พ่อเลี้ยงบำเรอกาม /8
“พี่ปิงคิดอะไรอยู่ล่ะคะ”
“ฉันแค่สงสัยว่า เธอแปรงฟันหรือฉี่ประสาอะไร ต้องส่งเสียงครางน่ารำคาญดังออกไปข้างนอนโน่น”
“อ๋อ...” เธอเพิ่งจะถึงบางอ้อ
“ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะครางเพราะฉี่ราดหรอกนะ หรือเธอจะเอาแปรงสีฟันของฉันไปใส่ในรูเธอ ถึงต้องครางเป็นคนบ้าขนาดนั้น”
“ว้าย!!!” แสงดาวแสร้งตกใจ เสียงนั้นเธอก็แค่เปล่งออกมาได้ทุกครั้งเวลาปัสสาวะเสร็จ มันเป็นเรื่องปกติของเธอที่ไม่เคยบอกใคร และไม่จำเป็นต้องเปิดเผย เธอก็แค่ได้ปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้นจนโล่งวาบก็เท่านั้น
แต่แหม...เสียงของเธอดังไปนิดเดียว เลยกลายเป็นเรื่องขึ้นมาได้
“ปากร้ายจังเลยนะคะผัวแม่”
“แสงดาว!!” ปรมัยกระชากต้นแขนของคนที่ยังคาบแปรงสีฟันคาปาก “กลับบ้านไปเดี๋ยวนี้”
“ดาวจะกลับพร้อมผั...พี่ปิง”
ปรมัยสบถแล้วกระชากแปรงสีฟันโยนทิ้ง ก่อนจะเปิดก๊อกน้ำแล้วใช้มือรองน้ำมาลูบปากแม่ตัวดีแรงๆ เหมือนต้องการให้เธอเจ็บ แต่แทนที่แสงดาวจะโกรธ เธอกลับหัวเราะคิกคักชอบใจนักหนา ชายหนุ่มจึงเกิดความหมั่นไส้บีบเต้านมเธอหนักๆ คราวนี้เสียงหัวเราะนั้นเงียบกริบ
“อูยยยย พี่ปิงขา ยอดอกดาวแค้งแข็ง”
ปรมัยหมดความยับยั้งชั่งใจ ถอดกางเกงแสงดาวออก แล้วกระตุกกางเกงยีนที่ตนสวม ความเป็นชายผงาดง้ำชวนให้แสงดาวกดตามองมือไม้สั่น
“จะทำแล้วหรือคะ”
“ฉันจะไม่ทนกับความแรดร่านของเธออีกแล้วแสงดาว”
ร่างของแสงดาวถูกผลักจนชิดผนังห้องน้ำเย็นเฉียบ ด้วยความโมโหที่ออกจะลนลานเต็มไปด้วยอารมณ์อยากลงโทษ ปรมัยจึงยกปลายขาข้างหนึ่งของเธอขึ้นสูง แล้วเบียดลำชายขนาดใหญ่เข้าสู่ท้องร่อง
“โอยยย พี่ปิงขา ดาวเจ็บ”
ปรมัยไม่ฟัง ในเมื่อเธอรนหาที่เองก็ไม่จำเป็นต้องอ่อนโยน ความเป็นชายของปรมัยทะลุทะลวงเข้าสู่ร่องกระสันของลูกเลี้ยงจอมยั่ว แสงดาวเจ็บจนน้ำตาเล็ด ไม่คิดว่าเซ็กซ์ที่แท้จริงจะสร้างความเจ็บปวดได้ขนาดน้ำตาร่วง
แม้กายสาวจะรัดแน่นจนอึดอัด แม้จะตุบตอดเป็นจังหวะจนลมหายใจต้องระส่ำระสาย ปรมัยก็ไม่อาจห้ามความต้องการอันแรงกล้าตั้งแต่ฝังร่างเข้าสูงร่องสวาทของเธอ
“อ๊า...”
คราวนี้แสงดาวไม่จำเป็นต้องเปล่งเสียงครางออกมาเลย เพราะเพียงแค่เธออ้าปากยามที่กายแกร่งเบียดบดเข้าหา แรงกระทั้นก็ทำให้เสียงของเธอหลุดออกมาเองโดยไม่ต้องพยายาม
ทว่าความเจ็บปวดนั้นเกิดขึ้นเพียงครู่เดียว เธอก็ลืมสิ้นความเจ็บปวดเหลือเพียงความเสียดเสียว แรงเสียดสีนั้นทำให้สาวน้อยคิดถึงผนังถ้ำที่ถูกครูดไถ มันคงถลอกแล้วกระมั้งเพราะท่อนเนื้อนั้นแข็งแกร่งเหมือนเหล็กกล้า
“ซี้ดดด เสียวจังเลยค่ะพ่อ”
เธอหลุดปากเรียกเขาว่าพ่ออีกแล้ว
แต่คราวนี้ทำไมปรมัยถึงไม่ฉุนโกรธ กลับเกิดความรู้สึกที่ลึกล้ำเกินกว่านั้น ในหัวของเขามีแต่เธอ สองมือก็กระชากเอวเล็กเข้าหา เรียวปากหนาได้รูปปล้นจูบไปทั่วดวงหน้าหวาน
“สาแก่ใจแล้วหรือยัง...ฮึ”
ดุ้นชายที่ยังจมจ่อมอยู่กับการเคลื่อนไหวเข้าออกในร่องหลืบ สองมือที่เลื่อนขึ้นมาบีบขยำเต้าทรวงอวบใหญ่จนเสื้อเธอเปียกแนบไปกับเนื้อหนังมังสา
“โอว์...”
สะโพกสาวบิดส่ายไปมาอย่างยั่วยวนโดยอัตโนมัติ
“พ่อขา ดาวไม่รู้เป็นอะไร ร่างกายดาวมันร้อนระอุเลยค่ะพ่อ”
“ร่านอยากได้น้ำน่ะสิเด็กบ้า”
แสงดาวปรือตาขึ้นสบนัยน์ตาคมกริบเรืองรอง เธอยื่นปากขึ้นจูบปากพ่อเลี้ยงของตน แล้วตะปบสองมือเข้ากับสะโพกสอบแข็งที่ขยับโยกเป็นจังหวะ
“อ๊ะ...อ๊ะ...”
ปรมัยกระแทกกระทั้นความเป็นชายอย่างมีชั้นเชิง เขาลดมือรั้งบั้นท้ายของลูกเลี้ยงแล้วยกตัวเธอขึ้นสูง สาวน้อยก็ตวัดปลายขารัดรอบเอวหนาในทันที
“แม่เธอออกจะเรียบร้อย โชคร้ายที่มีลูกอย่างเธอเข้า”
“พ่อจะด่าดาวก็ด่าไป ซี้ดดด ตอนนี้ดาวไม่สนใจแล้วล่ะ อ๊า”
ปรมัยโจนจ้วงอยู่ในร่องสวรรค์ ลูกเลี้ยงของเขาก็กระเด้งสะโพกตามราวกับรู้งาน ร่องเนื้อของเธอบีบรัดท่อนเอ็นยิ่งตอนขยับก็ยิ่งรัดแน่น สีหน้าของเขาคงสลับสีเหมือนไฟเธค เพราะความเสียวที่ห่อรัดชนิดฆ่าให้ตายได้เลย
ไม่คิดเลยว่าจะได้ลูกเลี้ยงมาเป็นเมียอีกคน ก็เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่ทนลูกยั่วจากเธอไหว
“เด็กบ้า!!”
ถ้าปรมัยซาดิสม์ หัวของแสงดาวก็คงโนปูดเท่าลูกมะกรูด เพราะเขาจับเธอหันหลังใช้มือดึงรั้งเรือนผมยาวสลวย บางครั้งก็กระชาก บางครั้งก็ลูบไล้ แสงดาวก็ชอบเหลือเกินไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับเธอ สาวน้อยก็ชอบทั้งหมด
สายน้ำสีขาวขุ่นจัดที่ฉีดไปบนหน้าท้องแบนราบย้ำเตือนให้รู้ว่าแสงดาวเป็นเมีย ในความรู้สึกที่ยากเกินบรรยาย ปรมัยกำลังมีความสุขในแบบที่เขาห่างเหินมานาน ครั้งก่อนจะเจอสุดารัตน์และได้มาอยู่กับเศรษฐีนีหม้ายคนนี้ ปรมัยมีแฟนสาวชื่อนาถตยา เธอเป็นผู้หญิงคนแรกและเป็นคนเดียวที่ทำให้ใจเขาสั่นไหวได้ แต่นั่นก็คืออดีต
การคบกันเพียง 2 ปี เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ปรมัยมีความสุข แต่แล้วเธอก็จากไป ทอดทิ้งเขาไว้กับความฝัน ฝันที่ปรมัยหวังจะใช้ชีวิตร่วมกับเธอ เขาไม่เคยได้ข่าวเธอกระทั่งเมื่อ 4 ปีก่อน เขารู้มาว่าเธอแต่งงานกับเศรษฐีเฒ่าชาวอเมริกัน แต่ ณ ขณะที่รู้หัวใจของเขานั้นว่างเปล่าไปนานแล้ว ปรมัยจึงไม่คิดจะสนใจเพราะภาพของเธอก็เลือนหายไปตามกาลเวลา
