บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 เหนื่อยเพื่อลูก

ตอนที่ 2

เหนื่อยเพื่อลูก

หลังจากที่สองแม่ลูกเดินทางกลับมาถึงบ้าน น้ำหนึ่งก็รีบพาลูกชายไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เด็กชายมานั่งประจำโต๊ะเล็กๆของตัวเอง เพื่อทำการบ้านที่ได้รับมาจากคุณครู เมื่ออาทิตย์ก่อน ภูผาไม่ค่อยสบายก็เลยหยุดเรียนทั้งอาทิตย์ จึงมีการบ้านช่วงที่ขาดเรียนเขาจึงได้มานั่งทำในวันนี้

“ทยอยทำไปก็ได้นะลูก ไม่ต้องหักโหมมาก”

น้ำหนึ่งไม่ใช่คนที่กดดันลูกมากจนเกินไป เธอเลี้ยงลูกแบบสบายๆ เขาจะเรียนเก่งหรือไม่ ไม่สำคัญ ขอแค่เมื่อเขาเติบโตสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและเอาตัวรอดได้ เพียงเท่านี้เธอก็พอใจแล้ว

น้ำหนึ่งไม่ได้คาดหวังอะไรจากลูกชายมากมาย เธอไม่เคยร้องขอให้เขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดคือการที่เธอได้เห็นเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีรอยยิ้มที่สดใส ไม่ต้องถูกกดดันไม่ว่าจากเรื่องอะไรก็ตาม

“ไม่เป็นไรครับแม่ เดี๋ยวผมทำให้เสร็จก่อนแล้วค่อยออกไปเล่นก็ได้”

ปกติน้ำหนึ่งจะปูเสื่อหน้าบ้าน เปิดประตูรั้วกว้าง เพื่อต้อนรับเด็กๆในซอยที่จะเข้ามานั่งเล่นกับ ลูกชายของเธอทุกวันตอนเย็น

ภูผาไม่ค่อยชอบเล่นแรงๆเหมือนเด็กผู้ชาย แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่ได้อ่อนแอเหมือนเด็กผู้หญิง ภูผาเป็นเด็กที่ชอบเล่นของเล่นที่พัฒนาสมอง และด้วยนิสัยของเขาจึงดึงดูดเพื่อนประเภทเดียวกันมาหา

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณแม่รีดผ้าก่อนนะครับ”

น้ำหนึ่งเอ่ย นอกจากจะเปิดร้านอาหารในบ้านแล้ว เธอยังรับซักรีดเสื้อผ้า แต่เธอไม่ได้รับเยอะมากเพราะกลัวว่าจะทำไม่ทัน ปกติแค่วันละสิบตะกร้า เธอก็แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนแล้ว

หญิงสาวเดินมาหลังบ้าน เก็บเสื้อผ้าที่ตากแห้งเรียบร้อยแล้วนำมาด้านใน ลงมือรีดผ้าอย่างใจเย็นพร้อมกับชำเลืองมองลูกชายไปด้วย

“ผมทำการบ้านเสร็จแล้ว ผมขอไปเล่นนะครับแม่”

“อย่าออกไปตรงถนนนะลูก อันตรายนะรู้ไหม”

“เข้าใจแล้วครับ”

เด็กชายตัวน้อยเดินมานั่งที่เสื่อหน้าบ้าน เขาหยิบตัวต่อไม้ออกมาก่อนจะเรียงขึ้นไปจนตั้งสูง และหลังจากนั้นไม่นาน เพื่อนๆของเขาทั้งชายหญิงก็ปั่นจักรยานมาถึง ก่ทุกคนจะมานั่งล้อมวงเพื่อเล่นบล็อกไม้ด้วยกัน

เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กๆดังขึ้น ทุกคนเล่นด้วยกันโดยไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกันเลย และอยู่ในสายตาของน้ำหนึ่งตลอดเวลา ด้วยความที่ลูกชายของเธออายุน้อยที่สุด เธอจึงต้องคอยสังเกตคอยระมัดระวังอยู่เสมอ แต่เด็กๆกลุ่มนี้ไม่มีพฤติกรรมเกเร บวกกับพ่อแม่ของเด็กๆเหล่านี้ก็สนิทสนมกับเธอเป็นอย่างดี ทำให้เธอรู้สึกเบาใจ

“กินขนมกันก่อนนะเด็กๆ”

วันนี้น้ำหนึ่งทำวุ้นมะพร้าวแถมให้ลูกค้า เนื่องจากเมื่อวันก่อนคนหน้าปากซอยเอามะพร้าวที่สวนมาให้เธอหลายลูก เธอไม่รู้จะทำอะไรก็เลยจะมาทำวุ้นมะพร้าวซะหมด แต่แจกลูกค้าไปมากแล้วก็ยังเหลืออยู่ เธอจึงนำมาให้เด็กๆกิน และบอกให้เด็กๆนำไปฝากพ่อแม่ที่บ้านด้วย

น้ำหนึ่งกลับเข้ามาในบ้าน เธอใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าจะรีดผ้าเสร็จ เมื่อเสร็จแล้วเธอก็ยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย ก่อนเดินออกไปข้างนอกแล้วเห็นว่าฟ้าเริ่มมืดแล้ว

“กลับบ้านกันได้แล้วนะเด็กๆ มืดแล้วลูก”

เมื่อนับหนึ่งเอ่ยขึ้นเด็กๆทุกคนก็รีบปั่นจักรยานกลับบ้านทันที ส่วนภูผาก็เก็บของเล่นใส่กล่องพลาสติกของเขาและหิ้วไปวางบนชั้นที่เดิม

“มากินข้าวได้แล้วลูก วันนี้คุณแม่ทำข้าวต้มหมูนะครับ”

เด็กน้อยวิ่งมาที่โต๊ะอาหาร เขาปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ ตักข้าวกินอย่างคล่องแคล่ว

น้ำหนึ่งปลูกฝังลูกชายให้ทำอะไรด้วยตัวเองมาโดยตลอด เพราะแบบนี้ลูกชายของเธอจึงเป็นเด็กที่ดูโตกว่าเด็กทั่วไปพอสมควร

“กินข้าวเสร็จแล้วแม่อนุญาตให้ดูโทรทัศน์ได้สองชั่วโมงนะครับ”

ถึงแม้ว่าลูกชายของเธอจะดูโตแต่ยังไงเขาก็ยังเป็นเด็กอยู่ เพราะฉะนั้นเธอจะไม่เคยขัดขวางแม้ว่าเขาจะต้องการดูการ์ตูนบ้างในบางครั้ง

“วันนี้จะดูอะไรครับ เดี๋ยวคุณแม่จะเปิดไว้ให้”

“โดเรม่อนได้ไหมครับแม่”

“ลูกดูถึงตอนไหนแล้ว จำได้ไหม”

เด็กน้อยทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะส่ายหน้า เขาจำไม่ได้แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเพราะเขาก็มีกจะดูตอนใหม่ๆอยู่เสมอ

“ตอนไหนก็ได้ครับแม่ ไม่ต้องตอนเดิมก็ได้”

น้ำหนึ่งพยักหน้าเดินไปหยิบรีโมทและเปิดการ์ตุนให้ลูกชาย เขาย้ายจากเก้าอี้ไปนั่งที่โซฟา โดยที่น้ำหนึ่งกำลังพับผ้าอยู่ใกล้ๆ

หลังจากที่รีดผ้าพับผ้าเสร็จเรียบร้อย เธอก็แยกตะกร้าเพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าในวันพรุ่งนี้เช้า หญิงสาวเห็นว่าวันนี้เธอทำงานเสร็จเร็วกว่ากำหนด หญิงสาวจึงเดินเข้ามาในครัว ยกถุงผักและเนื้อสัตว์นำมาวางไว้บนโต๊ะเตี้ยๆตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆโซฟา จัดเตรียมเนื้อสัตว์และผักใส่กล่อง สำหรับทำอาหารขายในวันพรุ่งนี้

“แม่ครับ ผมง่วงเเล้ว”

เด็กชายหาววอด เขาปิดทีวีและเดินมาหาผู้เป็นแม่ขยี้ตาเบาๆ เมื่อน้ำหนึ่งเห็นแบบนั้นเธอก็รีบไปล้างมือพาลูกชายเข้าไปนอนในห้อง

หลังจากที่กล่อมลูกจนหลับไปแล้ว เธอก็เหลือบไปเห็นสมุดบัญชีที่วางอยู่บนหัวเตียง น้ำหนึ่งอดไม่ได้ที่จะหยิบขึ้นมาดู บัญชีนี้เธอตั้งใจเปิดไว้ให้ ลูกชาย และโอนเงินเข้าไปเก็บทุกเดือน ถึงแม้ว่าจะยังมีเงินไม่มากแค่ไม่กี่หมื่นบาท แต่เธอก็รู้สึกภูมิใจที่เธอสามารถเก็บให้ลูกได้ขนาดนี้ในระยะเวลาไม่ถึงปี

หญิงสาวมองลูกชายตัวน้อย ลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ ชีวิตของเธอ เธอไม่เป็นห่วงสักเท่าไหร่ แต่คนที่เธอห่วงใยมากที่สุดก็คือภูผา เธอต้องการให้ลูกชายของเธอมีอนาคตที่ดี จะได้ไม่ต้องโดนดูถูกดูแคลนเหมือนกับที่เธอเคยโดนมาก่อน

หญิงสาวปิดไฟก่อนจะเปิดโคมบนหัวเตียงเอาไว้สลัวๆ เผื่อว่าลูกชายตื่นมาจะได้ไม่ต้องกลัว น้ำหนึ่งเปิดประตูค้างไว้ เปิดพัดลมสายเบาๆเพื่อไม่ให้ลูกเป็นหวัด หลังจากนั้นเธอก็ไปจัดเตรียมวัตถุดิบต่อ หญิงสาวนั่งทำงานไปเรื่อยๆพร้อมกับดูรายการทีวีไปด้วย กว่าจะรู้ตัวอีกทีเวลาก็ล่วงเข้าเที่ยงคืนแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel