พ่อเพื่อนบำเรอรัก /12
ไม่รู้ทำไม เธอจึงอยากดูแผ่นนี้ อาจเพราะมันแตกต่างจากแผ่นอื่นก็คงใช่ และพอเปิดภาพในจอทีวีก็แสดงท่าทางการร่วมเพศอย่างถึงพริกถึงขิง ดวงตากลมโตขยายใหญ่เท่าไข่ห่าน ริมฝีปากจิ้มลิ้มอ้าปากอย่างตกใจ
ภาพในจอทีวีเคลื่อนไหว ในขณะที่เธอถูกสต๊าฟไว้ชั่วคราว กระทั่งฉากนั้นจบลง!
หญิงสาวบอกตัวเองให้ปิด แต่ใจเจ้ากรรมกลับคิดไปถึงเจ้าของห้องเวลาที่เขาดูหนังแผ่นนี้ เขาทำอะไรไปด้วย สักพักเธอก็ถอยกรูดไปนั่งพิงปลายเตียงพร้อมกับยกมือขึ้นนวดหน้าอกตัวเองไปมา ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ปรือลงเรื่อยๆ เหมือนภาพในจอทีวีที่เปลี่ยนไป มือของเธอก็ตกลงอยู่กลางหน้าขาอย่างไม่รู้ตัว
ภายในห้องเงียบๆ มีแต่เสียงครวญครางของสาวผมแดง ที่กำลังนั่งคร่อมอยู่บนใบหน้าของไอ้หนุ่มกล้ามปูผิวทองแดง
บ๊ะ! ผิวเหมือนนายหัวเดโชเลย!
ใบหน้าของเธอนั้นแดงก่ำ ต้นขาแยกออกอย่างช้าๆ มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปในกางเกงชั้นใน ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยความไม่ตั้งใจที่อยู่บนความตั้งใจ กางเกงขาสั้นถูกถอดออกในวินาทีต่อมา
สัมผัสจากปลายนิ้วให้ความรู้สึกประหลาดล้ำ มันเสียววูบวาบจนต้องบิดตัวไปมา ยิ่งทำก็ยิ่งลืมตัว ยิ่งนานก็ยิ่งมัน ความรู้สึกที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเอาไว้ถูกกระชากจนขาดผึง ร่างบางลุกขึ้นถอดกางเกงชั้นในวางไว้ข้างตัว
ดวงตากลมยังจับจ้องภาพในจอทีวี ปลายนิ้วก็ยังเขี่ยติ่งเนื้อสร้างความกระสันเร่าร้อน คลื่นความปรารถนาแผ่ซ่านเป็นวงกว้าง เรือนร่างขาวผ่องแอ่นหยัดเมื่อความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลเจอทางตัน กำแพงข้างหน้าระเบิดเป็นจุล ก่อนร่างขาวจะสั่นระริกอ่อนยวบลงเป็นขี้ผึ้งลนไฟ
มายาวดีปรือตาขึ้นอีกครั้งเมื่อเสียงสาวผมแดงคนเดิมกรีดร้องเหมือนถูกฆ่า ผ้าม่านปลิวไสวเรียกสติให้กลับมา เธอลุกขึ้นพรวดสิ่งแรกที่มองหาก็คือกางเกงขาสั้น เห็นมันอยู่ตรงหน้าก็รีบหยิบขึ้นมาสวมอย่างรีบร้อน รีบปิดทีวี ปิดเครื่องเล่น และถอดปลั๊ก แต่ลืมเอาแผ่นหนังออกจากเครื่อง ก่อนจะเผ่นออกจากห้องเข้าห้องตัวเองด้วยความกังวลใจ
5 โมงเย็นเศษๆ นายหัวเดโชก็กลับมาบ้าน เขาซื้อผลไม้ติดมือมาหลายอย่างหวังจะให้มายาวดีชอบ เคาะประตูห้องนอนของเธอเสียงดัง
“ก๊อกๆ ยะหยา ฉันซื้อผลไม้มาฝาก ออกมาสิ”
รอสักพักก็ได้ยินเสียงหวานตอบกลับ
“เดี๋ยวออกไปค่ะคุณพ่อ”
เมื่อได้ยินดังนั้นเขาก็เปิดประตูเข้าห้องตัวเอง
เดโชกระตุกเท้าขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อรู้สึกว่ากำลังเหยียบผ้าชิ้นเล็กๆ พอก้มมองก็พบว่าเป็นกางเกงชั้นในสีชมพูลายคิตตี้ เขาเกี่ยวมันขึ้นมาด้วยปลายนิ้วก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องนอนของตนอย่างสำรวจ แต่เมื่อไม่เห็นใคร จึงชูกางเกงชั้นในนั้นขึ้นสูง
“คุณพ่อจะทำอะไรคะ”
เดโชหันขวับพอเห็นมายาวดีก็รีบซ่อนกางเกงชั้นในไว้ข้างหลัง
“เปล่า” เดโชปฏิเสธ
“ก็เห็นๆ อยู่ว่าคุณพ่อกำลังจะดมกางเกงในหยา” เพราะเธอกำลังเห็นด้านมืดของเขา ความกลัวจึงทำให้พลั้งปากออกไปกล่าวหาว่าเขาเป็นโรคจิต
“นี่กางเกงในของเธอเองรึ” นายหัวหนุ่มเลิกคิ้ว พร้อมกับคีบซับในตัวน้อยขึ้นสูงระดับสายตา
“ใช่ค่ะ ของหยาเอง”
“แล้วทำไมมาอยู่ในห้องฉันได้ล่ะ”
“ก็...” มายาวดีไม่รู้จะบอกยังไง เพราะความจริงมันเกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจ แต่พอลองเปิดดูแล้วเธอกลับมีอารมณ์จึงลองช่วยตัวเองเป็นครั้งแรก แน่นอนมันตื่นเต้นมากๆ
“ถ้าตอบไม่ได้ งั้นพ่อยึด”
การที่เขาแทนตัวเองว่าพ่อ เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่าเขามีสิทธิ์ในการยึดเพราะมันคือสิ่งแปลกปลอมในห้องของเขา แต่ขณะนี้มายาวดีก็ยังยืนมือเย็นเฉียบเพราะทำอะไรไม่ถูก จะตอบคำถามของเขาได้อย่างไร ในเมื่อไม่ใช่เรื่องที่ควรจะต้องบอกใคร โดยเฉพาะเขา
“หยา...ดูหนังแล้วไปเข้าห้องน้ำในห้องนอนคุณพ่อค่ะ”
ประโยคนั้นไม่ได้ลดแววตารู้ทันของเดโชให้อ่อนแสงลง มุมปากของเขากลับยิ่งขยับยกขึ้นราวกับกำลังฟังเรื่องขำขัน
“เธอเข้าห้องน้ำต้องถอดกางเกงชั้นในทุกครั้งหรือไง อืม...เพิ่งรู้นะนี่”
ดีนะไม่ซ้ำเติมว่าถอดแล้วลืมทิ้งเกลื่อนกลาดอีก แค่นี้ก็ขายหน้ามากพออยู่แล้ว
“ขอคืนนะคะ” เธอแบมือไปข้างหน้า แต่เดโชกลับทำสิ่งที่น่าอายด้วยการดึงผ้าชิ้นน้อยๆ นั้นใกล้จมูกเขามากขึ้น
“หอมจัง”
“คุณพ่อเป็นโรคจิตชอบดมกางเกงในผู้หญิงหรือคะ” เธอต่อว่าหน้าตาแดงเถือก
“อยากได้คืนหรือเปล่าล่ะ” คนตัวโตเป็นต่อกว่าหลายขุม ต่อให้เธอด่าว่าหนักกว่านี้ คนหน้าด้านอย่างเขามีหรือจะหวั่น
“ทำแบบนี้ไม่เหมาะจะเป็นนายหัวเลยนะคะ” ต่อว่าซ้ำพร้อมย่ำเท้าไปมา อยากได้ของกลางคืนใจจะขาด กลัวเขาจะเอาไปประจานให้ได้ขายหน้า
“อื้ม...จริงด้วยนะ ถ้าอยากได้คืนก็พูดดีๆ เอาแบบน่ารักๆ นะ ฉันมันคนใจอ่อน อ้อนนิดอ้อนหน่อยก็ยอมแล้ว”
กรี๊ดดด มายาวดีอยากข่วนหน้าหล่อๆ ให้แหกเสียโฉมไปเลย
“คุณพ่อขา...ขอกางเกงชั้นในหยาคืนเถอะค่ะ” ยอมทำเสียงอ่อนหวานแต่โดยดี
“ไม่เอาคุณพ่อสิ ฟังแล้วเหมือนจะพรากผู้เยาว์ยังไงไม่รู้”
1...2...3...
เธอนับเลขอยู่ในใจ คันปลายเล็บตงิดๆ นี่ถ้าใบหน้าหล่อคมจะมีเลือดซิบเป็นทางยาว ยัยกึ้งจะตกใจไหม แต่ช่างเถอะ ยัยนั่นยังหนีไปเที่ยวได้เลยนี่
“อาเดย์ขา...” ลากเสียงยาว “ขอกางเกงหยาคืนเถอะนะคะ”
“ก็พอฟังได้นะ แต่...” เดโชทำท่าครุ่นคิด “ยังห่างไป มานี่สิ”
