ข้อตกลง 2
หญิงสาววัยกลางคนค่อยๆนั่งลงและดึงคนตัวเล็กเข้ามาโอบกอดเอาไว้ด้วยความรัก เธอลูบศีรษะไอรีนด้วยความเอ็นดูเพื่อปลอบโยน
“ใจเย็นนะไอรีน เราจะต้องหาไอเดนเจอแน่นอนเชื่อป้านะ”
“หนูจะไปตามหาไอเดน มันต้องมีสักที่ ที่พวกเขาเอาตัวไอเดนไปซ่อนไว้”
“ไอรีน หนูต้องระวังตัวด้วย ป้าจะรออยู่ที่นี่เผื่อว่าแวมไพร์พวกนั้นจะพาไอเดนกลับมา”
คนตัวเล็กกล่าวลาป้าโรสและเดินออกจากบ้านพักไปอย่างเชื่องช้า เรี่ยวแรงและความหวังที่จะเจอน้องชายในตอนนี้มองไม่เห็นแม้กระทั่งแสงไฟที่ริบรี่
“ไอเดน ไอเดนอยู่ที่ไหน ไอเดน....ฮึก!!”
เธอเดินทางตามหาน้องชายไปทุกเมืองที่สามารถไปได้ และเดินหาทั่วทุกซอกทุกมุมของเมืองนั้นๆ แต่กับไม่พบแม้กระทั่งเงาของผู้เป็นน้องชายเลย ไอรีนพยายามตามหาจนสุดความสามาถ เธอไปทุกหนทุกแห่งจนลืมมองดูเวลาจากนาฬิกาที่ข้อมือเล็ก
---ติ๊ก---ติ๊ด---ติ๊ด---
เสียงสัญญาณจากนาฬิกาข้อมือดังแจ้งเตือนว่าตอนนี้เวลาได้ล้วงเลยเข้าสู่ 6 โมงเย็นแล้ว ร่างบางก้มมองดูด้วยความตกใจ
“หวังว่าไม่เกินห้าโมงเย็นเธอจะกลับมาถึงที่นี่”
คำพูดนั้นย้อนกลับเข้าสู่โสตประสาทอีกครั้ง เธอรีบวิ่งสุดแรงเกิดไปยังสถานีรถไฟ เพื่อซื้อตั๋วเดินทางกลับไปยังคฤหาสน์ใหญ่กลางเมืองหลวงโดยเร็วที่สุด
“เจ้าชาย...เอ่อ...ท่านจะเข้าไป....เอ่อ....”
“มีอะไร ฉันจะเข้าไปพบผู้รับใช้โลหิตสักหน่อย”
“เอ่อ คือว่า...คือ....”
“พูดมา!! รู้ใช่ไหมว่าการที่ให้ฉันต้องรอคำตอบนานๆจะเกิดอะไรขึ้น”
“ค่ะ..ค่ะ...คือว่า คุณหนูไอรีนเธอยังไม่กลับมาเลยค่ะ”
ดวงตาแข็งกร้าวเริ่มปรากฎขึ้นอีกครั้ง นัยย์ตาสีเขียวนั้นกลับกลายเป็นสีแดงก่ำในทันใด สองมือแกร่งกำเอาไว้แน่นจนเห็นเส้นเลือดผุดขึ้นมา
รังสีแห่งความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ ความเยือกเย็นกำลังปกคลุมไปทั่วคฤหาสน์ คนตัวเล็กที่ก้าวขาเข้ามายังบริเวณนั้นรู้สึกได้ถึงความเย็นวาบจนเสียวสันหลัง เธอเดินเข้ามาจนถึงหน้าห้องนอน พลันสายตาก็เหลือบเห็นแวมไพร์หนุ่มยืนนิ่งราวกับหินพร้อมกับสาวใช้ทั้งสองที่เฝ้าหน้าห้องเธอนั่งกองกันอยู่ที่พื้นตัวสั่นงันงก
---ตึก---ตึก---ตึก---
เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามานั้นทำให้ไคน์หันกลับไปมอง เขาเห็นร่างบางค่อยๆย่องเดินเข้ามา แวมไพร์หนุ่มไม่รอช้า เขารีบเข้าไปจับคนตัวเล็กแบกขึ้นบ่าและพาเธอเข้าห้องไปในทันที
---ปึ้ง!!!!---
“กรี๊ด!!! นายจะทำอะไรปะ...ปล่อยนะ!!”
เสียงประตูห้องถูกปิดลงด้วยความรุนแรงพร้อมทั้งเสียงกรีดร้องของคนตัวเล็กดังขึ้น เธอถูกเหวี่ยงลงบนเตียงกว้างจนร่างบางเล็กกระเด็นก่อนที่จะมีร่างที่แข็งแกร่งของอีกฝ่ายโถมทับตามลงไป
“ฉันบอกว่ายังไง? ให้กลับมาถึงที่นี้ภายในห้าโมงเย็นใช่ไหม? ดูเหมือนคำพูดของฉันจะไม่มีความหมาย หึ!!!”
มือหนาจับล็อกข้อมือเรียวเล็กทั้งสองข้างเอาไว้ก่อนที่จะเอื้อนเอ่ยคำพูดที่แสนเยือกเย็นออกมา มืออีกข้างลูบไล้ไปตามเรือนหน้างามไล่ลงไปจะถึงลำคอระหง
“เธอไปไหนมาถึงกลับเอาป่านนี้ หรือว่าฉันใจดีกับเธอมากเกินไป เธอถึงทำอะไรตามใจเช่นนี้”
“ปะ...เปล่า ฉันแค่ติดกิจกรรมที่ชมรม...เท่านั้น”
คนตัวเล็กโกหกออกไป อย่างไรแล้วจะต้องไม่ให้อีกฝ่ายรู้เรื่องที่เธอพยายามตามหาน้องชายเด็ดขาด เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นอีกฝ่ายอาจจะไหวตัวทันและย้ายน้องชายของเธอไปไว้ที่ใหม่
“โกหก!!!”
“ฉะ...ฉัน”
“วันนี้ทั้งวันเธอไม่ได้เข้าเรียนแม้แต่ชั่วโมงเดียว เธอคิดว่าการที่ฉันเป็นผู้ปกครองมหาวิทยาลัยจะไม่มีใครมารายงานอะไรฉันเลยหรือ หึ!!!”
คนตัวเล็กได้แต่อ้ำอึ้งไม่ตอบสิ่งใด เธอถูกเขาไล่ต้อนจนมุม ตอนนี้เธอไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไปเธอจึงจำใจที่จะเอื้อนเอ่ยถ้อยคำโกหกออกไปอีกครั้ง
“ฉะ...ฉัน แค่ไปหางานทำ ฉันอยากได้เงินมารักษาน้องชาย ฉันไม่ได้ไปไหนทั้งนั้น”
“หึ!! รู้ไหมสาวน้อย สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดคืออะไร?.....”
“อ่ะ...เอ่อออ.....”
“คำโกหกยังไงล่ะ!!!”
“ฉะ...ฉัน...ปะ......อื้ออออออออ”
ริมฝีปากหนาหยักลึกได้รูปสวยงามนั้นก้มประกบลงไปทาบทับริมฝีปากบางเพื่อปิดคำพูดของเธอเอาไว้ เขี้ยวแหลมคมของแวมไพร์สัมผัสกับริมฝีปากของสาวบริสุทธิ์เป็นครั้งแรก ดวงตาเขียวมรกตนั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ร่างสูงสอดลิ้นร้อนเข้าไปสัมผัสภายในโพรงปากเพื่อเชยชิมความหอมหวาน ร่างบางสั่นสะท้านกับสัมผัสแรกที่ได้รับ
“อื้อออ!!”
เรือนกายบางเล็กอ่อนทะทวยกับรสจูบที่เร่าร้อน ในช่วงต้นเธอเก้งๆกังๆ เพราะไม่เคยทำสิ่งนี้กับชายใดมาก่อน แต่รสจูบของเจ้าชายไคน์ที่ส่งมอบให้นั้นราวกับว่ามันเป็นรสจูบกระชากวิญญาณที่ไม่นานก็ทำเอาร่างกายเธอถึงกับระทวยอ่อนไหวไปตามรสสัมผัสนั้น
“หึ!! โต้ตอบได้ไม่เลวนี่”
แวมไพร์หนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างพอใจเมื่อผละริมฝีปากนั้นออก เขาค่อยๆใช้ลิ้นร้อนไล่เลียลงไปจนถึงคอระหงที่ขาวเนียน กลิ่นหอมที่ดึงดูดนั้นกระตุ้นสัญชาตญาณแวมไพร์ให้ลุกโชนมากยิ่งขึ้น ปากหนาที่มีเขี้ยวโผล่ออกมากัดงับเข้าไปที่ซอกคอของคนตัวเล็ก ความเจ็บปวดบวกกับความเสียวซ่านทำให้เธอถึงกับส่งเสียงร้องออกมา
“อ๊ะ!....อ๊า!”
ไอรีนเชิดคอขึ้นเพื่อคลายความเจ็บ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมถอดถอนเขี้ยวแหลมคมนั้นออกมาเลย รสชาตินี้เป็นรสชาติที่เขาไม่เคยได้ลิ้มรสและไม่เคยได้สัมผัสจากผู้ใด มันช่างเป็นรสชาติของความหอมหวานที่น่าหลงใหลมากเหลือเกิน
