พ่อเลี้ยงบำเรอกาม /11
แสงดาวจับมือบางของมารดาบีบเบาๆ ทั่วร่างของท่านมีสายอะไรไม่รู้ติดไว้เต็มไปหมด เธอสงสารท่านสุดหัวใจ
“ดาว...” เสียงเรียกนั้นแหบแห้งอย่างคนไม่มีแรง “อย่าร้องไห้” แต่ละคำที่พูดออกมานั้นช่างเบาบางจนต้องก้มหัวลงต่ำเพื่อจะฟังให้ได้ยิน
“แม่จ๋า ดาวขอโทษ”
“เลิกขอโทษแม่ได้แล้ว ถ้าสิ่งที่ดาวทำลงไปคือความรัก ไม่ใช่แค่ต้องการเอาชนะ...แม่” สุดารัตน์พยายามเปล่งเสียงออกมาให้ชัดที่สุด แม้ว่าลำคอของเธอจะแห้งผากจนพูดไม่ออก กระนั้นก็ยังมีความห่วงหวงที่ต้องบอกออกไป
“ดาวขอโทษค่ะ ดาวจะไม่ทำอีกแล้ว ดาวอยากอยู่กับแม่มากกว่าคนอื่น ฮือๆ”
“อย่าร้องแสงดาว แม่รักหนูมากนะ แม่ตบหน้าหนูเพื่อให้หนูรู้ตัว หนูยังไม่รักตัวเองแล้วจะรักคนอื่นได้ยังไง ถ้าหนูรักตัวเองจะต้องไม่ทำลายตัวเองแบบนี้”
“ฮือๆ ดาวผิดไปแล้วค่ะ ดาวผิดไปแล้ว”
สุดารัตน์วางมืออันสั่นเทาลงบนศีรษะของลูกอย่างเข้าใจและเป็นห่วงแสนห่วง
“ดาวฟังแม่นะลูก สิ่งที่ดาวทำนั้นไม่ผิด แม่กับปิงไม่เคยมีอะไรกัน นับจากนี้ไปอย่าจมอยู่กับความเสียใจ ดาวต้องสู้”
“แม่พูดอะไร ไม่เอาไม่พูดแบบนี้นะคะแม่ ฮือๆ”
แสงดาวส่ายหน้า สิ่งที่แม่กำลังบอกนั้นเหมือนการบอกลา เธอไม่อยากฟัง ไม่อยากได้ยิน และทนไม่ได้ถ้าต้องเสียแม่ไปตอนนี้ เธอผิด และความผิดนี้คงจะติดตัวไปจนตาย
“บ้านของเรา ดาว...บ้านของเราติดจำนอง แม่มีแค่เงินส่วนหนึ่งในบัญชี ทรัพย์สมบัติอื่นไม่มีอีกแล้ว แม่ไม่เคยบอกดาวเพราะยังไม่ถึงเวลา แต่ตอนนี้...แม่คงต้องบอก”
น้ำตาของสุดารัตน์ไหลริน เธอไม่อาจทนเจ็บปวดได้อีกต่อไป และนี่ก็ถึงเวลาที่แสงดาวจะต้องโตเป็นผู้ใหญ่เสียที
“แม่...ฮือๆ” น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าอาบหลังมือแม่ แสงดาวร้องไห้อย่างไม่อายใคร ต่อให้เธอดื้อและเกเรขนาดไหน สิ่งหนึ่งที่ลูกอย่างเธอก็ยังมีอยู่เต็มหัวใจนั่นก็คือรัก รักที่มีให้กับมารดาของตน รักที่ไม่เหมือนความรู้สึกต่อปรมัย
“น้าหงส์จิราเป็นคนรับจำนองบ้านไว้ แต่มูลค่าของมันมากมายนักดาว คนที่ช่วยหนูได้คือปิง”
“พี่ปิง...ไม่รู้เรื่องหรือคะ” แสงดาวสงสัย
“ไม่รู้ ต่อจากนี้ถ้าหนูจะอยู่รอดต่อไปได้ หนูจะต้องอยู่ใกล้ๆ ปิงเข้าไว้ ถ้าหนูทำให้เขารักได้ แม่จะนอนตายตาหลับ”
“ไม่ค่ะ ดาวรักแม่ ดาวจะอยู่กับแม่”
“ดาวรักพี่ปิงไม่ใช่หรือลูก แม่จะไม่บังคับปิง เพราะแม่บังคับเขามามากแล้ว ต่อไปนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของดาวเอง แต่ดาวต้องระวังน้าหงส์จิราให้มากๆ เธอร้ายมากนะลูก ดาวต้องระวังตัวให้ดีๆ”
“แม่อยู่กับดาวต่อไปนะคะ ดาวคงทำใจไม่ได้ถ้าแม่...แม่ไม่อยู่ ฮึกๆ ฮือๆ”
“โตเป็นสาวแล้วนะลูก อย่าร้องไห้ขี้มูกโป่งแบบนี้ หมอรักษาแม่ไม่ได้หรอกลูก คนเราเกิดมาก็ต้องตาย อีกอย่าง...ถ้าไม่มีแม่ ก็ไม่มีใครครหาในความสัมพันธ์ของดาวกับปิงได้อีก”
สุดารัตน์สะดุดลมหายใจตัวเอง แต่ก็ยังพยายามแปล่งเสียงแหบแห้งออกมาเป็นประโยคสุดท้าย
“จำไว้นะดาว แม่ไม่เคยโกรธดาวเรื่องปิง แม่ไม่เคยรักปิง แต่แม่รักดาวลูกของแม่ ไม่อยากให้ใครๆ ติฉินนินทาลูกแม่ แต่เมื่อแม่ไม่อยู่ปิงจะเป็นอิสระจากพันธนาการจำเป็นเสียที อยู่ข้างๆ ปิงและทำให้เขารักหนูให้ได้ ดาวต้อง...ทำได้ เพื่อ...แม่” ริมฝีปากซีดขาวขยับเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะนิ่งไปพร้อมกับลมหายใจเฮือกสุดท้าย
“ไม่...ไม่...แม่ขา...” แสงดาวส่ายหน้าเมื่อเห็นเปลือกตามารดาค่อยๆ ปิดลง ริมฝีปากของท่านก็ซีดเผือดไม่มีสีเลือด “แม่ขา...แม่...กลับมาอยู่กับดาว แม่!!!”
ปรมัยเข้ามาหยุดยืนมองลมหายใจเฮือกสุดท้ายของสุดารัตน์ แต่ไม่ทันได้ยินประโยคยาวๆ ที่ออกมาจากความพยายามของสุดารัตน์ แม้ว่าเขาจะเสียใจมากแต่น้ำตาของลูกผู้ชายก็ไม่ไหลออกมา มีเพียงความรู้สึกที่แสดงผ่านขอบตาแดงๆ เท่านั้น เขารู้ดีจะต้องถึงวันนี้จนได้ แต่ไม่คิดว่าสุดารัตน์จะจากไปกะทันหันแบบนี้ วูบหนึ่งก็ได้แต่โทษตัวเองที่มีส่วนทำให้สุดารัตน์จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ
สิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำได้ ปรมัยพนมมือแล้วก้มกราบแทบเท้า เขามีทุกวันนี้ได้เพราะสุดารัตน์และจะไม่ลืมพระคุณเลย
งานศพของสุดารัตน์ผ่านพ้นไป แสงดาวอยู่ในบ้านหลังใหญ่กับปรมัย ซึ่งตั้งแต่พ้นงานศพก็แทบไม่ได้เจอหน้ากันเลย ปรมัยจงใจที่จะหลบหน้า แม้แสงดาวจะรอจนเขากลับถึงบ้านก็มีแค่คำทักทายสั้นๆ ก่อนจะแยกย้ายเข้านอน
เวลาผ่านไปจากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน
วันหนึ่งแสงดาวลงมาเจอปรมัยในตอนสาย เขาไม่ใส่เสื้อ มีเพียงกางเกงวอร์มขายาวตัวเดียว แสงดาวรู้ได้ในทันทีว่าเขาไปจ๊อกกิ้งมาแน่ๆ แต่ทำไมวันนี้ถึงอยู่บ้านได้
“พี่ปิงไม่มีนัดหรือคะวันนี้”
“อือฮึ” ปรมัยกวาดตามองชุดกระโปรงบานสีชมพูหวานแว๋วที่เธอสวมแล้วขมวดคิ้วมุ่น
