บท
ตั้งค่า

ตอนที่สอง รักเก่าๆ 2

“เอ๊ะ” คิ้วของสุดที่รักขมวดเมื่อควานมือไปยังช่องลับที่เธอจำได้แม่นว่าวางเงินสดทั้งหมดไว้ในนี้แล้วไม่เจออะไร แม้ว่าจะดื่มไวน์ย้อมใจจนเมาทุกวันแต่เธอแน่ใจว่าเธอไม่เคยแตะต้องเงินนี้เลย

“ภู มีคนขโมยเงินสดเลิฟ” หญิงสาวบอกพร้อมทำสีหน้าตกใจ

ถ้อยคำเรียกที่สนิทสนมทำให้ภูรินหน้าเคร่งกว่าเก่าทั้งที่ตอนที่เจอเธอซึ่งนับว่าเป็นการเจอครั้งแรกในรอบหลายปีเขาก็ทำหน้านิ่งเฉยติดจะบึ้งตึงใส่ แต่เขาดูเหมือนโกรธที่เธอทำท่าเหมือนว่าสนิทสนมกับเขาเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

“ก่อนที่คุณลูกค้าจะพูดรบกวนทบทวนให้ดีด้วยครับ” คนเคยรู้ใจเขาคิดออกเลยว่าที่บอกแบบนี้ไม่ใช่เรื่องมีคนขโมยเงินหรอกแต่เขาเตือนทางสายตาว่าอย่าริอ่านเรียกสนิทสนมอย่างนี้อีกต่างหากล่ะ

“จริงๆ ค่ะ ฉันเอาเงินไว้ที่นี่เกินห้าหมื่นแน่นอน แต่ว่าวันนี้ไม่มีอะไรเลย ดูสิคะ” เธอแหวกให้เขาดู จะโทรไปยกเลิกอายัดบัตรแล้วจ่ายก็ได้ แต่ว่าถ้าพนักงานของเขาทำแบบนี้ เธอต้องเตือนเขา ไม่อย่างนั้นเกิดมีเหตุอีก ปายภูรินเสียชื่อแน่นอน

“จะบอกว่าพนักงานของเราเข้าไปในห้องของคุณแล้วขโมยเงินในกระเป๋างั้นหรือครับ แน่ใจนะครับเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ต้องมีการสอบสวนทั้งคุณและพนักงานที่เกี่ยวข้องด้วย” พอเขาถามเธอก็รีบพยักหน้ารับ

“จริงค่ะ”

“แต่คุณลูกค้าแทบไม่ได้ออกนอกห้องเลยนะครับน่าจะอยู่ในวิลล่าตลอด ไม่น่าจะเป็นไปได้” ผู้จัดการเอ่ยแทรกขึ้นมา

“ถึงอยู่แต่วิลล่าแต่ฉันออกนอกห้องบ่อยค่ะโดยเฉพาะตอนที่มีแม่บ้านมาคลีน ไม่อยากอยู่เกะกะ” ไม่ได้พูดว่าออกนอกห้องบ่อยเพราะว่ามาเดินเล่นบ้างดูดาวบ้างเผื่อจะเจอภูริน พอวันสองวันแรกไม่ได้เจอเลยเปลี่ยนแผนว่าจะเช็กเอาท์แล้วก่อนเรื่องรอเจอเขา

ชายหนุ่มตวัดสายตามามองคนที่สบตาเขา แล้วส่งความรู้สึกหลากหลายมาให้จนเข้าหลุดยิ้มเยาะ...

ตอนนี้เธอช่างมองเขาอย่างเปี่ยมรักจนน่าขนลุกในความตลบตะแลงของคนตรงหน้า มันช่างแตกต่างจากแววตาเรียบเฉยไร้ซึ่งความรู้สึกและมองเขาเหมือนคนไม่รู้จักในยามที่เขาสิ้นเนื้อประดาตัวและไม่เหลือใครในวันนั้นนัก

คงเป็นอำนาจเงินสินะที่ทำให้คนตรงหน้าเปลี่ยนสีไปถึงเพียงนี้

“ทางโรงแรมเราต้องตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้งครับ” ภูรินเอ่ยบอกน้ำเสียงห่างเหินยิ่งนัก “แต่อย่างไรก็ขออนุญาตคุณผู้หญิงชำระยอดส่วนที่ค้างเอาไว้ด้วยบัตรเครดิตก่อน เพราะพนักงานจะได้ปิดบิลและทำระบบเช็กเอาท์ให้ครับ เนื่องจากว่าวันนี้โรงแรมเต็มต้องรีบเช็กเอาท์ครับ”

“คุณผู้หญิงเธอลองทุกบัตรที่มีแล้วครับ ไม่สามารถชำระได้สักใบ เลยต่อรองว่าสนิทกับคุณภู แต่พอคุณภูมาเธอก็อ้างว่ามีเงินสด”

พอผู้จัดการบอกภูรินไปอย่างนั้นแล้วสุดที่รักก็แทบจะตบหน้าผากตัวเองยิ่งนัก เธอคิดจะฝากชีวิตที่เงินสดโดยไม่คาดคิดมาก่อนว่าเงินนั้นอาจจะหายได้

คงต้องโทรหาธนาคาร เธอต้องการเวลาส่วนตัว เงยหน้าไปมองคนที่ทอดมองเธออย่างหมิ่นหยามไม่เพียงแต่เจ้าของโรงแรมเท่านั้น ลูกน้องเขาก็ด้วย

“เอ่อ... ฉันขอเวลาส่วนตัวติดต่อธนาคารเกี่ยวกับเรื่องวงเงินหน่อยนะคะ” เธอบอกอย่างไม่คิดรื้อฟื้นอะไรกับเขาอีก พยายามสร้างความห่างเหินขึ้นมาแทนที่ความคิดถึงความห่วงหาในแววตา จากนั้นจึงเชิดหน้าบอกเขา “คุณไปดูแลแฟนคุณเถอะค่ะ”

“เธอไม่ใช่แฟนผม” คำตอบที่เหมือนอัตโนมัติของคนที่ยืนข้างๆ ทำให้คนที่ใช้นิ้วไถหน้าจออยู่เงยหน้ามองเขา ตาเธอโตค้าง นัยน์ตาแห้งแล้งเรืองรองด้วยหวัง

ภูรินโมโหปฏิกิริยาโต้กลับเร็วเพราะไม่ชอบให้ใครเข้าใจผิดแล้วก็โกรธความปากไวของตัวเอง ซ้ำยังโกรธคนตรงหน้าที่ทำท่าลิงโลด ถ้ารู้ว่าเธอจะดีใจแบบนี้เขาจะคิดก่อนค่อยตอบ และตอบว่าเข็มธีราคือคนรักเขาให้สะใจไปข้าง

สุดที่รักหย่อนโทรศัพท์กลับเข้ากระเป๋าคล้องไหล่ รอยยิ้มที่เกิดจากหัวใจแห้งผากแทบเป็นปุ๋ยผงได้รับความฉ่ำชื้นกะทันหันอาจจะดูลิงโลดไปนิด แต่มันก็ตรงกับในใจรู้สึก

“อันที่จริงไม่รู้ว่าภูจะมีเวลาว่างหรือเปล่า แต่ว่าขอเวลาคุยกันส่วนตัวสักนิดจะได้ไหม”

เขาหรี่ตามอง ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะมาไม้ไหนกันแน่

ใบหน้าสวยทอดยิ้มให้มาไม่ได้ทำให้เขาหวั่นไหวเลย ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ ความเกลียดยิ่งทบเท่าส่วนความแค้นนั้นยิ่งกว่าทวีคูณเสียอีก

“ได้ ตามมาสิ”

เขาพยักหน้า ไม่มองที่เธอฉีกยิ้มกว้างให้เพราะหมุนตัวหันหลังเดินออกมาก่อน ที่ให้โอกาสครั้งนี้เพราะอยากรู้ว่าเธอจะต้องการอะไร เขาเองก็อยากรู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนที่ห่างหายไปหลายปีเหมือนตายจากอยู่ๆ ก็กลับมาหาและไม่มีทีท่ารังเกียจกันเหมือนเมื่อก่อน ซ้ำยังทำเหมือนลืมว่าเคยทำอะไรกับเขาเอาไว้

ภูรินเดาว่าสิ่งที่เธอต้องการคงไม่พ้นเงินหรือการกลับมาคืนดี ถ้าเธอเอ่ยปากอย่างนั้น เขาคงพูดกับเธอไปได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า สิ่งที่เธอหวังไม่มีวันสมปรารถนา...

ชายหนุ่มเดินนำหน้าเธอมายังที่นั่งด้านนอกที่เป็นซุ้มไม้เลื้อย สุดที่รักมองตามแผ่นหลังของเขาซึ่งแม้เวลาผ่านไปนานแต่แผ่นหลังน่ากอดไม่เคยเปลี่ยน

“ภูสบายดีไหม เป็นยังไงบ้าง” หลังจากที่เขาเชิญให้เธอนั่งแล้วมองหน้าเหมือนให้เอ่ยคำถามออกไป สุดที่รักก็เอ่ยคำถามโง่ๆ ของเธอไปทันที

“เรื่อยๆ เคยเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นไม่มีอะไรพิเศษหรอก...” เขาตอบคำถามเรียบๆ

หญิงสาวยิ้ม หัวใจเต้นระรัว รอ... ให้เขาถามว่าที่ผ่านมาเธอสบายดีไหม ไปอยู่ไหน ทำอะไรมา ทำไมถึงมาเจอเขาที่นี่ เธออยากบอกและรอให้เขาถาม

“ตกลงว่าคุณจะจัดการยอดคงค้างยังไง ผมมีเวลาไม่มากผู้จัดการเขาไม่มีอำนาจพอจะสั่งการอะไรได้ เพราะคุณอ้างว่ารู้จักผม อันที่จริงคุณไม่ควรทำอย่างนั้น”

รอยยิ้มบนดวงหน้าสวยเจื่อนลง เขาไม่ถามและไม่อยากรู้เรื่องเธอเลย นั่นทำให้เธอคิดได้ว่าเขายังไม่พร้อม ในใจเขาตอนนี้มีแต่ความรู้สึกในแง่ร้ายกับเธอ

เธอควรจะรอ... เวลาคงจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น

“เลิฟมีเงินก้อนสุดท้ายคือก้อนที่โดนขโมยไป ตอนนี้ถังแตกมาก คงยืมจากใครไม่ได้อีกแล้ว ถ้าเกิดว่าจะขอทำงานที่นี่เพื่อเอาแรงใช้แทนเงินได้ไหม ตอนนี้เพิ่งตกงานว่าจะมาพักผ่อนที่โรงแรมของภูเสียหน่อย ไม่คิดว่าเงินจะหายเลยนะ”

ภูรินหรี่ตามองคนตรงหน้าอย่างจับผิด ถึงแม้เลิกกันแบบจบไม่สวยแต่บางอย่างในตัวเธอที่เขายังคงจดจำได้ก็คือสุดที่รักไม่เคยโกหกได้แนบเนียนเมื่อไหร่ก็ตามที่พูดโกหกเธอจะดูไม่มั่นใจและหลบตาเป็นระยะๆ พอเธอพูดจบเธอจะจ้องตาไม่ลดละว่าคนฟังจะเชื่อไหม

เขาหัวเราะหึในลำคอ... ตอนนี้เขาพอรู้แล้วว่าเธอต้องการอะไร แทนที่จะปฏิเสธและบอกว่าเธอไม่ควรหวังในสิ่งที่คิดเอาไว้เพราะมันเป็นไปไม่ได้ให้เธอหน้าหงายแต่เขากลับตอบตกลงในสิ่งที่เธอร้องขอ...

ภูรินคิดว่าถึงเวลาที่เขาจะได้แก้แค้นและเอาคืนผู้หญิงหน้าเงินและไม่มีหัวใจอย่างเธอแล้ว... ฟ้าช่างเป็นใจนำพาเธอกลับมาเสียจริง เขาสัญญาว่าจะเล่นงานให้หาทางกลับบ้านไม่ถูก แทนที่จะเฉดหัวเธอไปตอนนี้ เขานี่และจะทำให้เธอร้องไห้ขอออกไปจากนรกขุมนี้ด้วยตัวเองแบบที่ว่าไม่มีทางที่จะกล้าย้อนกลับมาตอแยเขาอีก รับรองว่าต่อเธอต้องไม่กล้าแม้แต่จะคิด...

ท่าทางดีใจของคนตรงหน้าทำให้มุมปากภูรินหยักยิ้มพึงใจ

แล้วเราจะได้เห็นดีกัน... สุดที่รัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel