พ่อเพื่อนบำเรอรัก /11
“ตามสบายนะ คิดซะว่าที่นี่คือบ้านของเธอ จะเข้าออกห้องไหนก็ได้ แต่อย่าแอบขโมยของล่ะเพราะฉันเป็นคนขี้หวง”
“หยาไม่ใช่ขี้ขโมยแน่ค่ะ รับรองได้” เธอเถียงทันควัน จะดูถูกกันไปหน่อยแล้ว เห็นเธอเป็นหัวขโมยไปได้ยังไง
“ถ้าเธอหยิบติดไม้ติดมือไป ฉันคงไม่จับส่งตำรวจหรอก”
“หยาไม่กลัวหรอกค่ะตำรวจ เพราะแน่ใจว่าไม่ได้ทำผิด” ยืดอกชูคอตอบเสียงแข็ง
“เพราะงี้ไง ฉันถึงต้องตัดสินโทษให้เธอเองด้วยวิธีของฉัน”
นายหัวเดโชลุกขึ้นยืดตัวเต็มความสูง 187 ซม. มันดูเหมือนข่มขวัญเธออยู่ในทียามที่ก้าวเข้าหา มายาวดีก็ถอยร่นไม่เป็นขบวนทำเอานายหัวหนุ่มถึงกับหัวเราะเสียงดัง
“อย่ากลัวกันขนาดนั้นสิยะหยา ฉันไม่ใช่ยักษ์ใช่มาร หล่อขนาดนี้เธอกลัวไปได้ยังไง”
“หล่อๆ สิคะยิ่งน่ากลัว”
“แปลกแฮะ ฉันต้องใช้วิธีไหนจัดการกับเธอหืมม์ยะหยา”
มายาวดีไม่ตอบ เธอไม่เข้าใจ เขาจะจัดการเรื่องอะไรในเมื่อเธอไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้เลยสักนิด เขาต่างหากที่ทำหัวใจเธอเดือดร้อนไปหมดจนหาทางออกไม่ได้ หันไปทางไหนก็เจอทางตัน
“ไปล่ะ กลับมาหวังว่าเราจะคุยกันมากขึ้นนะสาวน้อย”
หญิงสาวมองตามร่างสูงที่เดินจากไป เห็นเขาเลี้ยวซ้ายเธอก็มองไปทางซ้ายจนเขาเจอใครคนหนึ่งก็หยุดทักทาย และมีผู้ชายอีก 2 คนมารุมล้อม
โอย...ขนาดผู้ชายรุมล้อมยังโดดเด่นขนาดนี้ กะจะฆ่ากันจริงๆ ใช่ไหมคะคุณพ่อ
ฮึ! เธอก็เสียมารยาทมากนะที่รักษาถ้อยคำไว้ในปากเหลือเกิน แต่เหตุการณ์เมื่อคืนยังทำขนเธอลุกไปทั่วร่างจนถึงตอนนี้ เช้านี้ที่ตื่นสายจนเพื่อนทิ้งก็เพราะเขานั่นแหละทำเธอนอนไม่หลับเกือบทั้งคืน
‘ก็แค่ความโสดมันกลับมาอีกครั้ง ไม่มีเขาก็ไม่ตาย ตัวฉันเชื่อว่าอย่างนั้น...’ เสียงริงโทนดังขึ้นเรียกให้คนที่กำลังเตะทรายเล่นรีบควักโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากระโปรง พอเห็นว่าเป็นใครโทร.เข้ามา ใบหน้างามก็งอง้ำ
“หนีกันไปเที่ยวสองต่อสองไม่ยอมบอกเลยนะ”
“ไปจดทะเบียนกัน แล้วก็เลยไปฮันนีมูนด้วย” ปลายสายตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“โห...เรื่องสำคัญขนาดนี้ไม่ยอมบอกกันเลยนะ กะจะปิดเป็นความลับไปถึงเมื่อไหร่ งอนแล้ว!” คนงอนเพราะถูกทิ้งยังรอฟังคำตอบจากปลายสาย
“เอาจริงนะหยา ฉันอยากให้เธอมีเวลาอยู่กับพ่อสองต่อสอง”
“เธอยังไม่ล้มเลิกความคิดนี้อีกหรือกึ้ง”
“ไม่เลิก พ่อฉันกำลังสนใจเธออยู่นะ ดูจากสายตาก็รู้”
“เขาจะได้หลอกฟันฉันน่ะสิ”
“พ่อไม่ทำหรอก พ่อไม่เคยมองใครด้วยสายตาแบบนี้เลยนะ”
“หึ นี่เธอจะให้หยาเป็นแม่เลี้ยงจริงๆ หรือกึ้ง”
“ถือว่าทำบุญให้คนอายุ 40 ได้เมียใหม่สักทีนะหยา ฉันแต่งงานแล้วต่อไปก็คงมีครอบครัวและห่างๆ พ่อไปเรื่อยๆ ฉันก็อยากให้พ่อมีคนดูแล”
คนอย่างเขาดูแลตัวเองได้ดีทีเดียวล่ะ!!
“นะยะหยานะ อย่าโกรธ อย่าโมโหเพื่อนคนนี้เลย ฉันไม่อยากให้ใครขุดลอกพ่อตัวเองหรอกนะ”
“หึ ฉันนี่แหละ จะขุดให้เกลี้ยงเลย อยากได้นักใช่มั้ย” มายาวดีทำเสียงสูง อีกฝ่ายหัวเราะคิกคัก
“เอาเลยหยา กับเธอฉันไม่หวง หวังว่าช่วงที่ฉันไม่อยู่จะมีอะไรคืบหน้าบ้างนะ บายจ้ะว่าที่แม่เลี้ยงของฉัน”
“อะ...เดี๋ยวสิกึ้ง กึ้ง ยัยกึ้ง!!”
มายาวดีกรอกตามองท้องฟ้าแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นทราย ไม่น่าหลงกลมาที่นี่กับยัยบ้านั่นเลยจริงๆ น่าจะปล่อยให้พ่อฆ่าลูกเขยเสียให้เข็ด
โอ๊ย!!!
มายาวดีหวีดร้องเหมือนคนบ้าแล้วจมจ่อมอยู่กับความคิดของตัวเอง จวบจนเวลาล่วงไปถึงช่วงบ่าย ป้าลำเจียกออกมาตามให้ไปกินข้าว เธอจึงได้เพื่อนคุยชั่วขณะ
“ปกตินายหัวจะเป็นคนใจดีนะคะ เห็นปากร้ายแบบนั้นแต่ไม่เคยขาดเหตุผล คนที่นี่ถือได้ยกย่องเทิดทูนไงคะ”
เลยได้ฟังป้าแกคุยโวถึงนายหัวใหญ่ซ้ำยังยืนยันแบบนั้นนับไม่ถ้วน ดูเหมือนเธออาจจะต้องมองเขาในแง่ดีบ้างซะแล้วสินะ
เมื่อจัดการกับท้องตัวเองจนอิ่มหนำสำราญบวกกับการพยายามยัดเยียดความดีเลิศประเสริฐศรีของนายหัวเข้าหูตลอดเวลา มายาวดีจึงคิดว่าควรจะเข้าบ้านเพื่อไม่ให้ผิวดำคล้ำลงไปกว่านี้ และน่าจะหาหนังดีๆ แบบที่ชอบดูสักเรื่อง
แต่ต้องแลกกับการเข้าไปดูในห้องของเขา!
นี่ล่ะที่เธอต้องใช้เวลาในการตัดสินใจอยู่พักใหญ่กว่าจะยอมเปิดประตูห้องนอนฝั่งตรงข้ามกับห้องเธอเข้าไป พบว่ามีขนาดกว้างกว่าห้องของเธอพอสมควร และหากเขาจะใช้ชีวิตอยู่ในนี้โดยไม่ออกไปไหนเลยก็ไม่ยาก เธอเคยแปลกใจทำให้ห้องนั่งเล่นจึงโล่งโจ้งไม่มีอะไร ตอนนี้รู้แล้ว เครื่องอำนวยความสะดวกอยู่ในนี้ทั้งหมด
มายาวดีเลิกสำรวจห้องของคนที่ขยันปั่นหัวใจให้สั่นคลอน พุ่งกายไปยังจอทีวีขนาด 65 นิ้ว ชั้นวางทีวีเป็นตู้กระจกที่บรรจุหนังแผ่นเอาไว้มากมาย เธอเลือกแล้วเลือกอีก เลือกจนเจอแผ่นดีวีดีที่ใส่ซองไม่มีปกเหมือนแผ่นเปล่า ด้วยความสงสัยจึงหงายมันขึ้นดูว่าจะใช่แผ่นเปล่าหรือไม่ แล้วก็พบว่ามันซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้
