บท
ตั้งค่า

๑๓.๑ ข่าวร้ายในวัง

เช้าวันรุ่งขึ้น

ประกาศจากวังตุลยาธรแจ้งข่าวการสิ้นชีพิตักษัยของหม่อมเจ้าตะวันฉาย ตุลยาธร ด้วยอาการหทัยล้มเหลวเฉียบพลัน ยังความโศกเศร้าให้เหล่าญาติสนิทและผู้ใกล้ชิด โดยเฉพาะหม่อมและธิดาทั้งสองของท่านชาย

“ฉันจะแจ้งทางการเอาหล่อนเข้าตะรางอีนังสร้อยฟ้า! หล่อนทำให้ท่านชายต้องตาย อีแพศยา อีสารเลว”

หม่อมปรางทิพย์ให้การกับตำรวจว่าสร้อยฟ้ายั่วยวนท่านชายจนท่านหทัยวายสิ้นชีพิตักษัย เธอฟูมฟายเล่าเหตุการณ์เป็นฉาก ๆ ว่าสภาพของสร้อยฟ้าตอนที่เธอเข้าไปพบกำลังเริงสวาทโดยไม่สนว่าท่านชายจะรับไหวหรือไม่ เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ผมเผ้ายุ่งเหยิงโหมเข้าใส่จนเสร็จกิจ แล้วท่านชายก็สิ้นชีพคาอก

หมอที่ถูกตามมาตรวจอาการท่านชายหลังสิ้นใจได้ไม่นานยืนยันผลการตรวจวินิจฉัยทั่วองค์ว่าท่านชายเพิ่งผ่านการร่วมสวาทจริง แต่ที่ท่านสิ้นเป็นเพราะโรคประจำองค์เอง ตำรวจจึงไม่สามารถเอาผิดสร้อยฟ้าได้เต็มที่เพียงแต่ขอสอบปากคำเท่านั้น เหตุเพราะทั้งพระญาติและคนที่สนิทสนมกับท่านชายที่มาร่วมงานเมื่อสามวันก่อนยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าสร้อยฟ้าเป็นหม่อมคนล่าสุดของท่าน หากจะเริงรักกันก็ย่อมเป็นเรื่องปกติธรรมดา

คงมีแต่คนในวังตุลยาธรเท่านั้นที่รู้กันว่าสร้อยฟ้าไม่เคยมานอนค้างที่เรือนใหญ่ ท่านชายไม่เคยเสด็จไปที่เรือนหลังเล็กท้ายวัง การที่สร้อยฟ้าเข้าไปอยู่ในห้องทรงงานกับท่านชายสองต่อสองในยามวิกาลจึงคิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากสร้อยฟ้าจงใจเข้าหาท่าน เธอจึงตกเป็นขี้ปากในเรื่องยั่วยวนท่านชายให้เล่นสวาทไม่รู้จักเวล่ำเวลาและไม่เลือกสถานที่

“อีหน้าด้าน! อีตัวกาลกิณี ท่านอยู่ของท่านดี ๆ เพิ่งชันษาเท่านี้แต่ต้องมาสิ้นชีพิตักษัยเพราะคนไร้ยางอายอย่างหล่อน! คนอย่างหล่อนมันต้องไม่ตายดี!”

การก่นด่าสาปแช่งไม่เพียงแต่ออกมาจากปากของหม่อมปรางทิพย์และคุณหญิงต่ายเท่านั้น แต่ยังมีบ่าวไพร่คนรับใช้ในวังที่จงรักภักดีและเทิดทูนท่านชาย ต่างก็มองสร้อยฟ้าอย่างเหยียดหยามเกลียดชังในการกระทำสิ้นคิด

“เธอจะไม่แก้ตัวอะไรหน่อยหรือสร้อยฟ้า” หม่อมจอมขวัญถามด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว แต่เธอไม่ได้อาละวาดอย่างเช่นที่หม่อมปรางทิพย์ทำ

“ฉันยืนยันว่าไม่ได้ทำอย่างที่หม่อมปรางทิพย์กล่าวหา”

“แล้วเธอเข้าไปทำอะไรในห้องทรงงานของท่านดึก ๆ ดื่น ๆ”

“ท่านให้ฉันตามขึ้นมาเพื่อรับสั่งบางอย่าง”

“รับสั่งอะไร?”

“ฉันจะบอกเรื่องนั้นเมื่อคุณชายรพีกลับมา”

“เช่นนั้นเธอก็เตรียมตัวตอบคำถามของคุณชายรพีให้ดีเถิด ท่านพ่อสิ้นชีพิตักษัยจากไปโดยที่คุณชายไม่มีโอกาสได้ร่ำลา ฉันหวังว่าคุณชายรพีจะอภัยให้เธอสองแม่ลูก!”

“คุณแม่ครับ”

พระพายให้กำลังใจมารดาอยู่ไม่ห่าง การจากไปของผู้ใหญ่ที่พระพายเคารพรักและเทิดทูนไม่ต่างจากผู้เป็นบิดาทำราชนิกุลหนุ่มเสียใจไม่ต่างจากบุตรธิดาของท่านทั้งสาม แต่ยามนี้ที่มารดาถูกกล่าวหาว่ามีส่วนทำให้ท่านชายสิ้นชีพิตักษัย พระพายจำเป็นต้องเข้มแข็งเพื่อเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวให้มารดา

เมื่อมีโอกาสได้อยู่กันตามลำพังพระพายก็ถามสร้อยฟ้าอย่างสงสัย

“คุณแม่ไปที่เรือนใหญ่ทำไมหรือครับ?”

สร้อยฟ้าเล่าให้พระพายฟังถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา และเธอยังบอกอีกว่าความหวังที่จะล้างมลทินให้หม่อมราชวงศ์พศุตม์ใกล้จะเป็นความจริง แต่สร้อยฟ้าเลี่ยงที่จะบอกพระพายในสิ่งที่ท่านชายสารภาพออกมาเพื่อรักษาเกียรติของท่านและยังความเคารพนับถือไว้ในหัวใจของพระพายที่มีต่อผู้มีพระคุณ

“พระพาย ขอเพียงล้างมลทินให้พ่อได้ แม่ก็พอใจแล้ว ส่วนเรื่องบางอย่างที่พูดไปก็รังแต่จะทำร้ายทำลายกันไม่จบสิ้น เราฝังมันไว้แล้วจดจำแต่คุณงามความดีเถิดนะ”

สร้อยฟ้าสอนลูกชายอย่างที่คิดทบทวนมาดีแล้ว พระพายกับคุณชายรพีมีใจให้กัน เธอไม่ต้องการให้ความบาดหมางของพ่อแม่ส่งผลถึงความสุขของลูก อย่างไรเสียในนาทีสุดท้ายของชีวิตท่านชาย ท่านก็กล้าหาญที่จะพูดความจริงออกมา เธอจะทำเพื่อคนรักเก่าเป็นครั้งสุดท้ายด้วยการรักษาเกียรติของท่านตลอดไป ส่วนสามีเมื่อไร้มลทินแล้วเขาคงตายตาหลับ และสร้อยฟ้าเชื่อเหลือเกินว่าหากเป็นหม่อมราชวงศ์พศุตม์มาอยู่ในจุดที่เธอต้องตัดสินใจ สามีแสนดีของเธอก็จะทำในแบบเดียวกัน

“แล้วทำไมคุณแม่ถึงบอกว่าต้องรอพี่ชายพีกลับมา หลักฐานพวกนั้นอยู่กับพี่ชายพีหรือครับ”

“ก็ไม่เชิงหรอกลูก”

“หมายความว่าอย่างไรครับคุณแม่ ลูกไม่เข้าใจ”

“แม่ยังบอกอะไรลูกไม่ได้มากนักจนกว่าจะปรึกษากับคุณชายรพีเสียก่อน ท่านชายขอร้องแม่ไว้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel