เริ่มเกิดใหม่ครั้งที่ 9 เริ่มเรียนรู้
เริ่มเกิดใหม่ครั้งที่ 9
เริ่มเรียนรู้
"ระบบบอกฉันที...ว่าเรื่องพวกนี้แค่ฝันไป"
ลอเรนท์เหม่อมองเพดานขาวๆ ด้วยสีหน้าที่แม้จะดูงดงามตามใบหน้าฉบับเดิมของเจ้าของร่างยังไง ก็ยังคงสัมผัสได้ถึงความโง่ของเจ้าของร่าง ห้องนอนนี้ยังคงหรูหราและเธอยังชอบมันเหมือนเดิม เพียงแต่วันนี้มีสิ่งหนึ่งที่รบกวนจิตใจเธอเป็นพิเศษ นั่นก็คือกองบรรดาหนังสือมากมาย ทั้งสารานุกรม ชีวประวัติ ประวัติศาสตร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่เจ้าองครักษ์หน้านิ่งนั่นหอบมาวางเอาไว้ พร้อมกับเสียงดังกริ๊กของประตูที่ล็อคจากข้างนอก
'หากยังอ่านพวกนี้ไม่หมด องค์หญิงไม่มีสิทธิออกจากห้องครับ'
จ๊ะ!
มาให้หมดเลยจ๊ะ!
[โฮสต์ควรยอมรับความจริง แล้วรีบกอบกู้สถานการณ์ตัวเองได้แล้ว]
"ฉันใช้เทเลพอร์ตหนีไปได้ไหม..."
[ไปตายเหรอ?]
"นี่นายดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะ! " ลอเรนท์เบะปาก เห็นอย่างนี้เธอก็เคยจนมาก่อนะโว้ย ชีวิตทีกัดปากตีนถีบเป็นยังไงทำไมเธอจะไม่รู้ แต่ก็อย่างที่เคยบอกไปว่ามันดีทุกอย่าง เว้นอย่างเดียวคือโลกนี้กฎหมายไม่แน่นพอเท่านั้นแหละ จะถูกฆ่าก็ง่าย จะถูกจับไปขายก็ง่าย ไปเป็นทาสก็ยังง่ายเลย ไม่รู้ว่าทุกคนชินกับโลกที่ป่าเถื่อนแบบนี้ได้ยังไง...
[หากเทียบกับฝั่งปีศาจแล้ว โลกมนุษย์ไร้อารยธรรมกว่ามาก นั่นเป็นผลมาจากทางผู้พัฒนาเกมต้องการให้ 'ปีศาจ' เป็นเผ่าพันธ์ชนชั้นสูง และเพิ่มความนิยมให้กับหมู่ผู้เล่นสาวๆ มากขึ้น]
"...แต่มันซวยฉันน่ะสิ" ลอเรนท์ถอนหายใจ ถึงระบบจะพูดแบบนั้นแต่เธอก็ไม่ได้อยากกลับไปฝั่งปีศาจหรอกนะ ความใฝ่ฝันของเธออีกอย่างก็คงอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นสักครั้งในชีวิต อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้ แต่อย่างนี้เธอก็โอตาคุพอตัว แต่เธอเป็นพวกนิยายกับการ์ตูน มากกว่าจะเป็นพวกโอโตเมะเกมแบบนี้น่ะสิ แถมชื่อเกมน่าเกลียดๆ แบบนี้ เธอไม่คิดจะหยิบมาเล่นให้เสียเวลาเปล่าหรอก
แถมพอนึกหน้าพระเอกในเกมทั้งสี่คนที่เหยียดยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์แล้ว โดยเฉพาะเจ้าบ้าเทียร์ที่กล้าจับเธอไปทดลอง เธอก็อดไม่ได้ที่จะยกมือมาลูบแขนไปมาให้หายขนลุก ผู้ชายเเบบนั้นสาวๆ กรี๊ดกันไปได้อย่างไงนะ? เฮ้อ
"เอาเถอะ ต้องลองสักตั้งใช่ไหม" ลอเรนท์เหยียดตัวขึ้นมานั่งมองกองหนังสือรอบที่สิบ เธอไม่ชอบอ่านหนังสือเท่าไหร่ เพราะมันทำให้นึกถึงความทรงจำตอนยังอยู่ในโบสถ์ที่เธอตัองนั่งหลังคดหลังแข็งอ่านหนังสือสอบ โดยมีเทียนโง่ๆ จุดเล่มหนึ่ง กว่าจะผ่านไปแต่ละคืนก็แลกมากับการใส่แว่นตาหนาๆ ที่ใส่แล้วถูกคนในโบสถ์เรียกเธอยัยเอ๋อๆ
แต่หากเธอไม่ทำอะไรเลย เธอก็คงเป็นผู้หญิงที่ไร้ค่าที่สุดเลยล่ะมั้ง
ชีวิตตัวเองยังไม่คิดจะพัฒนาอะไรเลยนี่นา
"กะจะมาอยู่แบบสบายๆ แท้ๆ " ลอเรนท์นึกถึงตอนตัวเองยังคงเป็นลิลิธอยู่แล้วก็รู้สึกคิดถึงนิดหน่อย แม้จะอยู่ในร่างกายที่อ่อนแอ ทั้งยังไม่สวยแบบร่างนี้ ถึงจะวุ่นวายกับพวกเจ้านายทั้งสี่ไปบ้าง แต่โดยรวมเธอก็มีความสุขดี แถมยังมีเพื่อนด้วย! ถึงจะยังไม่สนิทกันเท่าไหร่ก็ตาม
พอมาเทียบกับร่างนี้แล้ว นอกจากเอเดนที่อยู่ข้างๆ ทั้งยังไม่มีความจริงใจแล้ว เธอก็แทบจะไม่มีใครเลย แต่ถามว่าเศร้าไหม? ก็ไม่นะ เธอกลับคิดถึงลอเรนท์ตัวจริงมากกว่าว่าเจ้าตัวอยู่ได้ยังไงในสถานการณ์แบบนี้
ในสถานที่ที่ไม่มีใครรักเลยแบบนี้
ลอเรนท์จะรู้สึกยังไงนะ
ในคืนนั้นเธอก็เปิดหนังสือค้างเอาไว้ทั้งคืน โดยที่ในหัวเอาแต่ขบคิดเรื่องของลอเรนท์ตัวจริงไม่หยุด
"นี่คือแบบทดสอบของเมื่อวานครับ"
"คะ? "
เช้าวันนี้เธอถูกปลุกด้วยมือหนาของเอเดนที่เข้ามาตบไหล่เบาๆ ทำให้รู้ตัวว่าเธอเผลอหลับคากองหนังสือตั้งแต่เมื่อคืน ตรงมุมหนังสือมีน้ำลายเธออยู่ด้วยนิดหน่อย
ก่อนที่จะสะลึมสะลือไปมากกว่านี้ ก็ถูกกระดาษสีขาวปึกหนึ่งกระแทกใส่หน้า
หลังจากนั้นลอเรนท์ไม่อยากจะคิดเลยว่าชีวิตเธอต้องถูกรังแกไปมากเท่าไหร่
ตื่นเช้ามาออกกำลังกาย ตอนกลางวันเรียน พักกินข้าว แล้วก็เรียนพวกมารยาทสังคมชั้นสูง ตอนกลางคืนยังต้อนเรียน ก่อนนอนยังต้องสวดมนตร์ไว้เทพเจ้าบ้าบออะไรไม่รู้ เพื่อให้เป็นที่คุ้นชิน
พูดก็พูดเถอะ นี่มันเชี่ยไรวะ?!
นังลอเรนท์คนนี้เกิดมาเพื่อจะเป็นชนชั้นล่างนะโว้ยย
เพี๊ยะ!
"อย่าเหยียดขาแบบนั้นค่ะ"
"ค่ะ"
สรุปเธอก็ต้องกัดฟันทนกับเรื่องพวกนี้ต่อไปใช่ไหม...
แถมตอนที่เอเดนยื่นข้อสอบชุดแรกมาให้ คะแนนของเธอยังห่วยชนิดที่เอเดนเผลอเอาไปเผาไฟ แล้วก็เพิ่มสาระพันปัญหามาให้เธอเรียน เธอจำไม่ได้แล้วว่าการนอนหลับอย่างเป็นสุขอย่างไร ตอนนี้เพียงแค่หัวสัมผัสหมอน โลกก็ดับลงแล้ว
[โฮสต์...]
"ฉัน...โอเค"
ตอบไปแบบนั้นทั้ง ๆ ที่ใต้ตาดำคล้ำเหมือนหมีแพนด้า แถมดวงตายังเหม่อลอยจับโฟกัสไม่ได้
[โฮสต์...]
"ฉัน..."
"องค์หญิงได้เวลาไปเรียนมารยาทแล้วครับ"
"..."
ขอตาย!!!!!!!!!!!
