บท
ตั้งค่า

๔.๑ ฝนหลงฤดู

คำพูดที่ออกจากปากของหม่อมราชวงศ์รพี ตุลยาธร เป็นดั่งวาจาสิทธิ์ที่ไม่เคยมีผู้ใดขัดได้ แม้แต่เด็กดื้ออย่างหม่อมหลวงพระพาย ระวิวรรณ ราชนิกุลหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันว่าเหตุใดต้องทำตามคำสั่ง อาจเป็นเพราะคุณชายเป็นบุตรชายคนโตของหม่อมเจ้าตะวันฉายเจ้าของวังตุลยาธร หรือไม่ก็เพราะดวงตาคู่นั้น ดวงตาคู่สีดำขลับที่หากพระพายเผลอไปมองจะต้องรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว และไม่เป็นตัวของตัวเอง

ตอนเย็นหลังเลิกเรียนทุกวันหลังจากนั้น พระพายจึงต้องเข้าไปที่เรือนหลังใหญ่ที่อาศัยของสมาชิกตุลยาธรทุกคน ตัวบ้านหลังใหญ่มีถึงสามชั้น ชั้นล่างเป็นห้องรับแขก ห้องอาหาร ห้องหนังสือ ห้องจัดเลี้ยงรับรอง ส่วนชั้นสองปีกซ้ายเป็นที่อาศัยของหม่อมปรางทิพย์และหม่อมราชวงศ์ศศิธรหรือคุณหญิงกระต่าย ส่วนปีกขวาเป็นของหม่อมจอมขวัญและหม่อมราชวงศ์รัชนีกรหรือคุณหญิงแต้ว ส่วนหม่อมเจ้าตะวันฉายและหม่อมราชวงศ์รพี อาศัยอยู่ชั้นสามทางด้านขวาและซ้ายตามลำดับ

เมื่อเดินขึ้นมาถึงชั้นสาม พระพายจึงต้องเลี้ยวซ้ายเพื่อไปพบคุณชายรพีที่ห้องทำงาน

“เข้ามาสิ”

เมื่อเจ้าของห้องพเยิดหน้า พระพายก็เดินเข้าไปใกล้เพื่อรอรับคำสั่ง

“วันนี้มีการบ้านหรือเปล่า”

“มีครับ” พระพายยื่นสมุดให้ดู

“อย่างนั้นก็ทำการบ้านให้เสร็จก่อน”

พระพายพยักหน้ารับ ก่อนจะมองหาที่นั่ง

“นั่งตรงนี้นี่แหละ”

รพีเห็นคนตัวเล็กหันรีหันขวาง เพราะเก้าอี้ตัวเมื่อวานเขาให้คนเอาไปซ่อม หลังสังเกตเห็นว่าขามันโยกนิดหน่อยเกรงจะเป็นอันตรายกับเจ้าเด็กซนที่ชอบโยกเก้าอี้เล่นขณะนั่งทำการบ้านหรือว่าช่วยเขาแปลเอกสาร

พระพายมองเก้าอี้อีกตัวที่ว่าง มันเป็นเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับรพี มีแค่โต๊ะทำงานกั้น

“ทำไม?”

“เปล่าครับ”

คนตัวเล็กกว่าสั่นหน้า ขืนมีอะไรก็คงไม่วายโดนสายตาดุคู่นั้นฟาดให้ คนอะไรจะรักษาสีหน้าท่าทางและมาดคุณชายได้ทุกกระเบียดนิ้วขนาดนั้น

ราวสิบห้านาทีต่อมา คุณชายรพีที่คร่ำเคร่งอยู่กับเอกสารก็มีอันต้องเงยหน้าขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันขยับยุกยิก หัวคิ้วเรียวขมวดเป็นปม กดหัวดินสอกับข้างขมับตัวเอง ดวงตาสีน้ำตาลเพ่งมองไปที่ตัวอักษรภาษาจีนในสมุดการบ้าน

“มันแปลว่าอะไรนะ…”

คุณชายรพีหลุบมองบนตัวอักษร แม้มองกลับหัวเขาก็ยังอ่านออกและรู้ความหมายของมัน

“เด็กโง่”

พระพายมองค้อนคนแก่กว่าแล้วสวนกลับทันที “แค่นี้ต้องว่ากันด้วยหรือครับ ผมเพิ่งเรียนภาษาจีนได้ไม่นาน จะเก่งเท่าคุณชายได้ไง”

“เสี่ยว ฉ่า กวา แปลว่าเด็กโง่ ไม่ได้เป็นคำต่อว่า แต่มักใช้เรียกคนรักที่อายุน้อยกว่าอย่างเอ็นดู”

คนหน้านิ่งชี้ไปที่สมุดการบ้าน ตรงคำศัพท์ที่พระพายคิดไม่ออกว่ามันแปลว่าอะไร แล้วสอน ‘เด็กโง่’ ด้วยโทนเสียงเนิบทุ้ม ทำเอาพระพายหน้าเหวอ ได้แต่ยกมือขึ้นถูท้ายทอยอย่างเขิน ๆ

“เหรอครับ” แล้วฉีกยิ้มแฉ่งกลับไปอย่างขอลุแก่โทษ “ขอโทษครับ” แล้วก็ทำเป็นท่องซ้ำ ๆ ให้จำขึ้นใจ “เสี่ยวฉ่ากวา เสี่ยวฉ่ากวา เสี่ยวฉ่ากวา จำได้แล้วครับ”

ดวงตาสีน้ำตาลโค้งเป็นสระอิ มุมปากยกขึ้นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวสมมาตร กลีบปากสีสวยราวกลีบกุหลาบ ทำรพีที่มองเพลินนิ่งงันไปชั่วขณะ มิน่าท่านพ่อของเขาถึงได้เอ็นดูพระพายนัก เป็นเพราะเด็กคนนี้มีเสน่ห์ร้ายกาจและพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่เขาที่กำลังจะเอ่ยปากต่อว่า พอเห็นใบหน้าแบบนั้นก็ถึงกับลืมเลือนไปเลยว่าก่อนหน้าพระพายแสดงกิริยาไม่เหมาะสมอย่างไร

“ทำการบ้านเสร็จแล้วครับ วันนี้คุณชายมีงานอะไรให้ผมทำหรือครับ”

เสียงหวานดังกังวานเรียกหม่อมราชวงศ์รพีให้ตื่นจากภวังค์ แต่ก็ให้รู้สึกขัดหูพิลึกที่พระพายเรียกเขาว่าคุณชายทุกคำ

“เรียกพี่ว่าพี่ชายพี แล้วแทนตัวเองว่าน้องเหมือนหญิงแต้วกับหญิงต่าย”

“แต่…”

“นี่เป็นคำสั่งของผู้ปกครอง”

ผู้ปกครองจำเป็นน่ะสิ รู้หรอกว่าไม่ได้เต็มใจ หากท่านลุงไม่สั่ง มีหรือที่คุณชายรพีผู้เย่อหยิ่งจะมาสนใจไยดีกาฝากอย่างเขา แล้วดูทำหน้าเข้าสิ ไม่เมื่อยบ้างหรืออย่างไร เก๊กหน้าเข้มขรึมอยู่ได้ตลอดเวลา เขม้นสายตาดุ แล้วก็ผูกคิ้วเป็นโบเชียว พระพายได้แต่คิดค่อนขอดในใจ ยอมทำตามแต่ก็อดไม่ได้ที่จะประชดประชัน

“ครับ แล้วตกลงวันนี้พี่ชายพีมีงานอะไรให้น้องทำครับ น้องจะได้รีบทำแล้วรีบกลับเรือน พี่ชายพีจะได้พักผ่อน น้องคิดว่าตอนนี้พี่ชายพีน่าจะเมื่อยหน้าเพราะว่าพี่ชายพีทำหน้าตึงมาตั้งแต่น้องเข้ามาแล้ว หากพี่ชายพีคลายปมที่คิ้วลงบ้าง น้องคิดว่าจะช่วยคลายเมื่อยหน้าได้อยู่มากโขเลยเชียวครับพี่ชายพี”

“พระพาย!”

“อ๊ะ มีอีกอย่างนะครับพี่ชายพี” แล้วพระพายก็กดปลายนิ้วที่มุมปากของตัวเอง “ปากเนี่ย นอกจากเอาไว้พูดแล้วยังเอาไว้ยิ้มได้ด้วยนะครับ ยิ้มแบบนี้”

แล้วริมฝีปากอิ่มสีกุหลาบก็ฉีกยิ้มกว้างให้ดูเป็นตัวอย่าง พร้อมกับยื่นหน้าข้ามโต๊ะทำงานเข้าไปหาผู้ปกครองจอมดุ เล่นเอารพีถึงกับต้องเม้มปากเพื่อกลั้นยิ้ม แล้วเบนหน้าหนีเสไปมองทางอื่น

สายตาคมเหลือบไปเห็นก้อนเมฆดำลอยต่ำผ่านหน้าต่างห้องทำงาน จึงถือโอกาสเปลี่ยนเรื่องเอาดื้อ ๆ

“ฝนตั้งเค้ามาแล้ว”

พระพายมองตามก็เห็นดังนั้น ใบไม้เริ่มพลิ้วไหวลู่ไปตามแรงลม แล้วเม็ดฝนก็โปรยปรายลงมาอย่างรวดเร็ว

“จริงด้วย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel