รักร้อนซ่อนคืนลวง 3 มีเซ็กซ์กันไหม
ผู้ชายบางคนมีกลิ่นเฉพาะตัว เหมือนน้องสุดหล่อของแผนกไอทีในออฟฟิศมีกลิ่นสดชื่นเหมือนทะเล หัวหน้าเธอเองก็มีกลิ่นเข้ม ๆ เหมือนฟางปนดิน
แต่เขาคนนี้...คนที่วัลย์วลีกำลังจูบอยู่ด้วย มีกลิ่นสะอาด ๆ ผ้าซักใหม่ที่ตากแดดจนแห้ง
“คุณ! “
มือขาวใหญ่ยกมาจับไหล่กลมกลึงผลักออกไป
“จะหวงตัวไปทำไม มันก็แค่จูบ หรือคุณไม่เคยจูบใคร”
คนเมาเสียงอ้อแอ้ ตาหวานเยิ้ม
“คนแปลกหน้า เขาไม่จูบกันหรอกนะ”
เขายกนิ้วโป้งปาดริมฝีปาก ความหวานรสค็อกเทลยังจาง ๆ ติดผิว
“เรารู้จักกันแล้ว คุณรู้จักชื่อฉัน แล้วคุณล่ะชื่ออะไร”
ชยธรทำหน้าไม่ถูกเมื่อโดนรุกไล่จากคนสติไม่ปรกติ
“ไม่ตอบเหรอ...”
เธอทำท่าจะเข้าหา เตรียมวาดแขนจะคล้องคอ
“คุณเมามากแล้วนะ กลับบ้านได้แล้ว”
“ฉันรู้ตัวเองดี คุณตอบมาก่อนว่าชื่ออะไร”
ความเมาเป็นเหตุให้เธอกล้า และเซ้าซี้ผิดปรกติเอากับคนแปลกหน้า
“งั้น...”
วัลย์วลีเดินโงนเงนจะถึงตัวเขา ชยธรจึงจำต้องบอก
“ใหญ่...ผมชื่อใหญ่”
“อะไรใหญ่”
หญิงสาวกวาดตาดูเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาดูตัวใหญ่กว่าเธอจริง หากวัดขนาดเทียบแบบชายหญิง แต่คืนนี้อยากตีรวนกวนโทสะใครสักคน
“ไม่รู้สิที่บ้านผมตั้งให้”
เธอหัวเราะคิกคัก ยกมือขึ้นชี้แล้วไหล่ก็ลู่ลงเพราะทรงตัวไม่อยู่จนต้องเกาะพนักพิง
“กลับบ้านได้แล้วหมาก ผมจะพาไปส่ง”
ที่อยู่ในบัตรประชาชนเธอเป็นที่อยู่ต่างจังหวัด แต่ดูจากการแต่งตัว เธอต้องมีที่พักอยู่ในกรุงเทพฯแน่
“ไม่เอา ฉันอยากดื่มต่อ”
“ถ้าดื่มมากกว่านี้คุณจะถูกผู้ชายหิ้วนะ”
ชยธรปรายตาไปยังหลายโต๊ะที่แอบมองดูเขาและเธอ
“งั้นแสดงว่าตอนนี้คุณจะหิ้วฉันน่ะสิ”
เธอจ้องตาเขาตรง ๆ เป็นผู้ชายที่ตาคม เข้มขรึม หากเจอกันในสถานการณ์แบบปรกติ ผู้ชายแบบนี้คงไม่มีวันมาคุยกับผู้หญิงธรรมดาอย่างเธอ
“ผมไม่มีอารมณ์จะหิ้วใคร ตอนนี้เบื่ออยากกลับแล้ว”
ชายหนุ่มเก็บกระเป๋าถือเธอ แล้วจับแขนดึงให้ร่างโปร่งเดินโซซัดโซเซไปกับเขา
“คุณหิ้วฉัน...ฉันมีคนหิ้ว นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยนะที่มีผู้ชายเลือกฉัน ดีใจจัง”
คนเมายังเห็นเป็นเรื่องรื่นเริง ปากพร่ำพูดระหว่างรอลิฟต์
“เราจะไปไหนกัน”
“บ้าน...คุณกลับบ้านคุณ ผมกลับบ้านผม”
เขาดันตัวเธอเข้าลิฟต์ จัดให้หลังไปแนบผนังเหล็กขัดเงา
“ฉันยังไม่อยากกลับ”
แค่คิดว่าตัวเองต้องนอนเดียวดายอยู่ห้องในวันเกิดตัวเองแล้วเธอก็ยกมือขึ้นห่อตัว
“กลับไปนอน เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ดีขึ้น”
“ความเสียใจที่ถูกแฟนสวมเขามันใช้เวลาวันเดียวเยียวยาได้เหรอ” วัลย์วลีเอียงคอถาม
“แต่งงานกันแล้วเหรอ ถึงใช้คำว่าสวมเขา”
ชายหนุ่มใช้หลังพิงผนังอีกด้าน พิจารณาคนเมา เธอแต่งตัวเรียบร้อย หวาน ผมยาว หน้าตาเรียบ ๆ ผู้หญิงอย่างนี้ผู้ชายหลายคนมักจะจีบเป็นแฟน เป็นแม่ของลูก แล้วอาจไปหาเศษหาเลยเหมือนแฟนคนนี้ของเธอ
“ยังไม่ได้แต่ง ขนาดมีเซ็กซ์กันยังไม่มีเลย”
ชยธรขมวดคิ้ว
“...คุณว่าอะไรนะ”
“ฉันไม่ยอมมีเซ็กซ์กับแฟน เขาเลยไปมีกับคนอื่น”
เธอเล่าสิ่งที่คิดได้ในสมอง
“เฮ้ย! เพ้อเจ้อน่าคุณ”
“คุณคิดยังไงกับผู้หญิงสวมส้นสูงพื้นรองเท้าแดงล่ะ”
วัลย์วลีช้อนตามองเขา ในตาแดงก่ำด้วยฤทธิ์เหล้าและการร้องไห้
“ใคร ๆ ก็สวมรองเท้าแบบนั้นได้”
แต่ในใจเขากำลังดึงความทรงจำของผู้หญิงเหล่านั้นที่เคยเห็น ล้วนแต่ค่อนข้างเปรี้ยวทั้งนั้น
“เป็นคุณจะไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นไหม ถ้าแฟนไม่ยอมมีอะไรด้วย”
การสนทนากลายเป็นการถามทัศนคติระหว่างชายหญิงไปเสียแล้ว
“ขึ้นอยู่ว่าเขากับผมว่าเรามีข้อตกลงกันว่ายังไง”
“หึ...เห็นไหมล่ะ สุดท้ายผู้ชายก็ห้ามจู๋ตัวเองไม่ได้”
เธอเหยียดยิ้มทำเสียงขื่นในลำคอ
“กินไม่เลือกหน้า ทรยศหักหลัง คอนโดนั่นฉันก็ช่วยผ่อน แต่เขากลับเอาผู้หญิงมาซั่มกันในวันเกิดฉัน ไม่เห็นหัวกันเลย”
การพร่ำพรรณนาแบบในบาร์เมื่อสักครู่เริ่มจะกลับ พอดีกับที่ลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่าง
“มาทางนี้ ผมจะเรียกแท็กซี่ให้ บอกโชเฟอร์ด้วยนะว่าจะไปไหน”
ชยธรดึงแขนวัลย์วลีออกมานอกตึก ออกจากซอยตรงไปถนนเส้นใหญ่ที่ห่างไปสามร้อยเมตร
“ฉันไม่อยากกลับ”
เธอยังดึงดันอยู่ดี
“งั้นก็บอกแท็กซี่ละกันว่าคุณอยากไปไหน”
ชายหนุ่มชักเห็นว่าค่าเหล้าแก้วเดียวไม่คุ้มกับความปวดหัว
“คุณมีแฟนไหม”
เมื่อมายืนกลางแสงไฟที่จัดจ้าขึ้นเขาจึงเห็นว่าตาเธอสีน้ำตาลอ่อนเกือบดำ ผมดำขลับที่ยุ่งเหยิงระไปด้านหลัง มีรอยการม้วนเกลียวที่แสดงว่ามันเคยสวยอยู่
“คุณจะถามทำไม”
“ในเมื่อแฟนนอกใจ ฉันก็จะนอกใจเขาบ้าง”
ตาคนเมาวาวขึ้น แหงนดูคนตัวสูงกว่า
“คิดอะไรบ้า ๆ นะคุณ”
เขาเอ็ด ภาวนาให้มีแท็กซี่ผ่านมาเสียที การสนทนานี้จะได้จบลง
“ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”
“อย่าหาเรื่องยุ่งให้ผม” ชยธรปรามเสียงเข้มลึก
“แค่ครั้งเดียว ไม่สึกไม่หรอหรอก คุณไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอ ไม่งั้นคงไม่มานั่งที่บาร์แบบนี้”
เธอคาดถูกเป๊ะ จี้ใจดำเขาอย่างจัง
“ไหนคุณบอกไม่เคยมีเซ็กซ์กับแฟนไง จะมีกับคนแปลกหน้าอย่างผมเหรอ”
วัยล์วลียกนิ้วชี้ขึ้นโบก
“ไม่ใช่คนแปลกหน้า ฉันชื่อหมาก คุณชื่อใหญ่ เรารู้จักกันแล้ว”
“ผมจะรู้ได้ยังไงว่าคุณไม่มีโรค”
“เก๊าะใส่ถุงยางไง”
“ผมไม่เอาด้วยหรอกนะ”
ใครก็ได้บอกชยธรที นี่ไม่ใช่ล้อกันเล่นนะ มีผู้หญิงแปลก ๆ มาเสนอตัวถึงที่
“หรือว่าฉันแก่ไป...”
หวนนึกถึงเสียงครางในคอนโดมิเนียม มันหวานใส ท่าว่ากิ๊กของแฟนคนนั้นจะสาวกว่าเธอ
“แต่ฉันมีนมนะ ก้นก็มี ฉันไม่ท้องหรอกเพราะกินยาคุมอยู่”
วัลย์วลีนำเสนอตัวเองด้วยเสียงไม่เบานัก คนรอรถเมล์รอบดึกที่หน้าป้ายถึงกับเมียงมอง
“ไหนว่าไม่มีอะไรกับแฟน กินยาคุมทำไม”
เขาเผลอซักอาการตามวิชาชีพ
“ฉันกินปรับฮอร์โมน ไม่ให้เป็นสิว”
หญิงสาวเล่าเหตุผลที่ฟังขึ้น แท็กซี่มาพอดี เขาโบกให้จอด วัลย์วลีเข้าไปก่อน ยังไม่ทันที่ชยธรจะปิดประตู เธอก็ดึงตัวเขาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีเข้ามาในแท็กซี่ รีบเอื้อมไปปิดประตู
“ไปเลยค่ะพี่”
“อะไรกันนี่คุณ”
เขาหน้าบึ้ง ขณะเธอส่งยิ้มเจ้าเล่ห์
“ไปโรงแรมที่ใกล้ที่สุดเลยค่ะ” คนขับพยักหน้า แล้วเลี้ยวรถหาสถานที่ที่ว่าให้
“คิดจะทำอะไร คุณต้องกลับบ้านนะ”
“ฉันจะทำลายความบริสุทธิ์ตัวเอง ไม่เก็บมันไว้ให้ใครแล้ว ว่าไง...คุณใหญ่จะยอมร่วมมือไหม ถ้าไม่ พี่แท็กซี่มีเมียหรือยัง ถ้าไม่มีมามีเซ็กซ์กับหนูไหม”
“เฮ้ย!”
ผู้ชายสองคนในรถร้องขึ้นพร้อมกัน
“ผมมีเมียแล้วคร๊าบ ลูกสอง ไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยก”
คนขับรีบบอก หญิงสาวตวัดสายตามาทางเขา
“งั้นเหลือแต่คุณ จะทำหรือไม่ทำ งั้นฉันจะได้หาคนอื่น”
“คุณมันบ้า...”
เขากัดฟันกรอด ทั้งโกรธทั้งโมโหที่ตนต้องมาตัดสินใจในสถานการณ์แบบนี้
“แค่มีเซ็กซ์เอง ทำเสร็จ น้ำแตกก็แยกทาง ฉันไม่เรียกร้องอะไรจากคุณหรอก สัญญา”
เธอยกนิ้วก้อยขึ้น โชเฟอร์มองผู้โดยสารประหลาดสองคนจากกระจกมองหลัง ท่าว่าวันนี้จะมีเรื่องเด็ดเล่าให้เมียฟังก่อนนอน
“ก็ได้...”
ชยธรตอบแบบข่มใจยั้งมือไม่ให้ตัวเองจับเธอเขย่าให้หัวสั่นหัวคอน เผื่อว่าสมองส่วนเหตุผลจะตื่นขึ้นมาบ้าง
“ผมไม่ชอบโรงแรม งั้นไปที่คอนโดXXX”
เขาเอ่ยชื่อคอนโดมิเนียมในทำเลหรูกลางกรุง แล้วต่างคนก็ต่างเงียบไป
