บทนำ /4
เตือนสติตัวเองด้วยการท่องเหมือนการนับแกะก่อนนอน ทว่า...ปากมันเกิดคันยิกๆ จนต้องแลบลิ้นเลียแผล็บๆ
ไม่ไหวแล้ว...ไม่ไหวแล้ว...
เรียวปากสีแดงสดอ้าปากงับพริกหวานฉับ อ้ำ! แก้มยุ้ยๆ เคี้ยวตุ้ยตั้งแต่คำแรก อร่อยจริงๆ ด้วย
“ที่แท้ยัยหมูตุ๊ต๊ะก็แอบมากินขนมเพิ่มน้ำหนักอยู่นี่เอง”
จานเล็กใส่ลูกชุบร่วงลงสู่พื้น ดีที่มันเป็นพื้นหญ้าจานกระเบื้องหนาๆ ก็เลยไม่แตก หากแต่เด็กสาวกลับเกิดอาการลูกชุบติดคอขึ้นมาดื้อๆ
“อะแฮ่กๆ” เธอทั้งสำลัก ทั้งแน่นหน้าอก จนต้องยกมือตบหน้าอกตัวเอง “ตุบๆ”
ชวดลเห็นดังนั้นก็รู้สึกตระหนก เขาเข้าไปช่วยเธอด้วยการตบหลัง
“เห็นมั้ย ผลของการกินไม่เลือก ไม่ได้แค่ทำให้เธอเป็นหมู แต่มันอาจทำให้เธอถึงกับขาดใจตาย ถ้าขนมที่เธอยัดเข้าไปจะติดคอแบบนี้ ยัยหมูตอน!”
หลังจากช่วยตบหลังไป 3 ที เขาก็เปลี่ยนเป็นลูบหลังให้เธอไปมา
“นี่ถ้าฉันไม่เข้ามาเจอ เธออาจน็อคอยู่ตรงนี้ไปแล้ว”
โรฮันน่าสะบัดมือออกจากแผ่นหลัง เธอแค่สำลักเพราะเขาเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง แล้วยังมีหน้ามีต่อว่าทั้งที่สาเหตุทำให้เธอเกือบหายใจไม่ออกก็เพราะเขา
“นี่! ยัยหมูตอน ฉันช่วยเธอหรอกนะ ทำไมต้องปัดมือฉันออกด้วย”
“...” โรฮันน่าหอบหายใจแฮ่กๆ เธอก้มหน้าลงแต่เหลือบตาขึ้นมองคนตัวสูง ท่าทางของเธอคล้ายจะหาเรื่องเขา และคนอย่างชวดลก็ไม่ยอมให้ใครมาหาเรื่องง่ายๆ
“ทำไม เธอจะทำอะไรฉันฮึ ยัยหมูตอนโรฮันน่า”
ร่างสูงเพรียวกอดอกฉับ มองลูกหมูตัวขาวด้วยแววตาขำๆ ก็แน่ล่ะ ท่าทางของเธอทำให้เขานึกอยากหัวเราะ แต่แปลกที่เสียงของเขาไม่ยอมดังออกมาจากลำคอ
“ฮันน่าจะต้องผอม” เธอโพล่งออกมาอย่างจริงจัง
“เหรอ...โอ๊ย! กว่าจะถึงวันนั้น โลกก็คงแตก”
“พี่โดมจะต้องเสียใจ”
“เสียใจเรื่องที่เธอจะยังเป็นหมูตอนแบบนี้ตลอดไปน่ะเหรอ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” เขาเท้าสะเอวเงยหน้าหัวเราะลั่น
โรฮันน่าขบปากตัวเองแน่น น้ำตาเริ่มคลอหน่วย
“คอยดูก็แล้วกัน ฮันน่าจะทำให้พี่โดมพูดไม่ออก”
“อู้...ฉันจะรอวันนั้นแล้วกันนะโรฮันน่า”
แล้วโดยไม่ทันตั้งตัว เด็กตุ้ยนุ้ยก็กระแทกตัวใส่ร่างสูงเพรียว ทำให้คนไม่ทันตั้งหลักล้มก้นจ้ำเบ้า “เฮ้ย!!” เขาอุทานได้แค่นั้น เพราะเธอพาร่างตุ้ยนุ้ยเดินจากไปเสียแล้ว“ยัยหมูโรฮันน่า!!”
ชวดลมองจานขนมที่อยู่บนพื้นหญ้า ลูกชุบสีสวยและแน่นอนมันต้องอร่อยกระเด็นให้เกลื่อนไปหมด เขาชันเข่าขึ้นเอื้อมแขนยาวๆ ไปหยิบเม็ดพริกสีสวยขึ้นมาดู แล้วจู่ๆ ใจก็นึกเปรียบเทียบสีลูกกวาดแดงสดกับปากอิ่มสีแดงของเด็กสาว ก่อนจะอมยิ้มเมื่อนึกภาพสีแดงของเม็ดพริกเข้าไปอยู่ในปากสีแดงของโรฮันน่า
9 ปี ผ่านไป รามิลโตขึ้นพอจะแบ่งเบาภาระหน้าที่การบริหารงานช่วยบิดาได้เป็นอย่างดี ทำให้ยุ่งๆ กับการทำงานแต่ก็ทำอย่างมีความสุข ราอูลไปอยู่อเมริกาและมีผลการเรียนดีเยี่ยม ส่วนน้องน้อยคนสุดท้อง...
“ฮันน่าอยู่ไหนน่ะลูก พ่อกับแม่เป็นห่วงมากเลยนะรู้มั้ย” น้ำเสียงของชัชรินทร์ผู้เป็นมารดานั้น บ่งบอกว่ากำลังกังวลต่อการหายตัวไปของลูกสาว
“แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฮันน่าอุตส่าห์ตามพ่อกับแม่มาเมืองไทยทั้งที ก็ต้องออกมาเปิดหูเปิดตาบ้าง แต่แม่สบายใจได้ค่ะ ตอนนี้ฮันน่าอยู่กับยัยส้ม เพื่อนที่เคยเรียนมหาลัยด้วยกันค่ะ”
“จะไม่ให้แม่เป็นห่วงได้ยังไง ก็ฮันน่าเพิ่งจะได้มาเมืองไทยเป็นครั้งที่สี่ แถมตอนมาก็ไม่ได้ออกไปไหน แต่ถ้าลูกบอกว่าอยู่กับเพื่อนแล้ว แม่ก็ค่อยเบาใจลงหน่อย แต่อย่าเที่ยวดึกนักนะลูก แม่เป็นห่วง และถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล รีบโทรบอกแม่ทันทีนะลูก”
“ค่ะแม่ ฮันน่าสัญญาว่าจะระวังตัวให้ดีที่สุด แล้วจะกลับไปหาพ่อกับแม่อย่างปลอดภัยแน่นอนค่ะ”
ชัชรินทร์ได้แต่ส่ายหน้าให้กับโทรศัพท์ โรฮันน่าเป็นเด็กสาวที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง และไม่เคยทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง แต่ความใจร้อนของเธอก็มักจะทำให้คนเป็นแม่เป็นห่วงเสมอ แม้ว่าบุตรสาวจะดูแลตัวเองได้ดีเสมอมาชัชรินทร์คงทำได้แต่รอคอยการกลับมาของลูกสาวเท่านั้น
“ฮันน่า แม่โทรมาเหรอ ถ้างั้นส้มว่าเรากลับกันดีกว่านะ” สิรินดาบอก
“ได้ไงกันล่ะแก้ว อุตส่าห์ได้ออกมาเที่ยวตามลำพังแบบนี้สักที จะรีบกลับทำไม ขอเวลาอีกสักชั่วโมงสองชั่วโมงก็แล้วกันนะ”
“ก็ได้ ว่าแต่เธออยากไปไหนเหรอ”
“อยากไป...อืม...สถานที่ที่น่าตื่นเต้นน่ะ”คนพูดทำตาเคลิ้มฝัน
“ตื่นเต้นงั้นเหรอ เอ...เดี๋ยวขอคิดดูก่อนนะ”
“...” โรฮันน่านิ่งเงียบอย่างรอคอย
“อ้า...นึกออกแล้ว วันนี้เป็นวันเสาร์จะมีการแข่งรถที่สนามปิด” สิรินดาบอก
“สนามปิด คืออะไรเหรอ”โรฮันน่าอยากรู้ใจแทบขาด อยู่ที่โรมไม่เคยได้ออกไปไหนมาไหนแบบสุดเหวี่ยงสักครั้ง คราวนี้จึงขอทำอะไรที่มันสุดเหวี่ยงกับเขาบ้าง แต่จะได้ทำหรือเปล่านะ
“สนามปิดก็คือสนามเถื่อนไงล่ะจ๊ะ แต่ว่าต้องหูตาไว และที่สำคัญต้องวิ่งเร็วด้วย”
“ทำไมเหรอ” โรฮันน่าเอียงคอถามอย่างสงสัย
