บทนำ /3
“โดม!! อย่าพูดจาไม่น่ารักนะลูก ดูสิ น้องจะร้องไห้อยู่แล้ว” ดลลดาเอ็ดลูกชายเสียงเย็น ยิ่งพอเห็นปากกว้างๆ สีแดงแจ๊ดเริ่มสั่น เธอก็นึกสงสารจนอยากเข้าไปกอด
แต่ไม่ทันคุณยายและคุณย่าของหลานๆ ที่ฉวยต้นแขนอิ่มๆ ของโรฮันน่าแล้วออกแรงดึงให้เด็กหญิงลุกขึ้นมานั่งเคียงข้าง แต่ด้วยความที่หลานสาวมีน้ำหนักตัวมาก เลยทำให้คนแก่ต้องอ้าปากหอบหายใจ ชวดลเห็นดังนั้นก็ยิ่งสนุกปาก แกล้งแซวน้องอย่างรื่นเริง
“เห็นมั้ยครับ คุณย่าจะอุ้มหมูตัวนึงขึ้นไปนั่งด้วย ก็ต้องเหนื่อยจนหอบแฮ่กๆ แบบนี้ล่ะครับ”
“ไม่ใช่! ฮันน่าไม่ใช่หมู!!” โรฮันน่าเริ่มอดรนทนไม่ได้ ต้องเอ่ยปากเถียงกลับไปบ้าง “ฮันน่าเป็นคน มีสองขา ไม่ใช่หมู จะได้มีสี่ขา”
“แต่เธอเดินสี่ขาอยู่นะเมื่อกี้เนี้ย” ชวดลยังไม่เลิก จนคนเป็นพ่อที่นั่งฟังมาตลอดต้องเอ่ยปากขึ้นบ้าง
“โดม เป็นผู้ชายอย่ารังแกน้อง โรฮันน่าอยู่ในวัยกำลังกินกำลังนอนเลยกินเยอะไปบ้าง แต่ร่างกายก็จะเผาผลาญไขมันถ้าได้ออกกำลังกาย”
“ใช่ เดี๋ยวพอน้องโตขึ้น น้องก็จะไม่อ้วนแบบนี้ แล้วโดมจะต้องเสียใจที่วันนี้ไปว่าน้อง” ชัชรินทร์เสริมยิ้มๆ เธอไม่คิดจะต่อว่าหลานชาย เพราะเด็กก็ต้องมีทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง อย่างชวดลอยู่ในวัยกำลังโต เขาก็เลยพลั้งเผลอพูดอะไรไปเอาแต่เห็นสนุก ไม่คิดว่าคำพูดจะสร้างบาดแผลในใจให้ใครหรือเปล่า และที่สำคัญ ทุกครั้งที่ได้เจอกัน สองคนนี้ก็มักจะทะเลาะด้วยเรื่องนี้ตลอด เป็นเหมือนไม้เบื่อไม้เมากันเลยก็ว่าได้
ที่น่าสงสารคงจะมีเพียงโรฮันน่า เพราะหลังจากทะเลาะกันทีไร เด็กหญิงก็จะร่ำไห้เงียบๆ ไม่โวยวาย หรือแม้แต่เรียกร้องให้ใครช่วยเอาคืน
“ผมไม่ได้ว่านะครับ ผมแค่พูดความจริง เด็กอายุขนาดนี้ อ้วนขนาดนี้ มีแต่คนบอกลดยากแล้วครับ”
“ฮันน่าจะต้องผอม!”
น้องน้อยตุ้ยนุ้ยโพล่งขึ้น เธอพาร่างอวบอ้วนที่มีน้ำหนัก 70 กก. ลุกขึ้นยืน แก้มยุ้ยๆ พองขึ้นเพราะเธอเม้มปากแน่นอย่างกับอมลูกโป่งทั้งใบเอาไว้ ดวงตาสีเขียวจ้องไปที่ชวดล ราวกับจะต่อว่าเขาทางสายตา แต่หนุ่มวัย 18 ปี หาได้สนใจ เขายกมือขึ้นแบออกทั้งสองข้าง เบ้ปากเป็นทำนองเหยียดหยามและดูถูกว่าไม่มีทางจะเป็นไปได้
โรฮันน่าน้อยเนื้อต่ำใจจึงพาร่างตุ้ยนุ้ยวิ่งออกไปทางสวนหย่อมหลังบ้าน
“ตายแล้ว ฮันน่าคงจะเสียใจมาก” ดลลดาบอก
“นั่นสิ โดมไม่น่าจะพูดแบบนั้นกับน้อง” คุณย่าบอก
“แล้วนายก็ไม่น่าจะทำท่าอย่างนั้นใส่ฮันน่าด้วย” แม้แต่รามิลก็ยังไม่เข้าข้างเขา
ชวดลเป่าปาก แล้วส่ายหน้าน้อยๆ
“ผมพูดไปตามที่เห็น ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”
“แต่เราควรจะไปขอโทษน้องสักครั้ง เพราะการกระทำเมื่อกี้ มันไม่เหมาะที่ลูกผู้ชายพึงกระทำนะ” คนเป็นพ่อมักจะสอนลูกด้วยเหตุและผลเสมอ “โดมโตแล้ว ก็น่าจะรู้ว่าอะไรควรไม่ควรนะลูก”
“อาชาร์ลก็เห็นด้วยนะ โดมเป็นลูกผู้ชาย เมื่อทำผิดจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ก็ควรจะเป็นฝ่ายขอโทษ” ชลาทิศกล่าวสำทับอีกแรง
“ก็ได้ครับ เพื่อความสบายใจของทุกคน ผมจะไปขอโทษยัยหมู...เอ๊ย! โรฮันน่า”
คนที่เริ่มจะรู้ตัวว่าปากเสียไปหน่อย ไม่หน่อยล่ะ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงอยากทำให้เธอเสียใจนักไม่รู้ ไม่ใช่ความไม่ถูกชะตาหรือไม่พอใจ แต่มันเป็นความรู้สึกครึ้มอกครึ้มใจในยามที่แหย่เธอให้หน้ามุ่ย
เจ้าของร่างตุ้ยนุ้ย มานั่งเงียบยกมือปาดน้ำตาป้อยๆ อยู่ใต้ต้นพิกุล ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีคนหัวเราะเยาะที่เธออ้วน แต่เธอไม่ใส่ใจพวกเขาเท่ากับคนในครอบครัว โดยเฉพาะเขา ชวดลหรือพี่โดมที่เธอไม่กล้าแม้แต่จะยิ้มให้ เพราะพอยิ้มให้ทีไร ก็มักจะเห็นเขาเบ้ปากใส่ เขาทำท่ารำคาญตลอดเวลาที่เธอพาตัวเองเข้าไปใกล้ๆ และมักจะมองด้วยสายตาดุๆ หรือไม่ก็หัวเราะเยาะเธอเช่นนี้ตลอดเวลา
ทำไมเขาถึงจงเกลียดจงชังเธอนัก กับอีแค่เธอมีน้ำหนักมากกว่าคนอื่นไปนิด ไม่นิดล่ะ เกือบเท่าของเด็กในวัยเดียวกัน แต่เธอก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้เขานี่นา เธอก็เป็นเธอ เขาก็เป็นเขา นานๆ ทีก็จะได้เจอกันสักครั้ง แต่ทุกครั้งที่เจอเธอต้องเสียน้ำตาให้เขาเงียบๆ เสมอ
“คุณหนูขา มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ ค่ำแล้วเดี๋ยวยุงก็หามไปหรอกค่ะ” กิ่งแก้วแม่บ้านสาวถือถาดของหวานกำลังจะเดินผ่าน หากไม่เหลือบเห็นร่างตุ้ยนุ้ยนั่งอยู่เงียบๆ คนเดียว
“ยุงหามคนอ้วนไม่ไหวหรอกค่ะ” เธอตอบยิ้มๆ เป็นรอยยิ้มเศร้าๆ แต่ก็ยังอุตส่าห์ยิ้มให้ทั้งน้ำตา จนแม่บ้านนึกเห็นใจและอยากปลอบใจให้หายเศร้า
“โถ...ใครบอกว่าคุณหนูของแก้วอ้วนคะ คุณหนูฮันน่ายังทานได้อีกเยอะ เดี๋ยวพอโตเป็นสาวก็มีหุ่นดีเองล่ะค่ะ เอ่อ...ทานลูกชุบฝีมือพี่แก้วมั้ยคะ พี่แก้วทำเองกับมือ อร๊อยอร่อยค่ะ” เพราะอยากเห็นรอยยิ้ม กิ่งแก้วจึงส่งจานใบเล็กใส่ลูกชุบหลากสี หน้าตาน่าทานให้เด็กสาว
“แต่ว่า...” แม้ใจจะอยากรับแล้วหยิบเข้าปากให้อร่อย แต่ก็กลัวว่าจะมีคนทักว่าเป็นหมูจอมตะกละอีก เธอจึงอ้ำๆ อึ้งๆ สองจิตสองใจ
“ทานเถอะค่ะ ไส้มันเป็นถั่วกวน ไม่อ้วนหรอกค่ะ”
ปลายนิ้วขาวสะอาดประดับด้วยเล็บสวย ค่อยๆ ยื่นออกไปหยิบลูกชุบที่ปั้นเป็นรูปพริกสีแดงสด สีสันน่าทานมากๆ นี่เป็นข้อสรุปที่อยู่ในใจโรฮันน่า
“คุณหนูฮันน่าทานไปก่อนนะคะ พี่แก้วจะยกถาดเข้าไปให้พวกคุณๆ ก่อน”
โรฮันน่าพยายามตัดใจไม่อ้าปากงับพริกสีสวยเป็นมันวาว ดวงตาสีเขียวจ้องมองมันแล้วกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่ เธอจะต้องลดน้ำหนัก ไม่ให้ใครเขามาว่าเป็นหมูสีขาอีก
ลดน้ำหนัก...ลดน้ำหนัก...
