ข้อตกลง 1
ณ คฤหาสน์เคลล็อกก์ สถานที่แห่งนี้ช่างมืดมนยิ่งนักสำหรับผู้หญิงตัวเล็กดั่งเช่นไอรีน ณ ที่แห่งนี้เธอไม่ไว้วางใจใครทั้งสิ้น ต่อให้จะเป็นสาวใช้ที่คอยดูแลเธออยู่ก็ตามที
“แวมไพร์เหล่านี้ไว้ใจไม่ได้ เชื่อถือไม่ได้”
คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นในห้องที่มีเพียงเธอคนเดียว เธอพยายามครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่กำลังเจออยู่ตอนนี้
“ไอเดน! ตอนนี้ไอเดนจะเป็นยังไงบ้าง พี่ขอโทษนะ...ฮึก! ขอโทษนะไอเดน...ฮึก! แค่ทำหน้าที่พี่สาวที่ดี พี่ยังทำไม่ได้เลย...”
ไอรีนนั่งกอดเข่าร้องไห้ฟูมฟายจนเธอรู้สึกเหนื่อย ตั้งแต่ที่เจอเรื่องราวพวกนี้มา เธอร้องไห้ทุกวัน ร้องจนแทบไม่มีน้ำตาให้ร้องอีกต่อไป
“เราต้องทำอะไรสักอย่าง จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้”
คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนเต็มความสูงด้วยท่าทีที่มั่นใจเป็นพิเศษ เธอไม่รอช้ารีบเดินตรงไปยังห้องส่วนตัวของเจ้าชายไคน์ทันที ประตูห้องถูกเปิดออกปรากฎให้คนตัวเล็กเห็นเป็นภาพของแวมไพร์หนุ่มที่กำลังเอนตัวนอนบนโซฟาตัวใหญ่อย่างสบายอารมณ์
ใบหน้าที่หล่อเหลาเชิญชวนให้ต้องหันสายตาไปมอง หุ่นที่ดีพอเหมาะเห็นแผงอกอยู่ลางๆ คนตัวเล็กเผลอยืนจ้องอยู่นานจนผู้ที่ถูกจับจ้องนั้นรู้สึกตัว
“มารยาทเบื้องต้นในการเข้าห้องผู้อื่นคือการเคาะประตูก่อน ไม่มีใครเคยบอกเธอเหรอ”
“เอ่อ...ขอโทษ...ฉะ...ฉัน แค่...เอ่อ..อยากคุยกับนาย”
“คุย? เธอยังไม่เข้าใจตรงไหนอีกเหรอ?”
“ฉันว่าเราต้องทำข้อตกลงระหว่างกัน”
“ข้อตกลง?”
ไคน์เอียงคอถามออกไปด้วยความสงสัยเล็กน้อยว่าข้อตกลงที่คนตัวเล็กหมายถึงนั้นคืออะไร
“ฉันจะยอมเป็นผู้รับใช้โลหิตของนายตามที่นายบอก แต่นายต้องห้ามกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน และต้องให้ฉันเจอกับน้องชายเพื่อให้ฉันมั่นใจว่าน้องชายของฉันปลอดภัยดีและพวกนายไม่ได้ทำร้ายเขา”
“ฉันรับปากว่าจะไม่กักขังเธอ แต่หากต้องการไปไหน ต้องให้บาร์รอนเป็นผู้พาไป ห้ามเธอไปคนเดียว ส่วนเรื่องน้องชายของเธอฉันจะให้เจอได้แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ยังไม่ถึงเวลา”
“เพราะอะไร? ฉันยอมตามที่นายต้องการแล้ว ทำไมถึงยังกักขังน้องชายฉันไว้”
“เพราะนั่นคือข้อต่อรองเดียวที่จะทำให้เธอไม่หนีไปจากฉัน”
ใจร้าย เขาช่างใจร้ายยิ่งนัก คนตัวเล็กพยายามอดกลั้นเพื่อไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมาต่อหน้าแวมไพร์หนุ่ม พวกแวมไพร์มักจะมองมนุษย์เป็นเพียงของเล่นหรือเครื่องมือที่ใช้ในการต่อรองเดิมพันเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอต้องตกอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างไปจากของเล่นของแวมไพร์เพื่อต้องการช่วยให้น้องชายนั้นปลอดภัย
“ไม่มีเวลามาร้องไห้แล้ว ฉันต้องตามหาไอเดนให้พบ”
คนตัวเล็กรีบกุลีกุจอแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษา เธอรีบวิ่งออกจากห้องทันทีแต่ดันไปเจอเข้ากับไคน์ซึ่งกำลังนั่งจิบไวน์อย่างสบายใจอยู่ที่ห้องโถง
“เธอจะไปไหน?”
เขาเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทางเร่งรีบของอีกฝ่าย วันนี้ไอรีนดูแปลกไปจากเดิม เธอเหมือนคนละคนกับหญิงสาวที่เขาได้เจอตอนที่โดนทำร้าย วันนี้เธอดูมีความมั่นอกมั่นใจและดูเข้มแข็ง
“วันนี้ฉันมีเรียน แค่ไปมหาวิทยาลัยนายคงไม่ต้องถึงขั้นให้คุณบาร์รอนไปส่งหรอกมั้ง”
“อืม...ตามใจเธอ ตารางขอเธอเรียนเสร็จบ่ายสาม และมีกิจกรรมชมรมต่อจนถึงสี่โมงเย็น หวังว่าไม่เกินห้าโมงเย็นเธอจะกลับมาถึงที่นี่”
คนตัวเล็กรีบวิ่งออกไปให้พ้นจากบริเวณของคฤหาสน์เคลล็อกก์ เธอรีบตรงไปยังสถานีรถไฟและซื้อตั๋วเดินทางกลับไปยังบ้านพักที่เธออาศัยอยู่กับน้องชายแถวชานเมืองทันที ไอรีนไปถึงที่นั่นก็รีบตรงปรี่ไปหาคุณป้าผู้มีพระคุณของเธอและน้องชาย ที่ได้ให้การช่วยเหลือและอุปการะดูแลเธอและน้องชายมาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
“ป้าโรสคะ”
“ไอรีน!!”
ทั้งคู่โผเข้ากอดกันแน่น โรสเป็นหญิงวัยกลางคนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ เธอคือผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ไล่ล่ามนุษย์ของเหล่าแวมไพร์เมื่อ 10 ปีที่แล้ว และได้ให้การช่วยเหลือเด็กชายหญิงสองคนที่นอนจับไข้ตัวสั่นอยู่ในโกดังเก่าๆ เธอช่วยรักษาจนเด็กชายหญิงทั้งสองคนหายจากอาการป่วยและได้อุปการะเลี้ยงดูจนพวกเขาทั้งคู่เติบโต
“ป้าคะ ไอเดน ไอเดนล่ะคะ”
“ไอเดนถูกพาตัวไปแล้ว หนูปลอดภัยดีไหมไอรีน หนูหายไปไหนมา ป้าได้ยินคนแถวนี้พูดกันว่าหนูถูกคนของเจ้าชายไคน์แห่งเมืองหลวงจับตัวไป มันเกิดอะไรขึ้น”
“ใครคะ? ใครที่พาไอเดนไป?”
ไอรีนไม่ตอบคำถามที่ป้าโรสได้ถามเธอ แต่เธอกลับถามป้าโรสอีกครั้งด้วยความสงสัย
“ป้าไม่รู้ พวกนั้นเป็นแวมไพร์มาจากเมืองหลวง พวกเขามาถามหาบ้านพักของหนูกับชาวบ้านแถวนี้ แล้วก็พาไอเดนขึ้นรถไป”
สิ้นเสียงบอกเล่าของป้าโรส ร่างบางเล็กก็ทรุดนั่งลงกับพื้นอย่างอ่อนแรงล้า น้ำสีใสไหลออกจากดวงตาอีกครั้ง เธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่าตอนนี้ผู้เป็นน้องชายจะเป็นตายร้ายดีอยู่ที่ไหนอย่างไร
“หนูมาช้าไป...ฮึก!”
