พ่อเลี้ยงบำเรอกาม /21
21.35 น. ทั้งคู่ก็มาถึง Route Nigth
“สวัสดีครับคุณหนู สบายดีนะครับ” เทวาทักทายแสงดาวอย่างอารมณ์ดี
“สวัสดีค่ะพี่เทพ ดาวก็ตามอัตภาพค่ะ ไม่ได้เจอพี่เทพนาน สบายดีนะคะ”
“สบายดีครับ”
ปรมัยเกี่ยวเอวแสงดาวดึงเธอให้เดินตามกันไป พร้อมกับมองเทวาตาเขียว เทวาเลิกคิ้วเบ้ปาก แล้วลอบหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินหนี
“ดาวยังทักทายพี่เทพไม่เสร็จเลยนะคะ”
“แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ถ้าอยากคุยกันนักค่อยนัดกันนอกรอบ” น้ำเสียงฉิวๆ ของเขาทำให้เธอย่นหัวคิ้ว
“หึงหรือคะ”
“บ้าสิ! ฉันจะหึงเธอทำไม” คนปากแข็งดันเธอออกห่างตัวเมื่อขึ้นมาอยู่ในห้องทำงานแล้ว
“หึงก็บอกมาเถอะ” แสงดาวยังเดินตามไปยั่วโมโห
“เธอคิดว่าตัวเองจะมีค่าขนาดทำให้ฉันหึงเชียวเหรอ”
ประโยคนี้ทำเธอสะอึก หญิงสาวถึงกับพูดไม่ออก และชายหนุ่มก็หาได้สนใจ เธอจึงถอยหลังไปนั่งบนโซฟาอย่างครุ่นคิด
ดูเหมือนความพยายามไม่เป็นผลสำเร็จเสียแล้ว
ปรมัยลอบมองเพียงนิดก็สนใจงานตรงหน้า ทำราวกับเธอไร้ตัวตน แสงดาวเจ็บปวดใจแต่ไม่แสดงออก เธอถูกเขาด่า ถูกต่อว่าเสียๆ หายๆ มานานจนชาชิน ไม่คิดจะถือสาเพราะความรักทำให้เธอมองข้ามทุกสิ่งทุกอย่าง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็พลันจะมลายหาย
เมื่อนั่งอยู่เงียบๆ จนเริ่มเบื่อก็ขอลงไปข้างล่าง
“ดาวลงไปข้างล่างนะคะ”
ปรมัยเงยหน้ามองก่อนพยักหน้าไม่พูดไม่จบ แสงดาวยิ่งน้อยใจเพิ่มทวีคูณ เธอพาหัวใจห่อเหี่ยวด้วยเขาไม่รักลงไปนั่งฟังเพลงเพราะๆ เพียงลำพัง
“ดาวๆ”
เสียงใครบางคนเรียกชื่อเธอ แสงดาวเงยหน้าขึ้นจากน้ำส้มคั้นไร้แอลกอฮอล์เห็นอรทัยก็รีบลุกขึ้นอย่างตกใจ
ลืมไปเลยว่ารับเงินมาแล้ว
“ทัย”
“ดีใจจังที่เจอเธอที่นี่ ฉันโทร.หาเธอเป็นร้อยรอบก็ไม่ยอมรับสาย นี่เธออย่าบอกนะว่าจะชิ่งงานดื้อๆ รับเงินไปแล้วแต่ไม่ยอมไปตามนัด เธอรู้มั้ยว่าเจ๊โมโหเธอแค่ไหน เห็นว่าจะไปตามหาเธอที่บ้านเลยนะ”
“เอ่อ...ขอโทษนะทัย ฉัน...” แสงดาวอ้ำอึ้งด้วยสำนึกผิด
“เจ๊ปานจะไปตามหาเธอถึงบ้าน ฉันก็เลยมาหาเธอที่นี่ก่อน เพราะเธอชอบมาที่นี่”
“ฉันจะคืนเงินให้ทุกบาททุกสตางค์ แต่ต้องเป็นพรุ่งนี้นะ เพราะเงินอยู่ที่บ้าน”
“ได้ไง เธอรับปากจะทำงานแล้วนะดาว ลูกค้าก็สนใจเธอ ติดต่ออยากให้เธอไปร่วมงาน เงินทั้งนั้นนะกล้าปฏิเสธเหรอ”
“ใจเย็นๆ ทัย ฟังฉันก่อน” แสงดาวพยายามอธิบาย แล้วเพิ่งจะสังเกตเห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังอรทัย “เอ่อ...”
อรทัยเห็นสายตาเพื่อนก็หันไปหาคนที่มาด้วย
“อ้อ...นี่คุณอภิรักษ์ ลูกค้าฉันเอง พอดีเขาอยากมาเที่ยวที่นี่อยู่แล้ว ก็เลยมาพร้อมกันซะเลย” อรทัยบอกเสร็จก็หันไปแนะนำเพื่อนให้ผู้ชายคนนั้นรู้จัก
“คุณรักคะ นี่แสงดาว เพื่อนที่ทัยเล่าให้ฟังไงคะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ เพื่อนน้องทัย สวยไม่แพ้น้องทัยเลย นี่นางฟ้าหรือมนุษย์ครับ พี่ชักไม่แน่ใจ” ผู้ชายก็หยอดคำหวานให้สองสาว
“แหม...คุณรักล่ะก็ มนุษย์ที่ไหนล่ะคะ นางฟ้าชัดๆ” อรทัยหัวเราะคิก
“ใช่ครับ นางฟ้า...” อภิรักษ์มองแสงดาวตาปรอย อรทัยเห็นเข้าก็คิดอะไรบางอย่างได้
“นั่งด้วยกันสิทัย” แสงดาวชวนเพื่อนเมื่ออรทัยมองหาโต๊ะว่าง เธอรีบกระตุกมืออภิรักษ์นั่งร่วมโต๊ะกับแสงดาว
“โทษฐานที่เธอทำผิด ต้องขอโทษฉันด้วยการเลี้ยงเหล้า”
“ได้สิ สั่งเลยอยากดื่มอะไร ลงบัญชีฉันไว้ ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวมา” เพื่อเป็นมารยาทที่ดี แสงดาวก็หันไปบอกอภิรักษ์
“ได้ครับ”
เมื่อแสงดาวไม่อยู่ที่โต๊ะ
“เพื่อนน้องทัยคนนี้สวยถูกใจพี่มากเลยนะครับ เป็นไปได้ไหมครับถ้าพี่จะเดทกับเธอคืนนี้”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ”
“เพื่อนน้องทัยจะใจตรงกับพี่หรือเปล่าครับ”
“ไม่ตรง ก็ไม่เห็นจะยากเลยนี่คะ คุณรักก็แค่ใช้เงินเปย์ยัยดาวหน่อย ตอนนี้เธอร้อนเงินค่ะ แต่ต้องระวังนะคะ เพราะผับนี้เป็นของพ่อเลี้ยงยัยดาว แต่ทัยว่าเขาคงไม่มาสนใจหรอกค่ะ เพราะตอนนี้แม่ยัยดาวก็ตายไปแล้ว ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันอีก”
“เหรอครับ ถ้างั้นก็ดีสิครับ พี่ชอบช่วยเหลือทุนการศึกษาสาวๆ” อภิรักษ์ยิ้มอารมณ์ดี หมายหมั้นปั้นมือว่าจะได้แสงดาวไปช่วยคลายเหงาคืนนี้
“งั้นทัยไปก่อนนะคะ คุณรักก็ถือว่าช่วยดาวมัน เจ๊ปานจะแหกอกมันอยู่ ทัยจะได้ไปบอกว่าคุณรักซื้อดาวไปแล้ว”
“ได้ครับ ไม่ต้องห่วง” อภิรักษ์ควักเงินในกระเป๋าเป็นแบงก์พันหลายใบส่งให้อรทัย “ฝากเงินนี้ไปให้เจ๊ปานนะครับ เจ๊จะได้ไม่ถือโทษโกรธน้องดาว น่าสงสารเธอนะครับ เธออาจจะกลัวๆ อยู่ ยังไงพี่จะดูแลเธออย่างดีที่สุดเลยครับ”
“ขอบคุณมากๆ ค่ะ ทัยขอตัวนะคะ” อรทัยบอกลา ทิ้งอภิรักษ์ให้อยู่กับแสงดาว
ฝ่ายอภิรักษ์กลัวแสงดาวปฏิเสธ จึงหยิบซองสีขาวออกมาจากกระเป๋าเงิน เทผงสีขาวลงไปในน้ำส้มของแสงดาว ก่อนจะขยำกระดาษทิ้งลงพื้น ไม่นานแสงดาวก็เดินกลับมา
“อ้าว...ทัยไปไหนเสียล่ะคะ” เธอมองหาอรทัย
“น้องทัยออกไปโทรศัพท์ข้างนอกครับ เดี๋ยวก็กลับเข้ามา” อภิรักษ์โกหก
