บทที่ 2.1 แรกพบ แลกรัก
เช้าวันใหม่การจราจรในเมืองเล็กๆคับคั่งไม่แพ้เมืองหลวง เหล่าคนทำงานต่างรีบเร่งเดินทางเพื่อให้ถึงที่หมายทันเวลา
“โอ๊ย...มาเป็นอะไรตอนนี้นะ” ภัทรนันท์หงุดหงิดกับรถยนต์คู่ใจที่ตอนนี้กำลังเกเรไม่ได้ดั่งใจตน
“ติดสิจ๊ะลูกแม่...นะน้า ขอร้องล่ะ” เธอยกมือขึ้นไหว้จรดศีรษะ 3 ครั้ง หมายอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์
“บรื้น บรื้น...แค๊ก...แชะ แชะ” แต่ก็ไม่เป็นผล รถยนต์คันเก่าบุโรทั่งยังคงทำได้แค่ส่งเสียงสั้นๆ กับอาการกระตุกให้เจ้าของหนักใจ
“ก็อก ก็อก ก็อก” หญิงสาวหันมองกระจกข้างคนขับ ชายหนุ่มแปลกหน้าส่งยิ้มให้เธอผ่านกระจกรถ ใบหน้าคมเข้ม หล่อเหลา จมูกเป็นสันรั้นได้รูป นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม ดึงดูดให้เธอจับจ้องหน้าเขาโดยไม่รู้ตัว
“มีอะไรให้ช่วยไหม๊ครับคุณ” ประโยคแรกหลังจากที่เธอลดกระจกลง เสียงนุ่มกระตุ้นให้หญิงสาวประหม่าเล็กน้อย
“อะ เอ่อ ค่ะ...พอดีรถมันสตาร์ทไม่ติดน่ะคะ” ภัทรนันท์ ก่อเกียรตินุสรณ์ สาววัย 24 ปี ตอบแบบตะกุกตะกัก ก่อนจะเปิดประตูออกให้ผู้อาสาเข้ามาดู ชายผู้หวังดีเข้านั่งที่เบาะคนขับสำรวจหน้ารถก่อนส่งเสียงขบขันออกมา
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า...คุณนี่ท่าทางจะรีบมากเลยนะครับ” ชายหนุ่มพูดอย่างอารมณ์ดี เสียงหัวเราะของเขากับทำให้คนร่างเล็กเหมือนโดนเยาะเย้ย ยิ่งเห็นสีหน้ามีความสุขด้วยแล้ว อารมณ์คนสาวก็ฉุนขึ้นทันที เธอมุ่ยหน้าเม้มปากก่อนจะ
“ฉันมีงานการทำนี่ค่ะ...ก็ต้องรีบเป็นธรรมดา” ภัทรนันท์กอดอกก่อนจะตอบอย่างไม่พอใจนัก
“ครับ...ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณซักหน่อย...แค่จะบอกว่าคุณน่าจะรอบคอบกว่านี้นะครับ”
“เอ๊ะ นี่มันอะไรกันคุณ...จะมาช่วยหรือมาซ้ำเติมฉันกันแน่ค่ะ ถ้าไม่ช่วยก็เชิญออกไปเลยดีกว่านะคะ” น้ำเสียงแหลมสูงบ่งบอกว่าเธอไม่สบอารมณ์
“อย่าเพิ่งหงุดหงิดสิครับคุณ...เดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก” ชายหนุ่มนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทางหงุดหงิดของสาวสวยตรงหน้า สายตาค้อนไม่พอใจของเธอ ช่างทำให้ใบหน้าหวานๆ ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นจนเขาอยากจะเข้าไปคลอเคลียใกล้ๆ
“คุณนี่ยังไง ไม่ช่วยก็หลีกไปฉันหาคนอื่นมาช่วยก็ได้”
“ใจเย็นก่อนคุณ” เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นเป็นเชิงห้ามอารมณ์หล่อน แต่กลับได้รับสายตาค้อนเคืองมาแทน
“ตกลงรถฉันเป็นอะไรมิทราบคะ คุณผู้ใจบุญ” สาวหน้าหวานเน้นเสียงประโยคหลังให้รู้ว่าเธอประชด
“อืม...รถคุณน้ำมันหมด” เมื่อได้ยินอย่างนั้นหญิงสาวถึงกับชะงัก นี่เธอลืมไปเสียสนิทตั้งใจจะแวะเติมน้ำมันตรงปากซอยหน้าบ้าน แต่ดันติดสายกับเพื่อนผู้ร่วมงานซะก่อน
“อะ เอ่อ ฉะ ฉัน ลืมน่ะ...แย่จังยัยเพลง” สาวร่างเล็กรีบหันหลังไปบ่นใส่ตัวเองทันที
“ถ้าไม่รังเกียจ ไปรถของผมก็ได้ครับ” ภัทรนันท์เงยหน้ามองผู้อาสา เชิงพิจารณาเจตนาของคนหวังดี
“มะ ไม่ค่ะ...ฉันไม่อยากรบกวนคุณหรอกค่ะ” รอยยิ้มสำนึกผิดผุดขึ้นบนใบหน้าสวย
“ไม่เป็นไรครับ...ไหนๆ ผมก็อาสาช่วยคุณแล้ว ยังไงก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุดสิครับ” ภัทรนันท์ยิ่งสำนึกผิดมากขึ้นเมื่อเห็นความตั้งใจจริงของเขา จึงยอมขึ้นไปนั่งข้างคนขับ รถปิกอัพไทเกอร์สีดำ สายตาสาวมองสำรวจรอบรถเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ทำให้เห็นว่ารถคันนี้บรรจุสิ่งของมามากมายอยู่ท้ายกระบะที่คลุมด้วยผ้าใบสีดำ
“คุณจะขนของไปไหนเหรอคะ” หญิงเริ่มต้นบทสนทนา
“อ่อ...ของที่ผมจะเอาไปส่งที่โรงแรมใกล้ๆ นี่เองครับ” ชายหนุ่มหันมองเธอเล็กน้อยเวลาตอบ
“เรียกผมว่า ตุลย์ ก็ได้ครับ...เอ่อคุณ” เขาหันมองคู่สนทนาราวกับความอยากจะรู้จักเธอนั้นกำลังจะพุ่งออกมาจากตัว
“เพลงค่ะ เพลง ภัทรนันท์ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณตุลย์” หญิงสาวส่งยิ้มหวาน เรียวปากสีแดงระเรื่อแต่งเติมลิปสติกสีพีชบางๆช่างน่าหลงไหลเสียเหลือเกิน
“น่ารักดีครับ”
“อะไรนะคะ” สายตาเจ้าหล่อนปรับเปลี่ยนเป็นความสงสัยทันที
“ผมหมายถึงชื่อคุณน่ะครับ ฟังดูน่ารักดี”
“ค่ะ...เพลงต้องขอบคุณ คุณตุลย์นะคะที่มีน้ำใจกับเพลง แล้วก็ขอโทษจริงๆ นะคะที่เสียมารยาทไปก่อนหน้านี้” เธอยังคงเจื้อยแจ้วอย่างเป็นกันเอง
“ด้วยความเต็มใจครับคุณเพลง...ว่าแต่จะให้ผมส่งคุณที่ไหนคะ”
“ตายจริง เพลงลืมสนิทเลยค่ะ...ดำรงค์ธานีค่ะ อยู่ตรงแยกข้างหน้านี้เอง” เมื่อได้ยินชื่อที่หมายตุลย์วัฒน์ก็ส่งเสียงหัวเราะนุ่มๆออกมาอีกครั้ง
“ฮ่าๆ โลกกลมจังเลยนะครับ...ผมจะไปส่งของที่นั่นพอดี ไม่เสียเวลาแถมยังได้รู้จักคนน่ารักอย่างคุณด้วย” คำพูดของชายหนุ่มสร้างรอยบางๆสีแดงบนแก้มใสที่ไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอางเลย
