บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 เลี้ยงสัตว์ปลูกผัก

ตอนที่ 4 เลี้ยงสัตว์ปลูกผัก

ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ท้องนภาเริ่มมีพระจันทร์ขึ้นมาแทนที่ เซี่ยวซือเตรียมอาหารรอน้อง ๆ ทั้งสองเสร็จแล้วรีบเรียกให้น้อง ๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าล้างไม้ล้างมือเพื่อกินข้าวเย็น

“ตอนนี้อาหารเสร็จแล้ว เจ้าทั้งสองไปเปลี่ยนอาภรณ์เถิดแล้วมากินข้าวด้วยกัน” เซียวหลงหลับตาสูดดมกลิ่นหอมที่คละคลุ้มเต็มอากาศโชยมายั่วกระเพาะของเขาจนท้องเริ่มร้องประท้วง

“กลิ่นหอมจริง ๆ รสชาติต้องดีมากแน่ ๆ ข้าจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้” เด็กชายไม่ว่าเปล่ารีบเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในกระท่อมถอดเสื้อผ้าเปลี่ยนและนำผ้าเปียกไปตากไว้ข้างนอก ส่วนเซียวจ้านยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่

“เจ้าไม่รีบไปเปลี่ยนอาภรณ์กับน้องเล็กจะได้มากินข้าวพร้อมกัน”

“ท่านพี่ เรื่องที่ท่านพี่เอ่ยมาเป็นความจริงเช่นนั้นหรือ? หากท่านพี่ไม่ใช่พี่ใหญ่ของข้าแล้วยามนี้พี่ใหญ่ของข้าอยู่ที่ใดกัน” เซียวจ้านตระหนักได้ถึงสิ่งที่สตรีตรงหน้าเอ่ยออกมาเมื่อเช้า เขาเริ่มเป็นห่วงพี่สาวของเขาขึ้นมา ใบหน้าของเซี่ยวซือนิ่งเรียบเพราะนางเองก็ตอบสิ่งที่น้องชายสงสัยไม่ได้เช่นเดียวกัน

“เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่แน่พี่สาวของเจ้าอาจจะอยู่ในร่างเดียวกับข้าเพื่อรอวันที่ข้าทำภารกิจสำเร็จแล้วพี่เจ้าคงกลับมาเมื่อนั้นข้าเองก็คงได้กลับโลกเดิมของข้า ”

“เช่นนั้นคงเป็นสวรรค์ลิขิตมาข้าหวังว่าพี่สาวของข้าจะสบายดี และต่อจากนี้ข้าจะเชื่อฟังท่านทุกอย่างเสมือนท่านเป็นพี่สาวของข้าเช่นเดิม ” เอ่ยจบเซียวจ้านเดินเข้าไปในเรือนเปลี่ยนอาภรณ์เพื่อมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา เซี่ยวซือจ้องมองแผ่นหลังของเขาพรางถอนหายใจ

“ข้าก็หวังว่าให้พี่สาวของเจ้าสบายดีเพราะเมื่อไหร่ที่ข้าทำภารกิจสำเร็จข้าจะได้กลับไปยังโลกของตัวเองไปใช้ชีวิตสุขสบายอย่างที่เคยเป็นไม่ต้องมาเหน็ดเหนื่อยอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน” นางเอ่ยพึมพำก่อนจะเดินตามหลังน้องเข้าไปด้านใน

เมื่อทั้งสองคนมานั่งที่โต๊ะกินข้าวต้องตกใจเพราะวันนี้มีทั้งผัดผักน่ากิน ต้มปลาเป็นตัว ๆ อย่างที่ไม่เคยได้กินมาก่อน

“นี่คือสิ่งที่ท่านพี่เอ่ยบอกเมื่อเช้าใช่หรือไม่ขอรับ ว้าวดีจริง ๆ ต่อจากนี้พวกเราจะไม่ต้องอดมื้อกินมื้ออื่นแล้ว ”ดวงตาของเซียวหลงเป็นประกายจ้องมองอาหารที่อยู่ต่อหน้า

“ใช่แล้ว เจ้ากินเยอะ ๆ จะได้แข็งแรงต่อจากวันนี้ไปเรามีงานที่ต้องใช้แรงเยอะมาก ดังนั้นเราจะต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ ปลายังไม่หมดเพียงเท่านี้ พรุ่งนี้ข้าจะเผาปลาให้เจ้ากิน ส่วนอีก 2 ตัวข้าจะนำไปตากแดดเพื่อไว้ใช้ปรุงอาหารในวันถัดไป ไม่แน่พรุ่งนี้ถ้าเราขยันทำงานได้มากกว่าวันนี้ ของในเรือนแม้แต่เสื้อผ้าของกิน ต้องมีมากกว่าเดิมดังนั้นวันนี้เรามากินข้าวให้อิ่มกันเถอะ” เซี่ยวซือยิ้มกว้างก่อนที่จะลงมือคีบเนื้อปลาให้น้อง ๆ ทั้งสองคน หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จเซียวหลงกับเซียวจ้านเป็นคนอาสาเก็บกวาดและล้างชามเอง ส่วนเซี่ยวซือนางเข้ามาดูที่นอนที่นางจะนอนในวันนี้ เตียงไม้ที่แข็งจนแทบปวดหลังฟูกบางจนแทบไม่รู้สึกว่านอนฟูกด้วยซ้ำ ผ้าห่มก็บางและขาดจนแทบไม่อาจจะทำความอุ่นได้หากถึงฤดูเหมันต์

“ชีวิตของพวกเขาช่างน่ารันทดจริง ๆ เฮ้อ หากเป็นไปได้อยากจะพาทั้งสองคนไปที่โลกของข้าจริง ๆ เลย เอาล่ะมีเท่านี้ก็นอนเท่านี้ไปก่อน เอาไว้ที่ทุกอย่างเข้าร่องเข้ารอยคงต้องจัดการใหม่หรือไม่ก็นำคะแนนไปแลกของใช้ในเรือนใหม่ทั้งหมด ”

ฝั่งด้านเซียวจ้านกับเซียวหลงเมื่อทั้งสองอยู่ด้วยกันตามลำพังผู้เป็นพี่จึงเอ่ยถามความรู้สึกของเสี่ยวเอ๋อร์ที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาล้างชามอยู่

“เซียวหลงเจ้าไม่รู้สึกอันใดเลยหรือสตรีที่อยู่กับเรายามนี้มิใช่ท่านพี่เซี่ยวซือของเรา”

"ทำไมข้าต้องรู้สึกอันใดด้วยเล่าพี่รองในเมื่อพี่เซี่ยวซือต่างก็ดีกับเรา ทำให้เรามีข้าวกินไม่ต้องอดอยากเช่นเดิม ข้าเชื่อว่าท่านพี่เซี่ยวซือก็คือท่านพี่ของข้าไม่เช่นนั้นนางคงหาทางหนีไปจากเรามากกว่าที่จะทนลำบากขอรับ ท่านพี่เลิกกังวลเสียที" เด็กชายเอ่ยตามที่เขารู้สึก เพราะไม่ว่าอย่างไรสตรีที่มาอยู่ในร่างของพี่สาวก็ทำหน้าที่ไม่ต่างจากพี่สาวของเขาเลยแม้แต่น้อยแถมยังแข็งแรงมีความคิดที่เฉลี่ยวฉลาดสามารถปกป้องเขาจากชาวบ้านได้

“หากเจ้าคิดเช่นนั้นข้าเองก็เบาใจและหวังว่าพี่เซี่ยวซือยังอยู่ในร่างเช่นเดิม เอาล่ะตอนนี้ชามล้างหมดแล้วเข้านอนกันเถอะต่อจากนี้เราต้องทำตามที่ท่านพี่บอกทุกอย่างเพื่อที่จะได้มีชีวิตที่สุขสบาย” ทั้งสองเดินเข้าไปในเรือน ดับเทียนที่เป็นเพียงแสงสว่างหนึ่งเดียวในเรือนหลังนี้เพื่อพักผ่อน ค่ำคืนที่เงียบสงัดร่างบางไม่เคยทำงานหนักก็หลับสนิททันทีที่หัวถึงหมอน

รุ่งเช้าวันต่อมา

เซี่ยวซือตื่นแต่เช้าตรู่ หุงข้าวทำอาหารโดยมีเซียวจ้านเป็นคนช่วยเหลือ เมื่อนางทำเสร็จจึงเดินออกมาสำรวจนอกเรือน พื้นที่กว้างขวางหากปลูกผักและเลี้ยงสัตว์คงทำได้สบายจึงรีบไปถามเซียวจ้านที่กำลังจ้องมองน้ำในตุ่มเล็กที่ใสสะอาด

“น้องรอง ข้ามีสิ่งหนึ่งที่อยากถามเจ้า”

“มีเรื่องอันใดหรือขอรับ”

“พื้นที่บริเวณโดยรอบนี้เป็นของผู้ใด เราสามารถใช้ทำมาหากินได้หรือไม่?”

“เดิมทีที่ตรงนี้เป็นพื้นที่รกร้างขอรับ เรามาอาศัยอยู่จึงทำให้พื้นที่ไม่รกเหมือนแต่ก่อน”

“ดีเลยวันนี้เราต้องออกไปตัดไม้ไผ่กัน ข้าจะปลูกผักและเลี้ยงสัตว์เอาแม่ไก่ไข่มาเลี้ยงสัก 5 ตัว ปลูกผักเอาไว้กินและขายที่ตลาดจะได้มีอยู่มีกิน แม้ไม่ร่ำรวยก็สามารถทำให้พวกเจ้าไม่อดตาย เจ้าเตรียมอาหารขึ้นโต๊ะเถิดข้าจะไปปลุกน้องเล็กเอง” เซี่ยวซือตื่นเต้นรีบไปปลุกน้องชายอีกคนเพื่อมากินข้าวและทำงานเพื่อแลกคะแนนเพื่อนำของออกมาใช้

ตะวันเริ่มส่องสว่างแดดที่อ่อนเริ่มแรงขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นอยู่กลางศีรษะทั้งสามคนพี่น้องขะมักเขม้นตั้งใจทำงานกันอย่างสามัคคี ช่วยกันแบกไม้ไผ่และทำเล้าไก่เสร็จในที่สุด

“เฮ้อในที่สุดก็เสร็จจนได้ ”

“ท่านพี่ ท่านคิดอันใดอยู่เหตุใดถึงต้องเลี้ยงไก่ขอรับ กว่าจะได้โตและได้กินก็อีกนานเลย ”

“ข้าไม่ได้หวังให้เจ้ากินเนื้อไก่เสียหน่อย ที่ข้าจะเลี้ยงเพราะไก่ที่ข้าจะเอาคะแนนแรกมาคือแม่ไก่ที่สามารถออกไข่ให้เจ้าได้ทุกวันต่างหาก แถมยังสามารถเอามูลของไก่ไปใส่ผักที่กำลังจะปลูกอีกด้วยเช่นนี้จะได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน อากาศร้อนจริง ๆ เจ้าไปตักน้ำในตุ่มมาให้กินหน่อยสิ” เซี่ยวซือนั่งลงบนแคร่ ร่างกายเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ

“ขอรับ” เด็กชายไม่รอช้ารีบไปดูน้ำที่พี่สาวกรอกเอาไว้ ยามนี้ใกล้เต็มตุ่มใสสะอาดไม่มีเศษฝุ่นแม้แต่น้อยเขารีบตักมาให้พี่สาวด้วยความตื่นเต้น

“พี่รอง พี่รองดูสิขอรับน้ำที่พี่ใหญ่กรองเอาไว้ใสสะอาดมากจริง ๆ ขอรับ ”

“เห็นหรือไม่ข้าบอกแล้วว่าสิ่งที่ข้าทำจะทำให้น้ำใสสะอาดมากกว่าเดิม ”

“ท่านพี่ ท่านบอกว่าท่านมาจากโลกอื่นท่านช่วยเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่ว่าท่านใช้ชีวิตอย่างไร เป็นอย่างที่เป็นตอนนี้หรือไม่” เซี่ยวซือวางจอกน้ำลงจ้องมองเด็กชายที่รอนางเล่าให้ฟังด้วยความตั้งใจ

“ได้สิข้าจะเล่าให้ฟัง ” เซี่ยวซือใช้เวลาที่ดวงอาทิตย์สาดแสงร้อนระอุไม่อาจจะออกไปทำงานอันใดได้เล่าเรื่องโลกของตนเองและการใช้ชีวิตของนางให้น้อง ๆ ฟัง เซียวหลงทั้งตื่นเต้นและอยากเห็นโลกที่พี่สาวเคยอาศัยอยู่จริง ๆ จนกระทั่งดวงอาทิตย์ถูกบดบังด้วยก็อนเมฆ ทั้งสามคนก็เริ่มเตรียมแปลงผัก พรวนดินกันคนละไม้คนละมือ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel