บท
ตั้งค่า

๕.๒ กรงนกขังใจ

“พี่ชายพีจะไปไหนหรือครับ”

พระพายจำได้ว่าถนนเส้นนี้ไม่ใช่ทางกลับวังตุลยาธร จึงถามขึ้นมาอย่างสงสัย

“ไปตลาด”

ได้ยินดังนั้นพระพายก็ตาโต ไม่ใช่ว่าลิงโลดดีใจที่จะได้ไปหาซื้อขนมที่ตลาดอีก แต่เพราะตกใจมากกว่าที่คนอย่างหม่อมราชวงศ์รพี ตุลยาธร จะไปเดินตลาด

“ไปทำไมหรือครับ” คงไม่ได้แค่ไปซื้อผักซื้อปลาเป็นแน่ ยิ่งคิดพระพายก็ยิ่งสงสัย

แต่คุณชายรพีไม่ตอบ เขาทำเพียงอมยิ้มไว้ ช่วงหลังมานี้พระพายได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้จนชินตา ถึงแม้พี่ชายพีจะยังคงรักษามาดคุณชายเจ้าระเบียบสีหน้าเคร่งเครียดยามอยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่หากอยู่กับพระพายและเจ้าจ้อยแล้วละก็เขามักจะมีรอยยิ้มกรุ้มกริ่มแบบนี้เสมอ

เมื่อทั้งสองมาถึงตลาดยามเย็นที่มีผู้คนจอแจ รพีก็พาพระพายเดินทอดน่องดูของไปเรื่อย พระพายได้ข้าวต้มมัดของโปรดของท่านชายตุ้มไปขึ้นโต๊ะเสวย ได้ลอดช่องใส่ขนุนของโปรดสร้อยฟ้า และยังได้ชาดอกมะลิไปฝากหม่อมจอมขวัญด้วย แต่รพียังไม่ได้อะไรเลย

“ตกลงพี่ชายพีมาซื้ออะไรกันแน่ครับ”

เดินมาจนถึงท้ายตลาดที่มีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น แต่กระนั้นพระพายก็ยังเหงื่อตกเพราะเดินเบียดผู้คนมาไกลโข สองมือยกขึ้นโบกลมใส่ใบหน้าเพื่อคลายร้อน ส่วนข้าวของที่ซื้อมาพี่ชายพีแย่งไปถือไว้เสียหมด

รพีจูงมือพระพายเดินต่อมาอีกไม่กี่ก้าว พวกเขาก็มาหยุดอยู่หน้าร้านเครื่องจักสานร้านหนึ่ง

“ถึงแล้ว”

พระพายกวาดตามองเข้าไปภายในร้านที่มีเครื่องสานที่ทำจากไม้ เป็นส่วนใหญ่ และมีบางชิ้นเป็นลวดและเหล็กชุบด้วย

“ตะกร้า กระด้ง ชะลอม กระบุง สุ่มไก่ กรงนก” พระพายขานชื่อสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า แล้วหันมาสบตาคนข้าง ๆ อย่างสงสัย ว่ารพีจะพาเขามาดูของพวกนี้ทำไม แต่.. “ดะเดี๋ยวนะ กรงนกหรือครับ?”

ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างอย่างดีใจ เมื่อเห็นมุมปากของพี่ชายพีฉีกยิ้มกว้างกว่าทุกวัน

“อืม กรงเดิมมันเล็กและเก่าเกินไป พี่สงสารเจ้าจ้อยมัน” ท้ายประโยคมือหนาเลื่อนมาวางบนศีรษะของพระพายแล้วจับโยกเบา ๆ คล้ายกับจะสื่อความหมายอีกนัยว่าพระพายคือเจ้าจ้อยที่เขาหมายถึง

หลังจากที่ไม่มีเจ้าของมาตามหาเจ้าจ้อย พระพายก็วานให้คนสวนทำกรงนกจากเศษไม้เก่า ๆ ที่พอจะหาได้ภายในวัง เอามาเหลาเป็นแท่งเล็ก ๆ แล้วตอกตะปูยึดเป็นกรงให้เจ้าจ้อยอยู่ชั่วคราว แต่มันไร้ซึ่งความสวยงามและสะดวกสบาย

รพีเห็นแล้วก็สงสาร มีเจ้าหน้าที่ที่กระทรวงแนะนำว่าตลาดแห่งนี้มีร้านเครื่องสานและมีกรงนกไม้ขนาดใหญ่ แกะสลักอย่างสวยงามสมกับเป็นบ้านของเจ้าจ้อยของหม่อมหลวงพระพายและคุณชายรพีนัก วันนี้หม่อมราชวงศ์หนุ่มจึงไปรับพระพายที่โรงเรียนเร็วหน่อยเพื่อที่จะพามาที่นี่ และกลับไปที่วังทันเวลาขึ้นโต๊ะเสวยของท่านชายตุ้ม

“พี่ชายพีคนดีของน้อง”

พระพายคว้าแขนรพีไปกอด แล้วซบใบหน้าลงกับไหล่ราชนิกุลหนุ่มอย่างออดอ้อน แถมยังยกยออีกคำใหญ่ “ใครว่าคุณชายรพีโหดร้ายใจดำ น้องเถียงขาดใจเลยครับ เพราะแท้จริงแล้วพี่ชายพีใจดีเป็นที่หนึ่ง”

รพีแทบจะระเบิดหัวเราะออกมากับคำป้อยอนั้น เขาอยู่มาจนอายุยี่สิบหกปียังไม่เคยได้ยินสักครั้งว่ามีใครพูดถึงเขาแบบนั้น เห็นจะมีก็แต่พระพายเท่านั้นกระมังที่ต่อว่าเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน

พี่ชายใจดีแถมบ้ายอเลยปล่อยให้น้องปากหวานเลือกกรงนกได้ตามใจชอบ ถึงกับออกปากว่าหากใส่รถไปไม่ได้ก็จะให้ทางร้านเอาไปส่งให้ถึงที่วังในวันพรุ่งนี้ พระพาย(ไม่)เกรงใจจึงเลือกเพียงกรงนกไม้สักทองฉลุลายหงส์ขนาดที่พอจะใส่รถไปได้ ที่ใหญ่กว่านี้ก็อยากได้แต่ใจร้อนไม่อยากรอถึงพรุ่งนี้

กระโปรงท้ายรถยนต์ปิดไม่ลงเพราะกรงนกใหญ่เกินไป ต้องเดือดร้อนให้ที่ร้านหาเชือกปอมาผูกพอให้กระโปรงท้ายกับกรงนกไม่เสียหายยามรถเคลื่อนที่หรือตกหลุม

“พี่ชายพีไม่ต้องขับเร็วนักนะครับเดี๋ยวจะสะเทือน แต่ก็อย่าช้ามากเพราะน้องอยากไปถึงวังเร็ว ๆ เจ้าจ้อยต้องดีใจมากแน่ ๆ ตอนเห็นบ้านใหม่”

เจ้าจ้อยจะดีใจหรือไม่รพีไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ เจ้าจ้อยข้างกายเขาดีใจจนยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว ทำเอาเขาเมื่อยหน้าไปหมดแล้ว ไม่ใช่เพราะเกร็งหน้านิ่งเหมือนเมื่อก่อน แต่เพราะต้องกลั้นยิ้มแห่งความปลื้มปริ่มยินดีเอาไว้

ตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองดูแลพระพายอย่างใกล้ชิด ชีวิตของหม่อมราชวงศ์รพีก็เปลี่ยนไปมากทีเดียว เจ้าหน้าที่ที่กระทรวงบอกว่าเขายิ้มมากขึ้น ไม่ค่อยทำหน้าเคร่งขรึมเหมือนแต่ก่อน เขาเองก็รู้ตัวว่ามีหลายอย่างเปลี่ยนไป รวมถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อเจ้าจ้อยตัวน้อยคนนี้ด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel