บท
ตั้งค่า

บทนำ /2

หญิงสาวคนนั้นน่าจะอายุไม่เกิน 30 ปี ด้วยซ้ำ และพอเขาเดินเข้าไปจนชิด เธอก็ลืมตาขึ้น ดวงตาคู่นั้นมองจ้องสบตาที่หม่นแสงของเขา มือบางยกขึ้นราวกับจะเรียกให้เขาเกาะกุมมือของเธอ และราฟก็จับมือของเธอมากุมไว้มือเย็นเฉียบจนเขาแทบจะเผลอปล่อย หากแต่พยายามจับไว้ให้มั่นด้วยมือสั่นเทาของตัวเอง

“ฉะ...ฉัน...” เธอพยายามพูดอะไรบางอย่าง ทำให้ราฟต้องเอียงศีรษะเข้าไปใกล้และก้มลงต่ำ เพื่อจะฟังสิ่งที่เธอกำลังพูด

“คุณต้องการให้ผมทำอะไร ผมยอมทำทุกอย่าง ขอแค่ให้บอก” เขาจำได้ว่าปากบอกเธอไปแบบนั้น

“ฉะ...ฉัน...ขะ...ขะ...ขอ...ฝาก...ลูก...สะ...สาว...ของ...ฉะ...ฉัน...ดะ...ด้วย” เธอพยายามเปล่งเสียงออกมาเป็นประโยคอย่างทรมาน เรียวปากแห้งผากขยับอ้าได้แค่เล็กน้อย แต่สำหรับคนที่ตั้งใจฟังทุกคำ เขาก็จับใจความได้ทั้งหมด

“ครับ ผมรับปาก” ราฟตอบออกไปเสียงเบาแต่หนักแน่น ไม่ว่าเธอคนนี้จะต้องการให้เขาชดใช้ด้วยวิธีไหน เขาจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เธอพอใจ ไม่ว่าจะต้องแลกกับสิ่งใดก็ตาม

“ระ...รัก...ธะ...เธอ...มะ...มะ...มาก...มาก”

“ครับ ผมจะรักเธอให้เท่ากับที่คุณรัก ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะเลี้ยงเธอให้เหมือนลูกจริงๆ ของตัวเองเลย” ราฟบอกอย่างมั่นใจ เขารับมืออีกข้างของเธอ มือที่มีสายอะไรต่อมิอะไรห้องระโยงระยาง ในมือของเธอมีกระดาษใบหนึ่ง เขารับมันแล้วยกขึ้นมาดู มันเป็นบัตรประจำตัวผู้ปกครองของเด็กหญิงโรฮันน่า แอซวาดินย่า บนบัตรมีรูปใบเล็กของเด็กทารกแบเบาะหน้าตาน่ารัก

“ขะ...ขอบ...คุณ” แล้วผู้หญิงคนนั้นก็หมดลมหายใจทันที น้ำตาของลูกผู้ชายอย่างราฟไหลอาบสองแก้ม เขากำลังเสียใจที่เป็นสาเหตุให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องตาย แม้จะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ ชายหนุ่มปล่อยมือบางลง แล้วค่อยๆ เดินออกจากห้องไอซียู เพียงแค่เห็นหน้าภรรยา เขาก็พลันหน้ามืดขึ้นมา ชัชรินทร์จึงเรียกหมอแล้วพาเขากลับห้องพักฟื้น

วันต่อมาคนของราฟก็อุ้มเด็กทารกคนหนึ่งเข้ามาส่งให้ชัชรินทร์

“นี่เป็นลูกของผู้หญิงคนนั้นครับ ผมไปรับมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กที่เธอนำไปฝากไว้”

“อุ๊ย! หน้าตาน่าเอ็นดูจังค่ะราฟ ดูน้องสิลูก ราม...น้องน่ารักมั้ยลูก” ชัชรินทร์ถามลูกชาย

“น่ารักครับแม่ ผมอยากมีน้องอีกคนครับ”

“ถ้างั้น เด็กคนนี้จะเป็นน้องของรามนะลูก น้องอีกคนต่อจากราอูล” ราฟบอก “ราอูล” ที่ราฟพูดถึงนั้นก็คือ เด็กชายราอูล อันโตนิโอ วัยขวบเศษ ลูกชายคนที่สองต่อจากราม และตอนนี้อยู่กับคุณปู่คุณย่าที่บ้านนั่นเอง

“จริงเหรอครับ เย้...ผมจะมีน้องสาวเพิ่มอีกคนแล้ว”

“แล้วเราจะให้ชื่อว่าอะไรดีคะราฟ” ชัชรินทร์ถาม

ราฟนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนบอก

“ผมจะใช้ชื่อเดิมที่แม่เค้าตั้งให้ แต่จะให้ใช้อันโตนิโอเหมือนกับพวกเรา แกจะต้องได้รับความรักจากทุกคน เป็นเหมือนคนในครอบครัวอันโตนิโอ เป็นลูกสาวอีกคนหนึ่งของเรา” เขามองหน้าภรรยา “โรฮันน่า อันโตนิโอ”

10 ปีต่อมา

ราฟและชัชรินทร์พาบุตรชายและบุตรสาวกลับมาเยี่ยมคุณยายที่คฤหาสน์อัคราเดชไพศาล ณ เวลานี้ รามิลโตเป็นหนุ่มอยู่ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ ด้วยวัย 18 ปี ราอูล อันโตนิโอ เป็นเด็กหนุ่มวัย 13 ปี มีหน้าตาคมเข้มกว่ารามิลแต่สูงใหญ่เหมือนกัน ส่วนน้องสาวโรฮันน่า ยังคงเป็นเด็กหญิงด้วยวัย 10 ขวบ หากแต่แม่น้องน้อยมีร่างอวบอ้วน ผิวพรรณขาวอมชมพู มีพวงแก้มยุ้ยๆ และมีดวงตาสีเขียวมรกต เธอเปรียบเหมือนตุ๊กตาตัวปุ๊กลุ๊กน่ารัก ใครเห็นก็ต้องอมยิ้มด้วยความเอ็นดู ทุกคนต่างพากันหัวเราะในยามที่เธอต้องการจะสื่อสารด้วยภาษาไทย น้ำเสียงเปร่งปร่าฟังไม่ชัดบวกกับรอยยิ้มกว้างๆ อวดฟันขาวสวย ก็ทำให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปยีผมหยักศกสีน้ำตาลเข้ม ที่มักจะก้าวเป็นแกละหรือไม่ก็ถักเปียแบ่งเป็นสองข้าง

“น่ารักน่าเอ็นดูจริงหลานยาย ไหน...มาให้ยายกอดหน่อยซิลูก” ยายชิดกมลกวักมือเรียกทั้งราอูลและโรฮันน่าเข้าไปหา

เด็กชายสูงกว่าเด็กหญิงค่อนข้างมาก ทั้งคู่คลานเข่าเข้ามาหาคุณยาย แม้เธอและเขาจะพูดภาษาไทยชัดบ้างไม่ชัดบ้าง แต่มารยาทก็งดงามเกินจะหาที่ติ คุณชิดกมลอดเสียดายหลานชายคนนี้ไม่ได้ เพราะราอูลจะต้องถูกส่งไปเรียนที่อเมริกาตั้งแต่อายุเพียงเท่านี้ แต่นั่นก็เป็นความต้องการของตัวหลานชายเอง ราอูลมีความฝันจะเป็นด๊อกเตอร์ทางด้านวิทยาศาตร์ เขาอยากเป็นนักวิจัยผู้ค้นพบตัวยารักษาโรคใหม่ๆ ความฝันของหลานชายคนนี้ต้องได้รับการสนับสนุนที่ดีและกำลังใจเป็นเรื่องสำคัญ

ดังนั้นราเชนทร์และชัชรินทร์จึงตัดสินใจส่งราอูลไปอยู่กับญาติสนิทที่นั่น

ร่างอวบอ้วนคงจะเจ็บหัวเข่าจึงโน้มตัวลงคลานสี่ขาแทน แม่หนูน้อยนิ่วหน้าเมื่อได้ยินเสียงกลั้นหัวเราะดังมาจากบันไดชั้นสอง ดวงตาสีเขียวมรกตมองไปยังร่างสูงของเด็กหนุ่ม ชวดล อัครเดชไพศาล หรือโดมในวัย 18 ปี ยืนพิงเสาบันไดหัวเราะเยาะเธอจนเห็นฟันขาว

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ”

คุณยายชิดกมลเห็นแก้มยุ้ยๆ แดงขึ้นสลับซีดขาวก็นึกสงสารแล้วหันไปดุหลานชายคนโตด้วยสายตา ก่อนจะปรามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอย่างคนที่รักหลานๆ มากที่สุด

“ตาโดมล่ะก็ ไปหัวเราะน้องได้ยังไงลูก แค่น้องเจ็บเข่าก็เลยยันแขนช่วยประคองตัว”

เด็กหนุ่มเดินเข้ามาสมทบ พร้อมกับยกมือไหว้อาสาวและอาเขย เขาไปนั่งข้างรามิลอย่างสนิทสนมและดูจะเข้าขากันดี

“คุณย่าครับ หมูมันเดินสี่ขาอยู่แล้วนี่ครับ มีที่ไหนหมูเดินสองขา อืม...แต่วันนี้ผมก็เพิ่งเห็นนะครับ น่าจะพาไปออกรายการโทรทัศน์ท่าจะดีไม่น้อย หึ หึ...หมูสองขา”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel