เพื่อนใหม่ 1
รุ่งเช้าของวันใหม่ ไอรีนตื่นขึ้นมาพร้อมกับความอึดอัดเมื่อร่างบางเล็กของเธอนั้นถูกใครบางคนกอดเอาไว้แน่น เมื่อคืนเธอจำไม่ได้เลยว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ คนตัวเล็กพยายามพลิกตัวออกจากอ้อมกอดนั้นจนเธอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ต้นคอ
“โอ๊ย!!”
คนตัวเล็กร้องขึ้น เธอรีบเดินไปที่หน้ากระจก มือเล็กค่อยๆปัดผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยาวปะบ่าไปไว้ด้านหลัง กระจกเงาตรงหน้านั้นสะท้อนให้เห็นรอยกัดสองรอยปรากฎอยู่บนต้นคอที่ขาวเนียน
ไอรีนค่อยๆใช้นิ้วเรียวแตะๆที่รอยกัดนั้นเบาๆ ความเจ็บจี๊ดก็ยังคงโลดแล่นเข้ามาให้รู้สึกได้ เธอซู้ดปากเบาๆเพื่อเป็นการผ่อนคลายความเจ็บนั้นก่อนที่จะเดินเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย ภายในห้องน้ำขนาดใหญ่ เธอยังคงยืนส่องที่หน้ากระจกเงา พลันบางสิ่งบางอย่างก็แล่นเข้ามาในห้วงความคิดจนทำให้น้ำสีใสรินไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง
“ฮึก!...นี่เรา...ร่างกายเราเปือดเปื้อนแล้ว...ฮึก!”
“ทั้งที่รังเกียจและขยะแขยงมากเพียงไหน แต่เหตุใดจึงต้องมาเปื้อดเปื้อนเสียความบริสุทธิ์ให้พวกแวมไพร์แบบนี้ด้วย...ฮึก! พระเจ้าไม่เคยเข้าข้างฉัน โลกใบนี้ช่างโหดร้ายกับฉัน”
มือเล็กเอื้อมไปเปิดฝักบัวให้สายน้ำไหลผ่านเรือนร่าง เธอยืนแหงนหน้ารับเอาสายน้ำอุ่นที่ไหลผ่าลงมาร่วมชั่วโมงประหนึ่งว่าจะให้สายน้ำนั้นช่วยชำระล้างมลทินไปจากตัวเธอ
ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำเมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเสร็จเรียบร้อย เธอสวมเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวปกปิดเรือนกายเอาไว้ สายตาเหลือบมองไปก็เห็นว่าผู้ที่นอนอยู่บนเตียงบัดนี้ลุกขึ้นมานั่งยิ้มกริ่มอยู่ที่โซฟาแล้ว
“อย่ามองนะ!!”
คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นเสียงดังเมื่อเห็นว่าแวมไพร์หนุ่มจ้องมองมาที่เธออย่างไม่ละสายตา
“หึ!! รีบแต่งตัวซะแล้วก็ลงไปกินมื้อเช้ากับฉันที่ห้องอาหารด้วย ฉันจะลงไปรอ”
“ฉันไม่กิน!!”
“เป็นผู้รับใช้โลหิตห้ามขัดคำสั่งผู้เป็นเจ้านาย นี้คืออีกเรื่องที่เธอต้องรู้ อย่าช้าล่ะ ฉันไม่ชอบรออะไรนานๆ”
ไคน์พูดจบก็เดินออกจากห้องไปโดยไม่รอฟังคำพูดอื่นใดอีก ร่างสูงเดินตรงไปยังห้องอาหาร เขานั่งรอคนตัวเล็กที่โต๊ะอาหารขนาดใหญ่ ยังไม่ทันที่คนที่เขารอคอยจะเข้ามา กลับกลายเป็นพี่ชายอย่างเจ้าชายคิงส์ เคลล็อกก์ เดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขา
“ปกติไม่เห็นนายกินอาหารเช้านี่ วันนี้นึกยังไงล่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องรายงานพี่”
ไคน์เอ่ยตอบผู้เป็นพี่ชายอย่างไม่สบอารมณ์นักเมื่อถูกเขาเข้ามาขัดใจ
“นายคิดจะทำอะไร เหตุใดถึงให้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาอาศัยที่คฤหาสน์ นายก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าพวกเรากับเธอนั้นแตกต่างกัน”
“ผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ และก็รู้ด้วยว่าพี่ไม่ชอบใจนัก แต่หวังว่าพี่จะไม่ไปก้าวก่ายเธอ”
“หึ!! นายนี่มันเอาแต่ใจไม่หยุด เอาเถอะ...ฉันแค่มาเตือนนายน้องชาย อย่าทำอะไรให้ส่งผลเสียต่อการคัดเลือก”
เจ้าชายคิงส์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเงียบแต่แฝงไปด้วยความจริงจังและดุดัน พวกเขาสองพี่น้องถูกเลี้ยงดูมาด้วยความกดดันและถูกฝึกการเป็นผู้นำมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่แปลกที่พี่ชายอย่างเขาจะจริงจังและค่อนข้างเข้มงวดกับน้องชายผู้นี้มากเป็นพิเศษ
ทุกการสนทนานั้นถูกรับรู้ผ่านคนตัวเล็กที่ยืนฟังอยู่หน้าห้องอาหาร จนกระทั่งเจ้าชายคิงส์เดินสวนออกไป เขาไม่สนใจที่จะทักทายหรือถามไถ่เธอเลยแม้แต่น้อย นอกจากเดินผ่านเธอไปราวกับว่าเธอเป็นอากาศธาตุที่มองไม่เห็น
“มาแล้วเหรอ เข้ามาสิ”
ไคน์เอ่ยบอกคนตัวเล็กที่เดินเข้ามา อาหารวันนี้ทำให้เธอตะลึงไม่น้อย ไม่น่าเชื่อเลยว่าภายในคฤหาสน์ของแวมไพร์จะมีอาหารของมษุษย์อยู่ด้วย
“รีบกินสิ กินเสร็จจะได้รีบไปเรียน”
“อ่ะ...อื้ม”
คนตัวเล็กค่อยๆตักอาหารใส่ปากอย่างเชื่องช้า ท่ามกลางสายตาของแวมไพร์หนุ่มอย่างไคน์ที่นั่งมองเธอกินอาหารอย่างสบายใจ หลังจากกินเสร็จเรียบร้อย เขาก็ได้ให้บาร์รอนไปส่งคนตัวเล็กที่มหาวิทยาลัย เนื่องด้วยตอนนี้เขาไม่ไว้ใจกลัวว่าอีกฝ่ายจะแอบหนีไปอีก
ที่มหาวิทยาลัยในวันนี้แตกต่างออกไปจากทุกครั้ง นักศึกษาไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือแวมไพร์ต่างเข้ามาทักทายพูดคุยกับเธออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ไอรีน มานั่งกับพวกเราสิ”
หลากหลายการกระทำนั้นทำให้เธอรู้สึกไม่คุ้นชินเอาเสียเลย เธอเดินไปตามทางเดินเรื่อยๆจนกระทั่งพบชายผู้หนึ่งถูกรุมทำร้ายจากพวกแวมไพร์กลุ่มหนึ่ง
“นี่!!! หยุดนะ!!”
ไอรีนร้องห้ามเสียงดัง เธอรีบตรงเข้าไปผลักแวมไพร์หนุ่มในกลุ่มนั้นออกและช่วยพยุงชายหนุ่มที่ถูกรังแกขึ้นมาอย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
“พวกนายรังแกเขาทำไม”
