พ่อเพื่อนบำเรอรัก /21
“เบื่อชะมัด!” เสียงหวานดังมาก่อนคนสวยจะกระแทกก้นนั่งข้างๆ ไอ้เป้
“เป็นอะไรวะแหวน วันนี้ดูอารมณ์เสียแปลกๆ” วลัยกรเป็นน้องสาวของปกรณ์ เธอมาทำงานที่รีสอร์ตเพราะพี่ชายฝากฝังให้
“ฉันถูกลดงาน”
“อ้าว! ทำไม”
“นายหัวพาคนงานคนใหม่มาทำแทนน่ะสิพี่ ฉันล่ะเซ็งเลย”
“ใครกันวะ ทำน้องแหวนของพี่ชิดเซ็งขนาดนี้” ไอ้ชิดส่งตาฉ่ำหวานให้วลัยกร
“นั่นไงพี่ นังคนนั้นไงที่มันแย่งงานแหวน”
วลัยกรพยักเพยิดไปทางมายาวดี ไอ้ชิดมองตามก่อนจะพยักหน้าให้วลัยกร
“เด็กนายหัว”
“เด็กนายหัว?” วลัยกรตกใจก่อนจะนึกถึงตอนที่นายหัวเดโชจูบกระหม่อมมายาวดีเมื่อเช้า “จริงสิ ฉันลืมไปสนิทเลย”
“อย่าคิดมากเลยนังแหวน ลดงานก็ไม่ได้ไล่ออก เงินเดือนล่ะลดลงด้วยหรือเปล่า” ปกรณ์ถามด้วยความสงสัย
“นายหัวไม่ได้บอกน่ะพี่เป้”
“งั้นก็เลิกคิดมาก เพราะถ้าโดนตัดเงินเดือนด้วย นายหัวเรียกไปคุยแล้วป่านนี้ มองในแง่ดีนายหัวอาจจะอยากให้ใครช่วยแบ่งเบาภาระเรา”
“ตัดแขนตัดขาฉันล่ะมากกว่าพี่” วลัยกรหลุดปาก
“หมายความว่าไง” ปกรณ์หรี่ตามองน้อง
“ไม่มีอะไรหรอกพี่เป้ เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ฉันหิวจนตาลายแล้ว” เธอตัดบทตักข้าวใส่ปากเมื่อปกรณ์เลิกสนใจจึงตวัดสายตามองชัยชิดด้วยสื่อถึงความหมายที่รู้กันเพียงสองคน
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน
“คุณหยากลับยังไงคะ” ราตรีร้องถามเมื่อเก็บของเสร็จ
“เอ่อ...” สงสัยต้องเดินกลับล่ะมั้ง
“ซ้อนท้ายรถลูกน้ำไปไหมคะ เดี๋ยวลูกน้ำไปส่ง ว่าแต่คุณหยาพักที่ไหนคะ”
“หยาพักกับนายหัวค่ะ” บอกไปแล้วแก้มก็เห่อร้อนขึ้นนิดๆ
“อ้าวหรือคะ ลูกน้ำไม่รู้นะนี่”
เมื่อตอนกลางวันราตรีกับมายาวดีทานข้าวด้วยกันจึงพูดคุยเรื่องทั่วไป เช่น อายุเท่าไหร่ เรียนจบอะไร เป็นคนที่ไหน มายาวดีก็เห็นว่าราตรีอายุน้อยกว่าเธอ 2 ปี เรียนจบปวส.ก็ได้ทำงานที่นี่ คุยกันไปมาเกิดถูกชะตากันอย่างบอกไม่ถูก
แต่เรื่องที่พักนี่ราตรีก็ลืมถาม พอรู้เข้าจึงตกใจไม่น้อย
“งั้นที่ได้ยินก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิคะ”
“ลูกน้ำได้ยินอะไรหรือคะ”
“ก็ได้ยินมาว่า...คุณหยาเป็นเด็กนายหัวไงล่ะคะ” ปลายเสียงนั้นแผ่วเบาเหมือนกลัวว่าใครจะได้ยิน และทั้งคู่ก็คุยกันอย่างลืมไปเลยว่ามีใครอีกคนยืนอยู่ด้วย
วลัยกรลอบมองหน้ามายาวดีอยู่เหมือนกัน ทั้งที่มือก็แกล้งทำเป็นจัดโน่นจัดนี่ไม่หยุด
“เอ่อ...” จะบอกว่าใช่ก็กระดากปากเหมือนกัน “คือว่า...”
“ยะหยา” เสียงทุ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของใครบางคนก็ดังขึ้น พอทุกคนหันไปเห็นว่าเป็นใครก็พากันมีสีหน้าแปลกประหลาด “คุยอะไรกันอยู่เหรอ”
“คุณเดย์! หยานึกว่าจะยังไม่กลับซะอีกค่ะ”
เดโชก้าวเข้ามาเกี่ยวเอวเล็กอย่างแสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่ มายาวดีอยากหยิกให้เนื้อหลุด อยู่ใกล้ไม่ได้ถึงเนื้อถึงตัวทุกที
“ก็รีบกลับ กลัวเธอจะต้องเดินกลับไง”
“ถ้านายหัวยังไม่กลับ ลูกน้ำไปส่งคุณหยาให้ก็ได้ค่ะ นายหัวไม่ต้องเป็นห่วงคุณหยาหรอกค่ะ”
เดโชยกยิ้ม
“คนนี้ห่วงเป็นพิเศษล่ะลูกน้ำ แล้วนี่ห้าโมงครึ่งทำไมยังไม่กลับกันอีก หรืองานยังไม่เสร็จ” ปกติห้าโมงเย็นสำนักงานจะร้างคนในทันที
“พวกเราช่วยสอนงานคุณหยาอยู่ค่ะ” วลัยกรบอก ทำให้เดโชต้องมองหน้าเธอ
“งั้นรึ” ก่อนจะกดสายตามองคนตัวเล็กข้างๆ
“ค่ะ มีเอกสารบางอย่างที่หยาไม่เข้าใจ ก็เลยถามคุณแหวนกับลูกน้ำค่ะ”
“มีอะไรที่ยังไม่เข้าใจอีกบ้าง ไว้ถามคุณเดย์ก็ได้นะ”
“หยาไม่รบกวนคุณเดย์หรอกค่ะ” เธอตอบเสียงใส แต่พอเห็นประกายตาแวววับของเขาก็ต้องหลบตาคมวูบ
นี่ท่าจะคิดไปไกลอีกแล้วสิ!
“ถ้ามีอะไรที่คุณหยาไม่เข้าใจก็ถามแหวนได้นะคะ” เมื่อตอนเช้าวลัยกรไม่ใช่แบบนี้ แต่มายาวดีก็ไม่ทักท้วงหรือคิดจะหักหน้าเธอ
“ขอบคุณค่ะคุณแหวน จากที่นั่งศึกษามาทั้งวันก็พอจะเข้าใจแล้วค่ะ”
“คุณหยาเก่งจังเลยนะคะ” มีเอ่ยปากประชดประชันกันด้วย
“เก่งสู้คุณแหวนไม่ได้หรอกค่ะ อย่างนี้น่าจะให้หยาเป็นผู้ช่วยคุณแหวน”
“ว้าย! ไม่ดีหรอกค่ะ แหวนไม่กล้าใช้คุณหยาหรอกค่ะ”
“ไปกันได้หรือยัง” คนตัวโตก้มลงกระซิบข้างหูเล็ก มันใกล้มากขนาดเส้นขนบริเวณนั้นรู้สึกอุ่นจัด เธอหน้าแดงเป็นลูกตำลึงอายสองสาวที่มองเป็นตาเดียว
“หยากลับก่อนนะคะ” มายาวดีจึงบอกลาสองสาว แล้วเดินตามแรงรั้งของคนตัวโตเพื่อขึ้นรถสปอร์ตคันงาม
“โอ๊ย! ไม่เคยเห็นนายหัวในลุคนี้มาก่อนเลย ปกติจะเข้มมาก นี่อาไร้ว้านหวาน” ราตรีทำตาเพ้อฝัน ยกมือขึ้นประสานกันตรงหน้า
“ก็ขอให้เป็นแบบนี้ไปนานๆ แล้วกัน” วลัยกรบอกหน้านิ่ง แล้วเดินออกจากสำนักงานปล่อยให้ราตรีปิดประตูคนเดียว
เด็กราตรีส่ายหน้าไปมา คิดว่าพี่แหวนของเธอมีใจให้นายหัว แต่พอเจอแบบนี้พี่แหวนก็เลยอกหักและหงุดหงิดเป็นธรรมดา ก็ไม่แปลกถ้าจะมีสาวๆ ชอบนายหัวเยอะแยะ เพราะนายหัวของลูกน้ำทั้งหล่อ ทั้งรวย แม้จะดุมาก แต่ก็ใจดีมากเช่นกัน
“อาหารเย็นมาแล้วค่ะ”
ป้าลำเจียกกับลูกสาวช่วยกันลำเลียงอาหารเย็นมาวางไว้บนโต๊ะญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บนหาดทราย โดยมีเดโชและมายาวดีนั่งอยู่บนฟูกหนาอีกที
“น่ากินจังเลยค่ะป้าเจียก”
“กินเยอะๆ นะคะคุณหยา”
“หยากลัวจะอ้วนไปกว่านี้น่ะสิคะ ฮิๆ”
“คุณหยาห่างไกลคำว่าอ้วนอีกเยอะค่ะ” ป้าลำเจียกฉีกยิ้ม
“กินเยอะๆ น่ะดีนะ”
คนที่นั่งตรงข้ามโพล่งออกมา มายาวดีไม่เข้าใจ แต่ป้าลำเจียกยิ้มแทบปากจะฉีกถึงหู ก่อนจะถอยหลังจากไปปล่อยให้หนุ่มสาวได้อยู่กันตามลำพัง
