามีใจให้ชวดลมานานแค่ไหน น้องสาวของเขาเปลี่ยนแปลงตัวเองก็เพื่อผู้ชายคนนี้ คนที่เธอบอกว่าจะต้องทำให้เปลี่ยนคำพูดที่เรียกเธอว่ายัยหมูตอน เป็นใครก็ต้องรู้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งทำได้ถึงขนาดนี้เพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่เพราะมีใจให้แก่ผู้ชายคนนั้น แต่ชวดลจะรู้หรือไม่ รามิลไม่รู้ เพราะชวดลเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่งมาแต่ไหนแต่ไร ถึงจะรู้ก็อาจแสร้งทำเป็นไม่รู้
“เอ่อ...เรื่องมันย้าวยาวค่ะพี่ราม เล่าตอนนี้ ปีนึงก็ไม่จบ”
“เว่อร์น่า เพิ่งจะมาอยู่เมืองไทยไม่กี่เดือน ต้องถึงขนาดเล่าเป็นปีเชียวเหรอ”
“แหะๆ แล้วพี่รามจะอยู่เมืองไทยอีกกี่วันคะ” คนเป็นน้องเปลี่ยนเรื่องคุย ไม่อยากเล่าให้พี่ชายฟังว่าเธอกล้าบ้าบิ่นขนาดไหน กว่าจะได้มาแต่งงานกับชวดล
“พี่คงอยู่แค่ 3 วัน เท่านั้น เพราะจะต้องกลับไปเคลียร์งานต่อ” รามิลตอบ ดันตัวน้องสาวออกห่างจนสุดช่วงแขน สำรวจความงามของเธอด้วยสายตา “น้องพี่สวยมาก ขนาดพี่ยังตะลึง แล้วเจ้าบ่าวของเธอจะขนาดไหน”
“พี่รามล่ะก็ ล้อฮันน่าอีกแล้ว”
“ไปเถอะ พี่ขึ้นมารับ ได้ฤกษ์สำหรับพิธีการแล้ว” ว่าแล้วก็จูงมือคนเป็นน้องในชุดเจ้าสาวแสนสวยสีงาช้าง ทว่าเจ้าสาวกลับขืนตัวรั้งไว้ ทำเอาพี่ชายต้องหันมามองอย่างฉงน
“พี่รามคะ ฮันน่า...”
“เดินหน้ามาถึงขั้นนี้แล้วยังจะกลัวอะไรอีก น้องพี่เก่งมาตลอด ทำทุกอย่างให้ผ่านพ้นด้วยดีด้วยตัวเองเสมอ ถ้าฮันน่าถอยทุกอย่างที่อดทนทำมาก็จะสูญเปล่า”
“แต่ว่า...” โรฮันน่ายังอึกอัก เธอกำลังกลัวการที่ต้องเข้าพิธีแต่งงานกับคนที่ตนรัก แต่เขาไม่ได้รักเธอ กลัวความเจ็บปวดใจที่จะตามมาในภายภาคหน้า
“ถ้าฮันน่ารักเขา พี่เชื่อว่าเขาต้องรักน้องสาวพี่ ไม่งั้นคนอย่างชวดลคงไม่ยอมแต่งงานกับใครง่ายๆ”
“เรื่องนั้นมันเป็นความผิดของฮันน่าเองค่ะ ฮันน่าทำตัวเอง พี่โดมก็แค่ต้องการจะรับผิดชอบ” เธออธิบาย แค่นี้รามิลก็รู้แล้วถึงสาเหตุที่ชวดลต้องแต่งงานกันหญิงสาว
“ถ้ามันไม่รับผิดชอบ พี่สาบานว่าจะชกหน้ามันให้คว่ำ ยิ่งเป็นแบบนี้ฮันน่ายิ่งถอยไม่ได้ การแต่งงานไม่ใช่จุดสิ้นสุดแล้วล่ะ แต่มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ฮันน่าจะต้องทำ น้องพี่ออกจะสวยและน่ารักขนาดนี้ พี่เชื่อว่าฮันน่าจะต้องทำให้นายโดมรักได้แน่”
รามิลเริ่มแน่ใจว่าน้องสาวทำสำเร็จไปแล้ว 50% หรือเกินกว่านั้น เพราะคนอย่างชวดลเป็นคนไม่ยอมใคร ยิ่งเรื่องผู้หญิงกิติศัพท์ความเป็นเพลย์บอยหน้าเข้มก็การันตีแล้วว่า ผู้ชายคนนั้นไม่ยอมให้ใครจับเขาเข้าพิธีแต่งงานถ้าเจ้าตัวไม่สมัครใจ แล้วไอ้ความสมัครใจก็ย่อมต้องมาจากความพึงพอใจในระดับหนึ่ง ซึ่งก็มากพอที่จะตัดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อจะร่วมหอลงโลงกับผู้หญิงคนหนึ่ง
ถ้ารามิลจะคิดเข้าข้างตัวเองอีกสักนิด เขาก็คิดว่าชวดลรักโรฮันน่าเข้าให้แล้ว แต่สาวเจ้ายังไม่รู้ตัวเพราะเขาไม่แสดงอาการออกมาให้เห็น
“ไปเถอะฮันน่า นี่คือจุดสตาร์ทก่อนจะเข้าเส้นชัย” เขาให้กำลังใจหญิงสาว ตบหลังมือนุ่มเบาๆ แล้วขยิบตาส่งสัญญาให้สู้ต่อไปเพื่อชัยชนะ
โรฮันน่าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เรียกกำลังใจให้กลับคืนมา แล้วตัดสินใจเดินตามแรงจูงของพี่ชายด้วยหัวใจเต้นโครมครามตลอดทาง
ชวดลเงยหน้าขึ้นมองเจ้าสาวในชุดแสนสวย วันลองชุดเขาก็ว่าเธอสวยมากอยู่แล้ว วันจริงวันนี้ยิ่งสวยขึ้นเป็นทวีคูณ ร่างสูงในชุดสูทสีเดียวกันก้าวเข้าไปยื่นมือออกรับมือนุ่มที่วางลงมา เขามองแหวนเพชรบนนิ้วนางข้างขวาซึ่งเป็นแหวนที่เขาซื้อให้เข้าชุดกับสร้อยเพชรบนลำคอระหง แม้สีของชุดเจ้าสาวต่างกับสีเพชรอันทรงคุณค่าน้ำงามชมพูเปล่งประกายระยิบระยับ แต่ก็ดูสอดคล้องงดงามเมื่อประดับอยู่บนร่างของเจ้าสาวแสนสวย ความสวยของเธอทำเอาเขาแทบลืมหายใจเลยทีเดียว
สองร่างเดินเคียงสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก เจ้าบ่าวหล่อเจ้าสาวสวยจนน่าจะจับไปลงกินเนสบุ๊คว่าไม่มีใครเหมาะสมกันเท่าคู่นี้อีกแล้ว ดวงหน้าสวยหวานของเจ้าสาวก็แดงระเรื่อท้าทายสายตาคมฉายแววหวานของเจ้าบ่าว ที่ขยันจับจ้องทุกย่างก้าวอย่างไม่วางตา
รามิลมั่นใจกับความคิดที่ว่า โรฮันน่าไม่ได้หลงรักชวดลข้างเดียวก็ตอนนี้ ก็สายตาแบบนั้นมันเป็นสายตาของคนที่รักจนปานจะกลืนกิน มากกว่าสายตาของคนที่เคยเป็นคู่กัด เขาค่อยเบาใจเมื่อรู้ว่าชีวิตแต่งงานหลังจากนี้ของน้องสาว คงมีแต่ความสุขสมหวัง ไม่มีน้ำตาของความเสียใจอีกต่อไป
ถ้า...ชวดลจะบอกให้รู้ว่ารักสักนิดล่ะนะ
เมื่อถึงเวลาส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอ ซึ่งก็เป็นห้องนอนของชวดลในคฤหาสน์อัครเดชไพศาล ผู้หลักผู้ใหญ่ก็เข้ามาอวยพร งานนี้เจ้าสาวถึงกับน้ำตาซึม
“ขอให้รักกันมากๆ หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะ” คุณชิดกมลอวยพรเป็นคนแรก เพราะถือเป็นผู้ใหญ่สุดของงาน
“โดมมีครอบครัวแล้วนะ ต้องรักและทะนุถนอมครอบครัวให้มาก ผู้ชายเราไม่กลัวภรรยาแต่ต้องเกรงใจเค้า ในเมื่อรับเค้ามาร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยแล้ว ก็ต้องดูแลเค้าให้ดีที่สุด ให้เกียรติซึ่งกันและกัน” วันนี้เป็นวันแรกที่ประธานเอ.เค.พี.กล่าวอวยพรยาวที่สุดเลยก็ว่าได้
“น้องยังเด็ก โดมต้องเอาใจใส่น้องให้มากๆ อย่าทำตัวเหมือนเมื่อสมัยยังไม่แต่งงานนะลูก” มาถึงดลลดาอวยพร เจ้าสาวก็ได้แต่ลอบยิ้มเพราะเจอแต่คำอวยพรถูกใจที่สุด
