ตอนที่ 5 ขอโทษข้าเดี๋ยวนี้
ตอนที่ 5 ขอโทษข้าเดี๋ยวนี้
1 เดือนต่อมา
หลังจากที่เซี่ยวซือมาใช้ชีวิตในยุคโบราณนางเริ่มปรับตัว จากคนขี้เกียจกลายเป็นคนขยันแต่ละวันตื่นมาก็ต้องใช้ความคิดว่าจะทำอะไรวันนี้ กระท่อมหลังเล็ก ๆ ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี มีของใช้มากมายที่เซี่ยวซือนำมาจากระบบ เสื้อผ้าอาภรณ์ของเธอเริ่มมีชุดใหม่ ๆ รวมทั้งของน้องชายทั้งสองด้วย
“พี่เซี่ยวซือผักที่ปลูกไว้กำลังงอกงามแล้ว วันนี้ข้าจะนำมูลไก่ไปโปรยและพรวนดินนะขอรับ”
“ดี ๆ แล้วนี่เซียวหลงไปที่ใดกัน ข้าไม่เห็นตั้งแต่กินข้าวเช้าเสร็จ”
“เห็นว่าจะเข้าไปเที่ยวเล่นในหมู่บ้านขอรับ”
“พี่ีใหญ่ พี่รอง ข้ามีเรื่องจะมาบอกขอรับ”ทันทีที่เซียวจ้านตอบคำถามเสียงของเซียวหลงดังขึ้นทั้งสองคนหันไปมองต้นเสียงเห็นเด็กชายกำลังวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“มีเรื่องอะไรที่ทำให้เจ้าต้องรีบร้อนวิ่งหน้าตั้งมาเช่นนี้”
“วันนี้ที่หมู่บ้านมีงานขอรับ ท่านพี่พาข้าไปเที่ยวได้หรือไม่ขอรับ ข้าได้ยินมาจากเด็กในหมู่บ้าน ”
“คิดว่าเรื่องอันใดที่แท้ก็อยากไปเที่ยวเล่นสินะ แต่ว่าการไปเที่ยวเล่นต้องใช้เงินมิใช่หรือเดี๋ยวเจ้าก็อยากกินขนมที่วางขายตามข้างทางเดิน มิได้หรอกเราไม่ได้เงินเบี้ยอัฐสักตำลึง” เซียวจ้านลูบหัวของเซียวหลงด้วยความสงสารเแม้ว่าตอนนี้ไม่ได้อดอยากเหมือนเมื่อก่อนเพราะพี่เซี่ยวซือที่มีระบบคอยช่วยเหลือ ใบหน้าของเซียวหลงผิดหวังและเสียใจเมื่อนึกได้ว่าการไปเที่ยวต้องใช้เงิน
“เช่นนั้นข้าไม่ไปแล้วก็ได้ขอรับ พี่ใหญ่วันนี้มีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่”
“มีสิ เจ้าต้องเอาไข่ไก่ในเล้าไปเร่ขาย นั่นคืองานของเจ้า ขายได้ก็เท่ากับว่าเจ้าได้ไปเที่ยวในค่ำคืนนี้หากขายไม่ได้ก็อดไปเข้าใจหรือไม่ ” ใบหน้าของเซียวหลงพลันเปลี่ยนสี ดวงตาเบิกโพลงด้วยความดีใจ
“จริงหรือขอรับ ข้าขายได้แน่นอน ท่านพี่ข้าทำได้แน่ ข้าจะรีบไปเก็บไข่เดี๋ยวนี้” เด็กชายกระปรี้กระเปร่าหยิบตะกร้าไม้ไผ่เดินเข้าไปในเล้าไก่ทันที
“ท่านพี่แล้วเช่นนี้เราจะมีไข่ไว้กินหรือขอรับ”
“เอาน่า ไก่ของเราออกไข่ทุกวันอยู่ในเรือนก็มีพอกินไปได้หลายวันเจ้าอย่าลืมสิว่าข้ามีระบบมิติตอนนี้คะแนนของข้าก็เหลือมากอยู่ ต้องการกินเนื้อยังได้เลย เลิกกังวลแล้วใช้ชีวิตให้มีสีสันบางเถอะ เจ้าเองก็รีบเอามูลไก่ไปใส่ผักเสีย จะได้ตามเซียวหลงไปขายไข่ข้ากลัวว่าเขาจะถูกชาวบ้านโกง มีเจ้าไปด้วยจะได้หมดห่วง”
“ขอรับ”
เซี่ยวซือเองก็อยากจะไปเทียวยามราตรีเช่นเดียวกันตั้งแต่มาอยู่ที่นี่นางไม่เคยออกไปจากบริเวณเรือนเลย แถมยังทำงานเหน็ดเหนื่อยมาตลอดถือเสียว่าเป็นการพักผ่อนพาน้อง ๆ ออกไปเปิดหูเปิดตา นางให้น้อง ๆ ออกไปขายไข่ไก่จำนวน 12 ฟอง ในราคา 3 ฟอง 2 อีแปะ ทั้งสองตั้งใจออกไปขายในหมู่บ้านและตลาดขายของ เมื่อไปถึงชาวบ้านต่างพากันมองด้วยความสงสัย ทั้งเสื้อผ้าเนื้อตัวของเด็กทั้งสองสะอาดสะอ้านมวลเนื้อตัวก็ดูใหญ่กว่าเดิม จากตัวผอมเหลือแต่กระดูกตอนนี้มีน้ำมีนวลขึ้นมากจนผิดตา ส่วนเซียวจ้านไม่ว่าจะเดินไปทางใดต่างก็เป็นเป้าสายตาของสตรีแรกรุ่นมากมายพากันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“เจ้าเด็กพวกนี้ไปทำอันใดมาเหตุใดถึงได้ดูดีกว่าเมื่อก่อน ข้าคิดว่าจะอดตายอยู่ท้ายหมู่บ้านเสียแล้วได้ยินว่าพี่สาวของพวกมันเจ็บป่วยใกล้ตายแล้วมิใช่หรือ แล้วนั่นอันใดในตะกร้าคงไม่ได้ไปขโมยของใครมาอีกหรอกมั่ง” เสียงของสตรีวัยกลางคนเอ่ยขึ้น นางคือผู้ที่เคยตามไปด่าทอเซียวจ้านถึงเรือน
“นั่นสิ ข้าจะไปดูเสียหน่อยว่าเด็กสองคนนั้นถืออะไรมาในหมู่บ้านเช่นนี้”
“ท่านลุงซื้อไข่ไก่ไว้ปรุงอาการหรือไม่ขอรับ ไข่ไก่ของข้าสะอาดและลูกใหญ่สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายอย่างท่านสนใจหรือไม่ขอรับ ราคาไม่แพง ไข่ 3 ใบราคาเพียง 2 อีแปะเท่านั้นขอรับ”
เด็กชายเข้าไปถามชายที่เดินผ่านไปมา จนกระทั่งชาวบ้านกลุ่มเมื่อครู่เข้าไปขัดขวางระหว่างที่ชายคนหนึ่งจะจ่ายเงินเพื่อซื้อไข่กับเซียวหลง
“ท่านอย่าได้หลงกลไปซื้อไข่ของเด็กพวกนี้ ไม่รู้ว่าพวกมันขโมยของผู้ใดมาหรือไม่ ดีไม่ดีท่านอาจจะต้องรับผิดกับเด็กสองคนนี้ด้วย ไม่รู้หรือไงว่าคนพวกนี้เป็นขี้ขโมย” ชายที่สนใจไข่ชะงักทันทีที่ได้ยิน
”ไม่จริงนะขอรับท่านลุง ข้ามิได้ขโมยของผู้ใดมา ไข่ข้าเป็นคนเก็บมากับมือจะเป็นของผู้อื่นได้อย่างไร“ เซียวหลงรีบแย้งคำพูดของหญิงที่เข้ามาต่อว่า ยามนี้ทุกสายตาเริ่มหันมามองเพราะเสียงดังของเด็กชายที่โต้ตอบ
“เฮอะ ! อย่างพวกเจ้านะหรือจะมีของพวกนี้เป็นของตัวเอง นี่อีกเสื้อผ้าอาภรณ์พวกนี้คงไปขโมยมาเช่นกันสินะ ข้าจะจับตัวเจ้าส่งทางการให้ใต้เท้าจัดการดัดนิสัยขี้ขโมยของ ”
“พวกข้าไม่ได้ไปขโมยผู้ใดมา ของพวกนี้เป็นของเรือนเรา หากท่านไม่เชื่อก็จงไปที่เรือนของเราสิ ข้าจะไม่ยอมให้ท่านต่อว่าและขายของไม่ได้” เซียวจ้านเห็นท่าไม่ดีรีบโต้ตอบทันที
“เจ้านั่นแหละตัวดี คราวก่อนมิใช่เจ้าหรือที่ขโมยของของพวกข้าไปนะ ”
“ดูถูกกันเกินไปแล้วนะ ท่านกล่าวหาน้องชายข้าได้อย่างไร ใช่อยู่ที่น้องชายของข้าเคยขโมย แต่ของที่เอาไปนั้นแทบกินไม่ได้ด้วยซ้ำ หมั่นโถวแข็งจนขึ้นรา กับเศษผักที่กำลังเน่าเสีย อีกอย่างข้าจำได้ว่าเซียวจ้านคืนของไปหมดแล้ว เช่นนั้นท่านจะต่อว่าพวกข้าไปขโมยของ ของท่านได้อย่างไร ต่อให้ข้าเปล่า ๆ ข้าก็ไม่เอา” เสียงของเซี่ยวซือดังขึ้นทุกสายตารีบจับจ้องไปมองนางเป็นตาเดียว เช่นเดียวกับสตรีที่นั่งอยู่โรงน้ำชานางมองเหตุการณ์มาครู่ใหญ่อยากรู้เช่นกันว่าพี่น้องสองคนนี้จะทำเช่นไร
“เจ้า เหตุใดถึงเปลี่ยนไปได้ถึงเช่นนี้”
“มิต้องเปลี่ยนเรื่อง ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าข้าจะเลี้ยงดูน้องชายของข้าให้เป็นอย่างดี ตั้งแต่คราวก่อนน้องของข้าเคยไปลักขโมยของท่านอีกหรือ? เมื่อครู่ข้าได้ยินว่าท่านจะส่งน้องของข้าให้ทางการเอาสิ ข้าจะไปด้วยข้าจะขอความเป็นธรรมที่ถูกรังแก ไม่ให้ข้าและน้องได้ทำมาหากินเพราะคำว่าร้ายจากปากของท่าน” เซี่ยวซือน้ำเสียงเกรี้ยวกราดมิได้เกรงกลัวจนทำให้หญิงทั้งสองเลิกลาและเดินจากไป
“ชิ ครั้งนี้ข้ายอมให้เจ้าเพราะไม่อยากมีเรื่องหรอกนะมิใช่ว่าข้าเกรงกลัวพวกเจ้า”
“เดี๋ยวสิ คราก่อนข้าเคยเอ่ยกับท่านเช่นไรท่านต้องขอโทษข้ากับน้อง ๆ ก่อนสิที่ใส่ความว่าพวกเราเป็นขโมยทำให้เสียหายต่อหน้าชาวบ้านทั้งหลาย น้องของข้าทั้งอับอายและเสื่อมเสียชื่อเสียงเรื่องนี้ข้ายอมมิได้ พวกข้ายากจนก็จริงแต่พวกข้าก็มีศักดิ์ศรี” หญิงทั้งสองเริ่มอับอายที่เซี่ยวซือเสียงดังมากกกว่า สายตาทุกคนเริ่มมองและซุบซิบนินทากดดันให้ทั้งสองรีบขอโทษและเดินออกไปอย่างอับอาย
“ก็ได้ ๆ ข้าขอโทษ” เซี่ยวซือแสยะยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจก่อนจะตะโกนขายไข่ช่วยน้อง ๆ
“ท่านลุงท่านป้าทั้งหลาย วันนี้ข้ามีไข่ไก่สดใหม่จากคอกมาขายเจ้าค่ะ ราคาไม่แพงสามารถนำไปทำได้หลายเมนู ช่วยอุดหนุนหนทางทำมาหากินพวกเราด้วยเถอะเจ้าค่ะ ” ผู้คนมากมายเริ่มทยอยพากันเดินไปมาอย่างไม่สนใจจนทั้งสามพี่น้องจ้องมองกันอย่างท้อใจ ทันใดนั้นเองเสียงสตรีดังขึ้นจากด้านหลัง นางคือสตรีที่นั่งมองอยู่ในโรงน้ำชาเมื่อครู่และชื่นชมความกล้าหารของเซี่ยวซือและสะดุดตากับน้องชายคนรองของนาง
“ข้าขอเหมาหมด ” สตรีรูปโฉมงดงามไร้ที่ติ น้ำเสียงมิได้อ่อนหวานเท่าไหร่แต่ดูเป็นสตรีที่อาจหาญ มองดูเสื้อผ้าที่นางสวมใส่คงเป็นบุตรสาวของใต้เท้าร่ำรวยแน่นอน
“ได้เลยเจ้าค่ะแม่นางคนสวย ไข่ของเรามีทั้งหมด 12 ใบ 8 อีแปะเจ้าค่ะ” เซี่ยวซือยื่นตะกร้าไข้ให้แก่สตรีนางนั้น นางมองสาวใช้ ให้สาวใช้มารับไข่จากเซี่ยวซือพร้อมมอบถุงเบี้ยให้แก่เซี่ยวซือทว่าสายตาของนางยังคงจับจ้องไปยังเซียวจ้านไม่ละสายตา เพียงเท่านี้เซี่ยวซือก็เข้าใจได้ว่าสตรีสูงส่งผู้นี้ต้องชอบน้องชายของนางแน่ ๆ อีกอย่างถุงเบี้ยหนักมากกว่า 8 อีแปะ เซี่ยวซือรีบเปิดดูก็พบว่ามันมีมากกว่า 8 อีแปะจริง ๆ
